svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

"ดีเอสไอ"ยันแจ้งข้อหา 2 อดีตรมต.หักหัวคิวคนไทยทำตามพยานหลักฐาน

"ดีเอสไอ" ยันแจ้งข้อหา 2 อดีตรัฐมนตรี - 2 ข้าราชการระดับสูงกระทรวงแรงงาน พัวพันหักค่าหัวคิวคนไทยไปเก็บผลไม้ป่าฟินแลนด์ ไม่ได้เป็นการกลั่นแกล้ง ลั่นทำตามพยานหลักฐาน ชี้ประเด็น "ค้ามนุษย์" อยู่ระหว่างสอบสวน ย้ำทุกอย่างต้องส่ง ป.ป.ช. ไต่สวนข้อเท็จจริง

17 มกราคม 2567 นายสมบูรณ์ ม่วงกล่ำ ที่ปรึกษา รมว.ยุติธรรม นายกูเฮง ยาวอหะซัน เลขาฯ รมว.ยุติธรรม พร้อมด้วย "พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ" รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะรักษาราชการแทนอธิบดีดีเอสไอ และ "พ.ต.ต.สิริวิชญ์ ชาญเตชะสิทธิ์กุล" ผอ.กองคดีค้ามนุษย์ ร่วมกันแถลงประเด็นสำคัญของดีเอสไอ ซึ่งอยู่ในความสนใจของประชาชน

โดยเฉพาะประเด็นกรณีที่กองคดีการค้ามนุษย์ของดีเอสไอ ที่ร่วมกับพนักงานอัยการ สำนักงานอัยการสูงสุด ที่ได้มีมติให้กล่าวหาอดีตข้าราชการฝ่ายการเมืองระดับรัฐมนตรีและผู้บริหารระดับสูง ของกระทรวงแรงงาน รวม 4 ราย ในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 และมาตรา 157 ประกอบมาตรา 83 และมาตรา 86 จากการมีส่วนเกี่ยวข้องกับแรงงานไทยที่ไปทำงานเก็บผลไม้ป่าที่สาธารณรัฐฟินแลนด์ เมื่อปี 2563 - 2566 และอาจเข้าข่ายการค้ามนุษย์

โดย พ.ต.ต.สิริวิชญ์ กล่าวว่า กรณีที่มีมติแจ้งข้อกล่าวหาที่เกิดขึ้นแก่ทั้ง 4 ราย และได้ส่งสำนวนไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อให้ดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงนั้น สืบเนื่องจากคณะพนักงานสอบสวนมีพยานหลักฐานชัดเจน ทั้งบุคคล เอกสาร และหลักฐานทางการเงิน ที่ยืนยันว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ ในการเรียกรับผลประโยชน์จากนิติบุคคลและบุคคลในการส่งคนไทยไปทำงานที่สาธารณรัฐฟินแลนด์

ทั้งนี้ เบื้องต้นพบเส้นทางการเงินที่โอนไปยังกลุ่มบุคคลทั้ง 4 รายนี้ รวม 36 ล้านบาท และพนักงานสอบสวนได้พิจารณาพยานหลักฐานอย่างรอบคอบและถี่ถ้วน ก่อนการมีมติแจ้งข้อกล่าวหา ทั้งยังดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา ไม่ได้มีการกลั่นแกล้งทางการเมืองอย่างที่ปรากฏเป็นข่าว 

 

หลังจากนี้ ดีเอสไอจะส่งสำนวนในคดีที่เกี่ยวข้องกับความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐให้กับ ป.ป.ช. พิจารณาภายใน 30 วัน ส่วนข้อกล่าวหาเรื่องการค้ามนุษย์ การสมคบ หรือการสนับสนุน ดีเอสไอได้แยกดำเนินคดีเป็นอีกหนึ่งคดี ซึ่งยังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน

อย่างไรก็ตาม ในกรณีของมูลฐานความผิดค้ามนุษย์นั้น พนักงานสอบสวนสามารถดำเนินการต่อได้ โดยไม่ต้องรอ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดต่อสำนวนคดีแรก ในส่วนของความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ดังกล่าว

 

"เรายังไม่ได้กำหนดกรอบระยะเวลาที่ชัดเจนในการจะเรียกผู้ที่ถูกกล่าวหามาให้ข้อมูลในส่วนของการค้ามนุษย์ ส่วนจะเรียกผู้ถูกกล่าวหาให้เข้ามาให้ข้อมูล หรือรับทราบข้อกล่าวหาหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของพนักงานสอบสวน หากเมื่อดีเอสไอมีพยานหลักฐานที่เพียงพอแล้ว ก็สามารถส่งสำนวนไปยัง ป.ป.ช.ให้ดำเนินการต่อได้เลย อาจจะไม่ต้องเรียกบุคคลเข้ามาพบ เพราะเมื่อการกระทำความผิดนั้น ไปเกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ" พ.ต.ต.สิริวิชญ์ กล่าว

 

ส่วนการที่มีตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใดจึงมีการแจ้งข้อกล่าวหาในช่วงนี้นั้น พ.ต.ต.สิริวิชญ์ ชี้แจงว่า เรื่องดังกล่าวได้ดำเนินการมาตลอด ตั้งแต่ได้รับเรื่องมาในช่วงเดือน ต.ค. 2565 และได้มีการรวบรวมพยานหลักฐานผ่านทางกลไกความร่วมมือทางอาญาระหว่างประเทศ ก่อนจะมีการประชุมคณะพนักงานสอบสวน จึงมีมติแจ้งข้อกล่าวหาไปเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ซึ่งการที่มีเจ้าหน้าที่รัฐ เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องถือเป็นสาเหตุอันดับต้น ๆ ของการค้ามนุษย์ ดังนั้น การที่ดีเอสไอทำคดีนี้อย่างตรงไปตรงมาและเด็ดขาด จะช่วยยกระดับการแก้ปัญหาค้ามนุษย์ของประเทศไทยได้

ด้าน พ.ต.ต.ยุทธนา ระบุว่า การกล่าวหาซึ่งเป็นข้าราชการระดับสูง ได้โต้แย้งจะฟ้องกลับนั้น ก็ถือเป็นสิทธิ์ที่สามารถกระทำได้ แต่ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่รับผิดชอบในการแจ้งข้อกล่าวหา โดยมีพยานหลักฐานที่เพียงพอในการแจ้งข้อกล่าวหา และเป็นไปตามกรอบของกฎหมาย