รู้จัก แด๊ดดี้ปุ่น  "ศิธา ทิวารี" อดีตนักบิน F-16 กับชีวิตบนเส้นทางสายการเมือง

หากจะเอ่ยชื่อ นาวาอากาศตรี (น.ต.) ศิธา ทิวารี หรือที่หลายคนเรียก ผู้พันปุ่น หรือฉายาล่าสุด แด๊ดดี้ปุ่น

"ศิธา ทิวารี" เกิดเมื่อวันที่ 6 พ.ย. 2507 ปัจจุบันอายุ 59 ปี (ในปีนี้) ท่านเป็นลูกชายของ มานพ ทิวารี กับ หม่อมราชวงศ์ (มรว.) จารุวรรณ ทิวารี (ราชสกุลเดิม: วรวรรณ) เป็นพระนัดดา (หลาน) ของหม่อมเจ้าดุลภากร วรวรรณ พระโอรสในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวรวรรณากร กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ กับหม่อมอินทร์ โดยพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวรวรรณากร กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ มีพระนามเดิมว่า พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าวรวรรณากร เป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๔) กับเจ้าจอมมารดาเขียน

ศิธา ทิวารี หรือ น.ต.ศิธา เข้าเรียนที่โรงเรียนเซนต์ดอมินิก ตั้งแต่ระดับชั้นประถมศึกษาจนถึงมัธยมศึกษาตอนต้น จากนั้นไปสอบเข้าโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา โรงเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 24 (ตท.24) โดยเป็นประธานรุ่น และเข้ารับการศึกษาระดับปริญญาตรีต่อที่ วิทยาศาสตรบัณฑิต จากโรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช รุ่น 31

ต่อจากนั้น น.ต.ศิธา เข้ารับราชการทหารในสังกัดกองทัพอากาศ และเคยเป็นนักบินขับไล่นอร์ธรอป เอฟ-5 (Northrop F-5) และใช้เวลานานเกือบ 8 ปี จนได้เป็นนักบินขับไล่ เอฟ-16 ไฟทิงฟอลคอน (General Dynamics F-16 Fighting Falcon) และท้ายที่สุด ก่อนที่จะลาออกจากราชการเพื่อมาทำงานการเมือง คือตำแหน่ง รองหัวหน้าแผนกแผนร่วม กองนโยบายและแผน กรมยุทธการ กองทัพอากาศ

โดย น.ต.ศิธา ทิวารี ได้เข้าพรรคไทยรักไทย และลงสมัครเลือกตั้ง ส.ส. กรุงเทพฯ เขต 9 (คลองเตย) ในปี 2544 รวมถึงปี 2548 ระหว่างนั้น น.ต.ศิธา ได้นั่งตำแหน่งโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รวมถึงรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ก่อนที่จะถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองนาน 5 ปี จากคดีพรรคไทยรักไทยถูกยุบในปี 2549 เหตุนั่งเป็นกรรมการบริหารพรรค

สุดปังกับ ฐานะ "แด๊ดดี้" ศิธาของทุกคน
หลังเข้าร่วมพรรคไทยสร้างไทย ศิธาลงสมัครผู้ว่า กทม. เบอร์ 11 ในปี พ.ศ.2565 แม้จะไม่ได้รับเลือกให้เป็นผู้ว่าฯ แต่ชื่อศิธานั้นก็ได้รับความสนใจจากประชาชนทั่วไป ด้วยลีลาการวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลด้วยฝีปากที่เฉียบคมและตรงไปตรงมา จนทำให้เขากลายเป็นขวัญใจของใครหลายคน ถึงกับเกิดแฟนด้อม “แด๊ดดี้ศิธา” และมีการจัดงานแฟนมีตติ้งชมภาพยนตร์เรื่อง Top Gun 2 ร่วมกับแฟนคลับ

ในการเลือกตั้งทั่วไป 2566 ก็เป็นอีกครั้งที่ ชื่อเสียงและผลงาน ของศิธาได้แสดงฝีไม้ลายมือดูได้การร่วมดีเบต จนถูกอกถูกใจประชาชนจำนวนมาก แม้ว่า ศิธาจะลงสมัคร สส.แบบบัญชีรายชื่อ ในสังกัดพรรคไทยสร้างไทย แต่เขาก็ไม่ได้รับเลือกตั้งให้เข้าสภา

ช็อตฟีลไปทั้งโซเชียล หลังมีกระแสข่าว แด๊ดดี้ปุ่น "ศิธา"  โบกมือลา" ไทยสร้างไทย"

1 พฤศจิกายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานจากสำนักงาน คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)แจ้งว่า น.ต.ศิธา ทิวารี แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคไทยสร้างไทย ได้แจ้งยื่นลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคไทยสร้างไทย เป็นที่เรียบร้อยกับทางพรรคไทยสร้างไทย เมื่อวันที่ 27 ตุลาคมที่ผ่านมา

ตามขั้นตอนของกฎหมายหรือพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 มาตรา 27 วรรคสอง กำหนดให้การลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคการเมืองมีผลสมบูรณ์เมื่อได้ยื่นใบลาออกต่อนายทะเบียนสมาชิกพรรคการเมืองหรือนายทะเบียนพรรคการเมือง ประกอบกับ กกต.ได้มีระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยพรรคการเมือง (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2565 กำหนดให้การนำเข้าข้อมูลเข้าสู่ระบบฐานข้อมูลพรรคการเมืองโดยผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ให้สำนักงานเป็นผู้นำเข้าข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับพรรคการเมือง ข้อมูลกรรมการบริหารพรรคการเมือง กรรมการสาขาพรรคการเมือง และตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด

และข้อมูลสมาชิกเฉพาะการบันทึกวันที่สิ้นสุดสมาชิกภาพกรณีที่สมาชิกยื่นใบลาออกต่อนายทะเบียนพรรคการเมืองและให้พรรคการเมืองนำเข้าข้อมูลการดำเนินกิจกรรมของพรรคการเมืองในแต่ละปี ข้อมูลงบการเงินของพรรคการเมือง ข้อมูลการรับบริจาคของพรรคการเมืองในแต่ละปี และข้อมูลสมาชิก ยกเว้นการบันทึกวันที่สิ้นสุดสมาชิกภาพ กรณีที่มีสมาชิกยื่นใบลาออกต่อนายทะเบียนพรรคการเมือง

ทั้งนี้ น.ต.ศิธา ได้ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่ากทม. ในปีพ.ศ.2565 แต่ไม่ได้รับเลือกให้เป็นผู้ว่าฯ การเลือกตั้ง 14 พ.ค. 2566 ได้ลงสมัครสส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่5 พรรคไทยสร้างไทย และยังเป็นหนึ่งในแคนดิเดตนายกฯของพรรค น.ต.ศิธา ถือเป็นหนึ่งในคนสนิทของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย และได้ร่วมงานทางการเมืองมายาวนาน ซึ่งการลาออกจากสมาชิกพรรคครั้งนี้ ต่างสร้างความประหลาดใจให้กับสมาชิกพรรคเป็นอย่างมาก