"อาจารย์เอก ฝ่ามือพลังจิต" ท้า สธ. พิสูจน์การรักษาผู้ป่วยด้วยพลังจิต

14 พฤศจิกายน 2566 เป็นประเด็นสืบเนื่องจากที่ชาวเน็ต ได้มีการแชร์คลิป อาจารย์เอก ฝ่ามือพลังจิต รักษาผู้ป่วยที่มีปัญหาเรื่องหมอนรองกระดูก ด้วยการให้นอนคว่ำ และเดินถีบผู้ป่วยแต่ละคน โดยในคลิปผู้ถ่ายบรรยายว่า คนที่นอนอยู่นี่ มีอาการกระดูกทับเส้นทั้งหมด ไม่ต้องใช้เวลานาน แค่ให้อาจารย์ถีบแล้วลุกขึ้นเลย แล้วทดสอบเลยว่า เบาขึ้นไหม ดีขึ้นไหม ซึ่งมีคนยกมือตอบว่า โดนถีบแล้ว อาการดีขึ้น เบาขึ้น
 

ซึ่งเป็นเรื่องที่สังคมออนไลน์ ตั้งคำถามเกี่ยวกับการกระทำดังกล่าวเป็นจำนวนมากว่า สามารถรักษาได้จริงหรือไม่? 

และการรักษาของอาจารย์เอก ยิ่งเป็นที่พูดถึงหลัง ได้เข้าช่วยรักษาอาการป่วยของ เมฆ วินัย ไกรบุตร อดีตพระเอกชื่อดัง จนอาการเริ่มดีขึ้น


ก่อนมีการหลุดโป๊ะว่า อาจารย์เอก เคยรักษาตาที่บอดของ นางเสาร์ จินดาศรี ย่า "น้องใบเตย" ด.ญ.ชั้นอนุบาล 3 ที่เคยตกเป็นข่าวทำงานบ้าน แทนยายตาบอดที่อยู่กันเพียง 2 คนตามลำพัง จนกลับมาเห็นได้ตามปกติ แต่หลังจากนั้นเพียง 3 วันก็ตาบอดสนิท

 

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ ศศิ นนทบุรี โฮเทล แอนด์ อพาร์ตเมนต์ ถนน กาญจนาภิเษก อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี พบ อาจารย์เอก ฝ่ามือพลังจิต หรือ นายกีรติ สมคิด อายุ 53 ปี หมอฝ่ามือเทวดาคนดังในโซเชี่ยล ที่นำศาสตร์พลังจิต มาทำการรักษาผู้ป่วย ที่เป็นอัมพฤกษ์ แขนขาอ่อนแรง หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ปวดคอ ปวดหลัง ปวดหัวไมเกรน โดยวันนี้มีผู้ป่วย มารอรับการรักษาเป็นจำนวนมาก
 

อาจารย์เอก ฝ่ามือพลังจิต กล่าวว่า กรณีของยายเสาร์ ก่อนหน้านี้ตนเคยไปช่วยรักษามาให้แล้ว 2 รอบ ทุกรอบที่ไป อาการก็ดีขึ้นหมด จากที่มองไม่เห็นแสงอะไรเลย ต้องใช้ไม้เท้าช่วยค้ำ จนตอนนี้กลับมามองเห็นหน้าลูกหน้าหลานแล้ว

ซึ่งตนเคยบอกกับยายเสาไว้แล้วว่า สามารถช่วยได้แค่นี้ เพราะมาครั้งหนึ่งตนก็หมดเกือบแสน แต่ถ้ายายเสาร์มีเงินแล้ว ให้กรรมการเขาพามาหาอาจารย์ อาจารย์จะช่วยต่อเนื่องให้ เพราะถ้าไม่มารักษาต่อเนื่อง เดี๋ยวอาการยายเสาร์จะกลับไปเป็นเหมือนเดิมอีก เพราะยังไม่เสร็จสิ้นกระบวนการรักษาแบบเต็มรูปแบบ
 

อาจารย์เอก กล่าวอีกว่า จากที่ตนรักษาคนตาบอด จนผลออกมาแล้วว่า จากที่มองไม่เห็นอะไรเลย แต่วันนี้ หลังการรักษากลับมาทำให้มองเห็นอีกครั้ง ซึ่งตัวยายเสาร์เอง ก็ไม่ใช่คนที่ตาบอดสนิท แต่มีสื่อบางช่องไปออกข่าวว่า แกบอดสนิท แล้วหลังการรักษาเสร็จแล้วผ่านไป 3 วัน ก็กลับมาบอดสนิทเหมือนเดิม  เป็นการออกข่าวที่ผิดไป ตนขอให้ไปแก้ไขให้ตนด้วย

หลังจากนี้ตนจะเดินทางไปพิสูจน์ กับยายเสาร์อีกครั้ง แต่ครั้งนี้ตนอยากให้นักข่าวทุกคน ตามไปพิสูจน์พร้อมกันได้เลย ถ้าทำแล้วไม่ดีขึ้น ตนจะเลิกทำการรักษาทุกอย่างเลย แต่ที่ผ่านมา คนป่วยซึ่งเดินทางไปรับการรักษา กับทางการแพทย์ปัจจุบัน ทั้งไปเจาะไปผ่า แต่ก็ไม่ช่วยทำให้อาการดีขึ้น 

 

อาจารย์เอก กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา ตนช่วยเหลือผู้คนจนเป็นกระแส จนทำให้มีผู้ป่วย เดินทางมานั่งรออตนรักษาจนล้น หลังจากที่ทางการแพทย์ปัจจุบัน ไม่สามารถช่วยเหลืออะไรให้เขาได้ แล้วทำไมคนป่วยจะเลือกการรักษาเส้นทางนี้ไม่ได้ เพราะฉะนั้นมาพิสูจน์กัน
 

ขอท้าสาธารณสุขทุกแห่งในประเทศไทย หมอดัง ๆ ในประเทศให้มาพิสูจน์กัน ผมพร้อมท้าพิสูจน์ เพื่อให้นำเอาศาสตร์นี้มาอยู่กับโลกใบนี้ อยู่คู่กับการรักษาแผนปัจจุบันจะดีกว่าไหม แทนที่จะต้องมานั่งโจมตีกัน มาพิสูจน์ได้กันได้เลยตนยินดี ตนขอฝากไปถึงรัฐมนตรี สธ. ด้วยว่า เรื่องนี้มันเป็นของดี อยากให้มันอยู่คู่โลกใบนี้ 

อาจารย์เอก กล่าวต่ออีกว่า ศาสตร์ชนิดนี้เป็นศาสตร์แรก ที่เกิดขึ้นในโลกใบนี้ ไม่มีผิด คนที่ไม่เชื่อเพราะมันเป็นเรื่องอัศจรรย์ แต่ถ้าถามว่า สามารถพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นได้ เพราะมาจากการฝึกในเรื่องของพลังจิตขั้นสูงแล้ว ต่อให้ไม่โดนตัว ก็รักษาได้เป็นบางโรค ใครปวดหัวอยู่ตรงไหนก็ได้ video call มาหาอาจารย์ อาจารย์ทำให้ดูผ่านโทรศัพท์ได้ หรือปวดเข่าให้รักษาตรงนี้ไม่ต้องจับก็ได้ เดี๋ยวหาเคสมาพิสูจน์ ที่เคสเป็นจริง อะไรที่มันเกิดขึ้นมา ยินดีพิสูจน์ทุกเส้นทาง


ตนไม่ได้บอกว่า คนที่มาหาตนแล้ว คนนี้จะหายเลย ตนไม่ได้บอก แต่คนป่วยที่เขามาเขาจะพูดกันเองว่า ดีขึ้นกี่เปอร์เซ็นต์ ถ้าเขาบอกดีขึ้น 10% , 20% อาจารย์ก็จะทำต่อ วันนั้นคนป่วยไปเป็นพันกว่าคน ลูกศิษย์อาจารย์ไป 30 กว่าคน แทบรับมือไม่ไหว อาจารย์เลยต้องใช้อภิญญาช่วย

ยืนยันว่า สิ่งที่ทำไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องเงิน การเชิญมาทุกคน เจ้าของสถานที่เขามีการเช่าอาคาร คือเป็นค่าครูใครจะรวบรวมมาให้ โดยค่าครูบาอาจารย์ที่นำมามอบให้นั้น เป็นค่าเดินทางมา เพราะไม่มีใครอยู่ที่นี่ ตรงนี้คุณอาทรเขาเปิดเขาเชิญอาจารย์มา อาจารย์บอกเดือนนี้ว่าง 6 วันคุณก็จัดคิวมา รวบรวมกันมา ใครไม่หาย เขาก็ไม่รับค่าครูก็คืนไป ใครไม่รุนแรงอาจารย์ก็ไม่รักษา จะเอาเฉพาะคนที่อาการรุนแรง ที่หมอทำอะไรเขาไม่ได้แล้ว เช่นกระดูกทับเส้นต้องไปผ่า อาจารย์มีอยู่ 4 - 5 บริษัท ไม่ได้เดือดร้อนเรื่องทรัพย์สินเงินทอง มีค่าครูก็นำไปช่วยเหลือคน อย่างอาจารย์ไปช่วยคนแต่ละที่หมดไม่ต่ำกว่า 7-8 หมื่นบาท