svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

เทศกาลกินเจ 2566 เผยข้อแนะนำดีๆ กินเจให้ปัง พร้อมสุขภาพดีตลอด 9 วัน 9 คืน

10 ตุลาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ความเชื่อเรื่องการกินเจ เป็นไปในแนวทางของการละเว้นการเอาชีวิตของสัตว์ เพื่อเป็นสักการะบูชาแก่ พระพุทธเจ้า และมหาโพธิสัตว์กวนอิม อาจเนื่องจากการแพร่หลายของการละเว้นการกินเนื้อวัว ในกลุ่มคนที่นับถือ "เจ้าแม่กวนอิม" การกินเจ จึงเป็นอีกหนึ่งพิธีกรรมเพื่อสักการะ

 

เทศกาลกินเจ หรือ กินแจ (จีน: 九皇勝會; ฮกเกี้ยน: กิ้วหองเซ่งโห่ย; หรือ จีน: 九皇大帝誕; ฮกเกี้ยน: กิ้วหองไต่เต้ตั้น) หรือบางแห่งเรียกว่า ประเพณีถือศีลกินผัก กำหนดเอาวันตามจันทรคติ คือ เริ่มต้นตั้งแต่วันขึ้น 1 ค่ำ ถึง ขึ้น 9 ค่ำ เดือน 9 ตามปฏิทินจีนของทุกปี รวม 9 วัน 

เทศกาลกินเจ 2566 เผยข้อแนะนำดีๆ กินเจให้ปัง พร้อมสุขภาพดีตลอด 9 วัน 9 คืน

สันนิษฐานว่า มีจุดเริ่มต้นในประเทศมาเลเซียและภาคใต้ของประเทศไทย เทศกาลกินเจ ไม่ใช่ประเพณีของชาวจีนโพ้นทะเลทั้งหมด เพราะชาวจีนในประเทศจีนปัจจุบันไม่ค้นพบว่ามีการสืบทอดหรือจัดประเพณีกินเจนี้เลย แม้มีอยู่บางหมู่บ้านก็ปรากฏว่าได้จัดประเพณีตามประเทศไทย และไม่พบประเพณีนี้ในชุมชนชาวจีนในประเทศอื่นๆ ดังนั้น จึงสันนิษฐานว่าเป็นเทศกาลที่เกิดขึ้นจากคนไทยเชื้อสายจีนในประเทศไทย ก่อนประเทศไทยจะเสียดินแดนบางส่วนให้อังกฤษและกลายเป็นส่วนหนึ่งของประเทศมาเลเซีย คนมาเลเซียเชื้อสายจีนในประเทศมาเลเซีย จึงยังคงมีเทศกาลกินเจเช่นเดียวกับประเทศไทย

เทศกาลกินเจ 2566 เผยข้อแนะนำดีๆ กินเจให้ปัง พร้อมสุขภาพดีตลอด 9 วัน 9 คืน โดยมีตำนานเล่าขานกันว่า ได้เกิดโรคระบาดที่เกาะภูเก็ตทำให้มีคนตายเป็นจำนวนมาก มีชาวจีนที่อพยบมาจากอำเภอกังไส (มณฑลเจียงซี) ประเทศจีน มาอยู่ที่บ้านในทูหรือกระทู้จังหวัดภูเก็ต ได้ร่วมกันถือศีลกินเจซึ่งเป็นประเพณีความเชื่อในภูมิภาคบ้านเกิดของตนเองด้วยเชื่อว่าจะทำให้รอดพ้นเคราะห์กรรมนี้ไปได้ และคนจีนกลุ่มที่ถือศีลกินเจได้รอดตายจากโรคระบาดมาได้ทั้งหมด จึงทำให้ผู้คนเลื่อมใสศรัทธาในการถือศีลกินเจนี้มาก และได้ถือศีลกินเจตามอย่างชาวจีนบ้านกระทู้เป็นต้นมา จึงเกิดเป็นประเพณีถือศีลกินเจมาจนถึงปัจจุบัน

ในปัจจุบันเทศกาลกินเจจัดขึ้นในประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ สิงคโปร์ มาเลเซีย และไทย ตลอดจนหมู่เกาะเรียวในอินโดนีเซียและอาจมีในบางประเทศที่ได้รับอิทธิพลผ่านคนไทยและคนมาเลเซียเชื้อสายจีน ซึ่งการกินเจในเดือน 9 นี้ เชื่อกันว่าน่าจะเกิดขึ้นเมื่อราว พ.ศ. 2170 ตรงกับสมัยอาณาจักรอยุธยา

ประวัติความเป็นมา
ประเพณีถือศีลกินเจ หรือ กินเเจ ซึ่งเป็นพิธียันตรกรรมบูชาที่ยิ่งใหญ่ที่สุด โดยอาศัยพระแม่แห่งดวงดาวมารีจี ( 摩利支 ) ในแบบของพระพุทธศาสนานิกายมหายาน แต่ในทางลัทธิเต๋าเรียกว่า เต้าโบ้หงวนกุนหรือเต้าโบ้เทียนจุนในภาษาฮกเกี้ยน ( 斗姆元君,斗姆天尊 ) เป็นศูนย์กลางสมมติของพิธีศักดิ์สิทธิ์นี้ มักอิงประวัติผูกติดอยู่กับฝ่ายตำนานเทพแห่งดาวนพเคราะห์มากกว่า ซึ่งเป็นศาสตร์แห่งลัทธิเต๋า ต่อมาเมื่อพระพุทธศาสนาเผยแผ่เข้าสู่เมืองจีน

เทศกาลกินเจ 2566 เผยข้อแนะนำดีๆ กินเจให้ปัง พร้อมสุขภาพดีตลอด 9 วัน 9 คืน

เทศกาลกินเจ 2566 เผยข้อแนะนำดีๆ กินเจให้ปัง พร้อมสุขภาพดีตลอด 9 วัน 9 คืน

นับจากนั้นเป็นต้นมาเมื่อพระพุทธศาสนาเจริญขึ้น จึงปรากฏตำนานความเชื่อที่ผูกโยงกับพระพุทธเจ้า 7 พระองค์และพระโพธิสัตว์อีก 2 พระองค์ เรียกว่า กิ้วอ้วงฮุดโจ้วในภาษาจีนแต้จิ๋ว (九皇佛祖) โดยคติความเชื่อในประเพณีของชาวจีน โดยเฉพาะลัทธิขงจื๊อซึ่งเน้นในเรื่องบรรพบุรุษและความกตัญญู บรรดาบูรพกษัตริย์ที่เคยอุทิศตนเพื่อให้ประชาชนมีความเจริญโดยใช้หลักเมตตาธรรมก็จะเป็นบุคคลผู้ได้รับการสรรเสริญจากประชาชน ตามตำนานสามารถรวบรวมได้ 9 พระองค์ ซึ่งอยู่ในยุคสมัยต่างๆ กัน ทั้ง 9 พระองค์รวมเรียกว่าพระราชาธิราช 9 พระองค์ ในภาษาจีนฮกเกี้ยนเรียกว่า : กิ๋วหองไต่เต่ , ( 九皇大帝 )

ซึ่งชาวจีนเชื่อว่าทุกสิ่งทุกอย่างในโลกเป็นธรรมชาติ และดำเนินไปตามวิถีแห่งสวรรค์ อาศัยตามความเชื่อในลัทธิเต๋า จึงส่งผลให้เกิดการนับถือดวงวิญญาณที่สถิตอยู่ในสรวงสวรรค์ พระเจ้าแผ่นดินทั้งเก้าพระองค์เมื่ออยู่ในโลกมนุษย์ได้ประกอบกรรมดีมากมาย เมื่อสิ้นพระชนม์แล้วจึงได้จุติเป็นเทพเจ้าประจำดาวนพเคราะห์ ทำหน้าที่คุ้มครองมวลหมู่ประชาราษฎร์ให้บังเกิดความร่มเย็นสืบไป

นอกจากนี้อีกประวัติเล่ากันว่า เทศกาลเจ เริ่มขึ้นเมื่อประมาณ 400 ปีมาแล้ว โดยตามตำนานเล่าว่า เกิดมาในสมัยที่ชาวจีนถูกรุกรานโดยชนชาติแมนจู ซึ่งเข้าปกครองประเทศจีน และบังคับให้ชนชาติจีนยอมรับวัฒนธรรมของตน อาทิ การไว้ทรงผมเยี่ยงแมนจู คือ โกนศีรษะโล้นทางด้านหน้าและไว้ผมยาวทางด้านหลัง ซึ่งเชื่อว่าหลายท่านคงจะชินตาในภาพยนตร์จีนที่นำมาฉายทางทีวี

ในสมัยนั้นมีคนจีนกลุ่มหนึ่งรวมตัวกันต่อต้านชาวแมนจู โดยใช้หลักทางธรรมเข้ามาร่วมด้วย ชาวจีนกลุ่มนี้ นุ่งขาว ห่มขาวและไม่รับประทานเนื้อสัตว์ ซึ่งมีความเชื่อว่า การประพฤติปฏิบัติตามแนวทางนี้จะช่วยสร้างความเข้มแข็ง ให้กับกลุ่มของตนจนสามารถต้านทานชาวแมนจูได้ คนกลุ่มนี้เรียกตัวเองว่า "หงี่หั่วท้วง" ซึ่งแม้จะได้ต่อสู้อย่างอาจหาญ แต่ท้ายที่สุดก็ไม่สามารถต้านทานการรุกรานของชาวแมนจูได้

เมื่อถึงวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 9 ชาวจีนที่ยังคงอยู่ภายใต้การปกครองของชาวแมนจู จึงพากันถือศีลกินเจ เพื่อรำลึกถึงเหล่านักสู้ "หงี่หั่วท้วง" ที่ได้ต่อสู้พลีชีพในครั้งนั้น ย้อนกลับไปในอดีตสมัยที่กองทัพแมนจูปกครองจีน มีชาวบ้านรวมกลุ่มกันเป็นกองทหารที่ชื่อว่า "หงี่หั่วท้วง" พวกเขาถือศีล งดกินเนื้อสัตว์และผักที่มีกลิ่นฉุน บริกรรมคาถาตามความเชื่อเพื่อเสริมขวัญกำลังใจในการต่อสู้กับกองทัพแมนจู แต่สุดท้ายก็แพ้พ่าย ผู้นำทั้ง 9 คนถูกจับไปประหารชีวิต ทำให้ต่อมาชาวจีนจะร่วมกินถือศีลกินเจเป็นเวลา 9 วัน 9 คืน เพื่อรำลึกถึงวีรกรรมดังกล่าวของผู้กล้าในอดีต

อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีความเชื่ออีกกระแสหนึ่งของตำนานการกินเจนั้น ที่เชื่อกันว่า เป็นการสักการะพระพุทธเจ้าในอดีต 7 พระองค์ และพระมหาโพธิสัตว์อีก 2 พระองค์ รวมเป็น 9 พระองค์ หรืออีกนัยหนึ่งเรียกว่า ดาวนพเคราะห์ทั้ง 9 ในพิธีกรรมนี้ สาธุชนจึงงดเว้นจากการฆ่าสัตว์ ตัดชีวิต หันมาบำเพ็ญศีล โดยการตั้งปณิธานในการกินเจ งดเว้นอาหารคาว เพื่อเป็นการสมาทานศีล

สำหรับประเทศไทยความเชื่อเรื่องการกินเจ เป็นไปในแนวทางของการละเว้นการเอาชีวิตของสัตว์ เพื่อเป็นสักการะบูชาแก่ พระพุทธเจ้า และมหาโพธิสัตว์กวนอิม อาจเนื่องจากการแพร่หลายของการละเว้นการกินเนื้อวัว ในกลุ่มคนที่นับถือ "เจ้าแม่กวนอิม" การกินเจ จึงเป็นอีกหนึ่งพิธีกรรมเพื่อสักการะ

เปิดความหมายของ "เจ"

เทศกาลกินเจ 2566 เผยข้อแนะนำดีๆ กินเจให้ปัง พร้อมสุขภาพดีตลอด 9 วัน 9 คืน หากเราเห็น "ธง" ที่ใช้ประดับหน้าร้านอาหารเจ มีตัวอักษรจีนสีแดง บนพื้นสีเหลือง หรือใช้คำว่า "เจ" แทนก็ได้
คำว่า เจ ในภาษาจีนทางพุทธศาสนานิกายมหายานมีความหมายเดียวกับคำว่า "อุโบสถ" ดังนั้นการกินเจก็คือการรับประทานอาหารก่อนเที่ยงวัน เหมือนกับที่ชาวพุทธในประเทศไทยที่ถืออุโบสถศีล หรือ "รักษาศีล 8" โดยไม่รับประทานอาหารหลังจากเที่ยงวันไปแล้ว แต่เนื่องจากการถืออุโบสถศีลของชาวพุทธนิกายมหายานที่ไม่กินเนื้อสัตว์ จึงนิยมนำการไม่กินเนื้อสัตว์ไปรวมกันเข้ากับคำว่ากินเจ กลายเป็นการถือศีลกินเจ ในปัจจุบันผู้ที่รับประทานอาหารทั้ง 3 มื้อแต่ไม่กินเนื้อสัตว์ก็ยังคงเรียกว่ากินเจ ฉะนั้นความหมายก็คือคนกินเจมิใช่เพียงแต่ไม่กินเนื้อสัตว์ แต่ยังต้องดำรงตนอยู่ในศีลธรรมอันดีงาม มีความบริสุทธิ์ สะอาด ทั้งกาย วาจา ใจ

ในภาษาจีนมีคำหรือวลีที่ใช้อักษรแจ (เจ, 齋/斋) เป็นตัวประกอบร่วมด้วยหลายคำ แต่คำว่าโป๊ยกวนแจไก่ (八關齋戒) แปลว่า ศีลบริสุทธิ์แปดประการ อันหมายถึง อุโบสถศีล ซึ่งเป็นศัพท์ของทางพุทธศาสนา การแปลและเข้าใจคลาดเคลื่อนดังกล่าวยังถูกใช้เป็นบรรทัดฐานในการอธิบายวัตรปฏิบัติของการกินเจผิดตามไปด้วยว่า “การกินเจต้องถือศีลข้อวิกาลโภชน์” หรือการงดกินของขบเคี้ยวหลังเที่ยงวันไปแล้ว ซึ่งเป็นศีลข้อหนึ่งในศีลแปด ทั้งๆที่โรงครัวของศาลเจ้าหรือโรงเจที่เปิดเลี้ยงผู้คนในช่วงเทศกาลกินเจล้วนแต่มีอาหารมื้อเย็นให้กับผู้เข้าไปกิน ยิ่งวันที่มีการประกอบพิธีกรรมในตอนค่ำยังมีอาหารมื้อค่ำบริการเสริมให้เป็นพิเศษด้วย ที่เป็นเช่นนั้นเพราะในช่วงเทศกาลกินเจนั้นเขาถือเพียงศีลห้าที่เป็นนิจศีล ไม่ได้ครองศีลแปดอย่างที่หลายคนเข้าใจ (เว้นแต่ผู้ตั้งจิตอธิษฐานว่าจะครองศีลแปดเป็นการส่วนตัวเท่านั้น)

ในทางอักษรศาสตร์จีน อักษรตัว “แจ” มีพัฒนาการมาจาก ตัวอักษร ฉี “ 齊 ” ซึ่งแปลว่าบริบูรณ์ , เรียบร้อย อักษรแจเกิดจากการเพิ่มเส้นตั้งและสองจุด ( 小 ) เข้าไปกลางอักษรฉี ทำให้เกิดตัว ซื ( 示 ) ซึ่งแปลว่าการสักการะ อยู่ในแก่นกลางของตัวฉี

แจ ( 齋 ) จึงมีความหมายว่า การรักษาความบริสุทธิ์(ทั้งกายและใจ)เพื่อการสักการะ หรือ การปฏิบัติบูชาถวายเทพยดา

ซึ่งการอธิบายในแนวทางนี้จะสอดคล้องกับ คำว่า “ 齋醮 ” ในลัทธิเต๋า ซึ่งย่อมาจากคำว่า 供齋醮神 ที่แปลว่าการบำเพ็ญกายใจให้บริสุทธิ์เพื่อเป็นสักการบูชาเทพยดา

เทศกาลกินเจ 2566 เผยข้อแนะนำดีๆ กินเจให้ปัง พร้อมสุขภาพดีตลอด 9 วัน 9 คืน

ความหมายของแจในศาสนาอิสลาม

ศัพท์คำว่า ศีลแจ / 齋戒 ในภาษาจีน นอกจากใช้ในลัทธิเต๋าและศาสนาพุทธแล้ว ยังหมายถึง “ศีลอด” ที่ถือปฏิบัติในเดือนถือศีลอดของชาวจีนอิสลาม สาระของศีลก็คือการห้ามรับประทานอาหารใดๆในระหว่างเวลาที่พระอาทิตย์ขึ้นจวบจนลับขอบฟ้า ตลอดเดือนถือศีลอด

แจในวัฒนธรรมดั่งเดิมของจีน

ศัพท์ แจ พบในเอกสารจีนเก่าที่มีอายุกว่าสองพันปีหลายฉบับ เช่น 禮記 , 周易 , 易經 , 孟子 , 逸周書 (เอกสารที่อ้างนี้ปัจจุบันถือว่าเป็นคัมภีร์ในลัทธิหยู) เอกสารเหล่านั้นยังใช้ อักษรตัวฉี(齊 )แต่เวลาอ่านออกเสียงกลับต้องอ่านออกเสียงว่า ไจ เช่น คำว่า ไจเจี๋ย / 齊潔 หรือ ไจเจี้ย / 齊戒 ซึ่งก็คือการออกเสียงแจในสำเนียงแต้จิ๋วนั่นเอง อักษรฉีในเอกสารนั้นนักอักษรศาสตร์ตีความว่าแท้จริงแล้วก็คืออักษรตัวแจหรือใช้แทนตัวแจ แจที่ว่านี้หาได้หมายถึงการงดกินของสดคาว หรือ การงดรับประทานอาหารหลังเที่ยง หากหมายถึงการชำระล้างร่างกาย สงบจิตใจ และสวมใส่เสื้อผ้าใหม่สะอาด เป็นการเตรียมกายและใจให้บริสุทธิ์เพื่อประกอบพิธีกรรมสักการบูชา ขอพร หรือแสดงความขอบคุณต่อเทพยดาแห่งสรวงสวรรค์

แจเพื่อการจำแนกความเคร่งครัดของภิกษุฝ่ายมหายาน

ศีลของภิกษุฝ่ายมหายาน ในส่วนเกี่ยวกับการฉันของภิกษุแตกต่างจากฝ่ายเถรวาททั้งมีการจำแนกเป็นสองลักษณะตามสำนักศึกษาได้แก่

เหล่าที่ถือมั่นในศีลวิกาลโภชน์และฉันอาหารเจ จะไม่ฉันอาหารหลังอาทิตย์เที่ยงวัน เรียก ถี่แจ /持齋 
เหล่าที่ถือมั่นแต่การฉันอาหารเจ เรียกถี่สู่ /持素


เจียะแจ (食齋) เป็นการออกเสียงตามสำเนียงถิ่นแต้จิ๋ว ศัพท์คำนี้ใช้และเป็นที่เข้าใจแต่ทางตอนใต้ของจีนโดยเฉพาะแถบลุ่มอารยธรรมหลิ่งหนาน (領南) ในมณฑลกวางตุ้ง อันเป็นแหล่งอาศัยดั้งเดิมของคนแคะ แต้จิ๋ว กวางตุ้งและไหหนำ ซึ่งเป็นชาวจีนกลุ่มใหญ่ในประเทศไทย เจียะหรือเจี๊ยะ (食) ในภาษาถิ่นใต้ แปลว่า กิน ส่วน แจ (齋) แปลว่า บริสุทธิ์ (อ้างตามปทานุกรมพุทธศาสนาฉบับ วัดฝอกวงซัน ไต้หวัน) เจียะแจตรงกับคำว่า ชือซู่ (吃素) ในภาษาจีนกลาง และตรงกับคำไทยที่นิยมใช้กันว่า กินเจ จึงแปลว่า การกินอาหารที่บริสุทธิ์ตามความเชื่อ (ในลัทธิกินเจ) คำว่าเจียะแจนี้ชาวจีนฮกเกี้ยนทางปักษ์ใต้แถบจังหวัดภูเก็ตเรียกต่างออกไปว่า เจียะฉ่าย (食菜) ที่แปลตามตัวอักษรได้ว่า กินผัก แต่มีนิยามหรือความหมายตรงกับคำว่าเจียะแจที่กล่าวข้างต้น

จุดประสงค์ของการกินเจ
ผู้ที่กินเจอาจจะมีจุดเริ่มต้นที่แตกต่างกันไป แต่จุดประสงค์หลักสามารถแบ่งได้เป็น 3 ประเภทดังนี้

  • กินเพื่อสุขภาพ อาหารเจเป็นอาหารประเภทชีวจิต เมื่อกินติดต่อกันไปช่วงเวลาหนึ่งจะทำให้ร่างกายเกิดการปรับตัวให้อยู่ในสภาวะสมดุล สามารถขับพิษของเสียต่างๆ ออกจากร่างกายได้ ปรับระบบไหลเวียนโลหิต ระบบทางเดินอาหารให้มีเสถียรภาพ
  • กินด้วยจิตเมตตา เนื่องจากอาหารที่เรากินอยู่ในชีวิตประจำวัน ประกอบด้วยเลือดเนื้อของสรรพสัตว์ ผู้มีจิตเมตตา มีคุณธรรมและมีจิตสำนึกอันดีงามย่อมไม่อาจกินเลือดเนื้อของสัตว์เหล่านั้นซึ่งมีเลือดเนื้อ จิตใจและที่สำคัญมีความรักตัวกลัวตายเช่นเดียวกับคนเรา
  • กินเพื่อเว้นกรรม ผู้ที่เข้าใจอย่างลึกซึ้งย่อมตระหนักว่าการกินซึ่งอาศัยการฆ่าเพื่อเอาเลือดเนื้อผู้อื่นมาเป็นของเราเป็นการสร้างกรรม แม้ว่าจะไม่ได้เป็นผู้ลงมือฆ่าเองก็ตาม การซื้อจากผู้อื่นก็เหมือนกับการจ้างฆ่าเพราะถ้าไม่มีคนกินก็ไม่มีคนฆ่ามาขาย (ถ้าไม่ฆ่าไม่ขายก็ไม่มีคนกิน) กรรมที่สร้างนี้จะติดตามสนองเราในไม่ช้าทำให้สุขภาพร่างกายอายุขัยของเราสั้นลงเป็นบ่อเกิดของโรคภัยไข้เจ็บ เมื่อผู้หยั่งรู้เรื่องกฎแห่งกรรมนี้จึงหยุดกินหยุดฆ่าหันมารับประทานอาหารเจ ซึ่งทำให้ร่างกายเติบโตได้เหมือนกัน โดยไม่เห็นแก่ความอร่อยช่วงเวลาสั้นๆ เพียงแค่อาหารผ่านลิ้นเท่านั้น

เทศกาลกินเจ 2566 เผยข้อแนะนำดีๆ กินเจให้ปัง พร้อมสุขภาพดีตลอด 9 วัน 9 คืน

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

เทศกาลกินเจ 2566 เผยข้อแนะนำดีๆ กินเจให้ปัง พร้อมสุขภาพดีตลอด 9 วัน 9 คืน

เทศกาลกินเจ 2566 เผยข้อแนะนำดีๆ กินเจให้ปัง พร้อมสุขภาพดีตลอด 9 วัน 9 คืน

อาหารเจ
อาหารเจเป็นอาหารที่ปรุงขึ้นโดยไม่มีเนื้อสัตว์ หรือผลิตภัณฑ์ที่ได้จากสัตว์ (เช่น นม ไข่ น้ำผึ้ง น้ำปลา เจลาติน คอลลาเจน ) และไม่ปรุงด้วยผักที่มีกลิ่นฉุน ได้แก่ กระเทียม หอม (ทุกชนิดอาทิ ต้นหอม หัวหอม หอมแดง) หลักเกียว กุยช่าย และผักชี
บ้างก็รวมผักชีและเครื่องเทศรสเผ็ดร้อนเข้ามาด้วย เพราะผักเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อธาตุในร่างกาย บ้างเชื่อว่าผักเหล่านี้เพิ่มความกำหนัดหรือมาจากเลือดของสัตว์ตามตำนานจีน ทำให้อาหารเจไม่มีกลิ่นคาว เนื่องจากการงดเนื้อสัตว์ ทำให้ผู้ที่กินเจหันมาบริโภคธัญพืชในธรรมชาติเพื่อให้ได้มาซึ่งโปรตีน ซึ่งส่วนใหญ่ได้แก่ ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง โดยในประเทศจีน พบว่ามีภัตตาคารบางแห่งซึ่งบริการ "ปรุงอาหารตามใบสั่งแพทย์" (กล่าวคือผู้ที่เข้ามารับประทานจะต้องได้รับใบสั่งอาหารของแพทย์เสียก่อน) โดยลูกค้าของภัตตาคารดังกล่าวเป็นคนไข้ที่กำลังเข้ารับ "การบำบัดโรคด้วยอาหารตามหลักเวชศาสตร์โบราณ" หลังเข้ารับการตรวจวินิจฉัยจากแพทย์แล้ว 

เทศกาลกินเจ 2566 เผยข้อแนะนำดีๆ กินเจให้ปัง พร้อมสุขภาพดีตลอด 9 วัน 9 คืน

หลักธรรมในการกินเจ
ในทัศนะของคนกินเจ การกินที่ทำให้ชีวิตผู้อื่นต้องเดือดร้อนล้มตายนั้น “มันมากเกินไป” ทั้งๆ ที่มนุษย์กินแต่อาหารพืชผักก็สามรถมีชีวิตอยู่ได้

การกินเจตั้งมั่นอยู่บนหลักธรรมสำคัญ 2 ประการคือ ดำรงชีวิตอยู่ด้วยอาหารที่ไม่เบียดเบียนตนเองและดำรงชีวิตอยู่ด้วยอาหารที่ไม่เบียดเบียนผู้อื่น กล่าวคือ

  • ไม่เอาชีวิตของสัตว์ทั้งหลายมาต่อเติมบำรุงเลี้ยงชีวิตของตน
  • ไม่เอาเลือดของสัตว์ทั้งหลายมาเป็นเลือดของตน
  • ไม่เอาเนื้อของสัตว์ทั้งหลายมาเป็นเนื้อของตน
  • การรับประทานสิ่งใดก็ตามที่ทำลายสุขภาพร่างกายของตนให้ทรุดโทรม คือ การเบียดเบียนตนเอง ปัจจุบันวิทยาการเจริญก้าวหน้าได้พิสูจน์ยืนยันว่าเลือดและเนื้อของสัตว์ที่ถูกฆ่าตายเต็มไปด้วยพิษภัยมากมาย

ดังนั้นการกินเจจึงไม่ใช่เพื่อให้เกิดผลดีต่อจิตใจเท่านั้นแต่ยังครอบคลุมไปถึงการมีสุขภาพพลานามัยที่ดีอีกด้วย ร่างกายและจิตใจเป็นของคู่กันมีความสัมพันธ์ส่งผลถึงกันคนเราย่อมไม่อาจจะรู้สึกเบิกบานสดชื่นร่าเริงได้ในขณะที่ร่างกายเจ็บป่วยทรุดโทรมย่ำแย่

เทศกาลกินเจ 2566 เริ่มเมื่อไร ตรงกับวันไหน? 
เทศกาลกินเจ 2566 ในปีนี้ "กินเจ"  ตรงกับวันขึ้น 1 ค่ำ ถึง 9 ค่ำ เดือน 9 ตามปฏิทินจีน ตรงกับเดือน 11 หรือเดือนตุลาคมของไทย ตามปฏิทินสากล รวมเป็นเวลาทั้งสิ้น 9 วัน 9 คืน ซึ่งปีนี้ตรงกับวันที่ 15-23 ตุลาคม 2566 รวมเป็นเวลา 9 วัน ซึ่งอาจจะเป็นที่นิยมในยุคต่อๆ ที่จะนับวันล้างท้องในมื้อเย็นวันที่ 14 ตุลาคม รวมเป็น 10 วันก็ได้ ซึ่งเรามาทำความเข้าใจเกี่ยวกับการกินเจ ความหมายของคำว่า "เจ" และทำไมเราต้องกินเจ กินเจแล้วได้อะไร ช่วงเทศกาลกินเจ ห้ามกินอะไรบ้าง กินอะไรได้บ้าง มาหาคำตอบกันตรงนี้ 

ไขข้อสงสัยทำไมต้อง"ล้างท้อง"
การล้างท้องหมายถึง เริ่มกินเจก่อนถึงวันเริ่มต้นเทศกาลจริง 1-2 วัน เพื่อให้ร่างกายของเรา ค่อยๆ ปรับสภาพและทำความคุ้นเคยกับการกินเจได้ดียิ่งขึ้น

เทศกาลกินเจ 2566 เผยข้อแนะนำดีๆ กินเจให้ปัง พร้อมสุขภาพดีตลอด 9 วัน 9 คืน

ข้อควรปฏิบัติตนในช่วงเทศกาลกินเจ
ในช่วงเทศกาลกินเจ 9 วัน 9 คืน ผู้ที่ต้องการกินเจอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ตามประเพณีการกินเจ จะต้องปฏิบัติดังนี้

รับประทาน "อาหารเจ"

  • งดอาหารรสจัด ซึ่งหมายถึงอาหารเผ็ด หวานมาก เปรี้ยวมาก เค็มมาก งดผักที่มีกลิ่นฉุนทั้งหลาย แยกภาชนะสำหรับอาหารเจเท่านั้น
  • รักษาศีลห้า
  • รักษาจิตใจให้บริสุทธิ์ รักษาอารมณ์ ไม่พูดคำหยาบคาย รวมถึงงดการมีเพศสัมพันธ์
  • ทำบุญทำทาน ไหว้พระ สวดมนต์
  • นุ่งขาวห่มขาวตลอดเทศกาลกินเจ และควรแต่งกายชุดขาวเข้าร่วมพิธีกรรมต่างๆในแต่ละศาลเจ้า
  • สำหรับผู้ที่เคร่งครัดเพื่อการกินเจให้เป็นไปอย่างบริสุทธิ์โดยแท้ จะเพิ่มการปฏิบัติโดยการกินอาหารเฉพาะที่คนกินเจด้วยกันเป็นผู้ปรุงเท่านั้น รวมถึงจะล้างหม้อไหจนสะอาดเอี่ยมแยกภาชนะสำหรับการปรุงอาหารเจไว้โดยเฉพาะ นอกจากนี้ยังจุดตะเกียงไว้ 9 ดวงตลอดช่วงเทศกาลกินเจ 9 วัน โดยไม่ปล่อยให้ดับเพื่อเป็นพุทธบูชาและรำลึกถึงบุญคุณของพ่อแม่ญาติพี่น้องตลอดจนผู้ที่มีบุญคุณต่อผืนแผ่นดินเกิด

สีในเทศกาลกินเจ

  • สีแดง เป็นสีที่ชาวจีนเชื่อว่าเป็นสีศิริมงคล ดังจะเห็นได้ว่าในงานมงคลต่างๆ ของคนจีนไม่ว่าจะเป็นงานแต่ง วันตรุษจีน
  • สีเหลือง เป็นสีสำหรับใช้ในราชวงศ์ซึ่งอนุญาตให้ใช้ได้เพียงคนสองกลุ่มเท่านั้น กลุ่มแรกคือกษัตริย์ซึ่งเห็นได้จากหนังจีน เครื่องแต่งกายและภาชนะต่างๆ เป็นสีเหลืองหรือทองซึ่งคนสามัญห้ามใช้เด็ดขาด กลุ่มที่สองคืออาจารย์ปราบผีถ้าท่านสังเกตในหนังผีจีนจะเห็นว่าเขาแต่งกายและมียันต์สีเหลือง
  • สีขาว ตามธรรมเนียมจีนสีขาวคือสีสำหรับการไว้ทุกข์ สีดำที่เราเห็นกันอยู่ในขณะนี้เป็นการรับวัฒนธรรมตะวันตก ถ้าท่านสังเกตในพิธีงานศพของจีนจะเห็นลูกหลานแต่งชุดสีขาวอยู่

สำหรับเมืองไทยความเชื่อเรื่องการกินเจ เป็นไปในแนวทางของการละเว้นการเอาชีวิตของสัตว์ เพื่อเป็นสักการะบูชาแก่ พระพุทธเจ้า และมหาโพธิสัตว์กวนอิม อาจเนื่องจากการแพร่หลายของกการละเว้นการกินเนื้อวัว ในกลุ่มคนที่นับถือ "เจ้าแม่กวนอิม" การกินเจ จึงเป็นอีกหนึ่งพิธีกรรมเพื่อสักการะ

เช็กความหมายของ "ธงเจ"
ในช่วงเทศกาลกินเจ จะปรากฏธงประจำเทศกาลตามสถานที่ต่าง ๆ โดยมีพื้นธงเป็นสีเหลืองซึ่งเป็นสีที่อนุญาตให้ใช้กับคนสองกลุ่มเท่านั้น คือกลุ่มกษัตริย์ ราชวงศ์ และกลุ่มอาจารย์ปราบผี ดังจะเห็นจากยันต์สีเหลืองตามภาพยนตร์จีน ดังนั้นสีเหลืองจึงเป็นสีของพุทธศาสนา หรือผู้ทรงศีล บนธงจะเขียนตัวอักษรสีแดง อ่านว่า "ไจ" หรือ "เจ" มีความหมายว่า "ของไม่มีคาว" เหตุที่ใช้สีแดง เพราะชาวจีนเชื่อว่า เป็นสีมงคล สร้างความเจริญให้แก่ชีวิต ธงเจนอกจากจะเป็นสัญลักษณ์ของอาหารเจแล้ว ยังเป็นการเตือนให้พุทธศาสนิกชนที่ปฏิบัติตนถือศีลกินเจได้ตระหนักถึงการไม่เบียดเบียนชีวิตสัตว์ และการตั้งอยู่ในศีลตลอดช่วงกินเจ

 

 

แนวทางการเตรียมตัวก่อน "เทศกาลกินเจ"

ห้ามกินผักที่มีกลิ่นฉุนหรือผักที่มีกลิ่นแรง
เพราะจะทำให้ร่างกายและพลังธาตุถูกทำลาย ร่างกายเกิดการกระตุ้นจากรสของอาหารนั้นๆ ได้แก่ หัวหอม ต้นหอม ใบหอม หลักเกียว กุ้ยช่าย กระเทียม ใบยาสูบ (บุหรี่ ยาเส้น ของเสพติดมึนเมา) หมายถึงต้องงดสูบบุหรี่และกินเหล้าในช่วงที่ถือศีลกินเจนี้ด้วย

ห้ามทานเนื้อสัตว์
หรืออาหารที่มีส่วนผสมหรือส่วนประกอบ หรือเป็นส่วนใดส่วนหนึ่งจากสัตว์ ไม่ว่าจะเป็นไขมันสัตว์ ไข่ เลือด อะไรก็ตามที่เกี่ยวกับเนื้อสัตว์

ห้ามกินอาหารที่มีรสจัด
ไม่ว่าจะเป็นทั้งเผ็ดจัด เค็มจัด หวานจัด หรือเปรี้ยวจัดก็ตาม เพราะอาหารที่มีรสจัดจะไปกระตุ้นต่อมต่างๆ ของร่างกายให้ทำงานมากขึ้น เชื่อว่าจะเป็นผลให้จิตใจไม่สงบในช่วงถือศีล กินเจนี้

ห้ามกินอาหารที่คนปรุงไม่ได้ถือศีลกินเจ
ข้อนี้แหละที่ทำให้คนถือศีลกินเจต้องไปอยู่รวมกันในสถานที่ที่มีคนกินเจรวมตัวกันอยู่ อย่างเช่นโรงทาน ศาลเจ้าต่างๆ ที่จัดงาน เพราะคนที่ทำหน้าที่ทำอาหารนั้นจะถือศีลด้วย

ถ้วยชามที่ใช้ใส่อาหารเจควรจะต้องไม่ปะปนหรือใช้ร่วมกัน
ไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต หรือเบียดเบียนชีวิตใคร ต้องแต่งกายด้วยชุดขาว ห้ามพูดคำหยาบ โกหก ยุยง ส่อเสียด หรือพูดจาไม่เป็นสาระ

ห้ามดื่มสุราและของมึนเมา
ในช่วงที่ถือศีลกินเจตลอด 9 วัน

ห้ามดับตะเกียงทั้ง 9 ดวง
ในสถานที่อย่างศาลเจ้า โรงเจ โรงทาน หรือสถานที่ที่จัดงานถือศีลกินเจ จะมีการจุดตะเกียง 9 ดวงเอาไว้ตลอดวันตลอดคืน จึงต้องมีคนเฝ้าไม่ให้ตะเกียงนั้นดับ

ตอบข้อสงสัยทำไมต้อง"กินเจ" กินเจแล้วดีอย่างไร ?
กินเจ กินแจ เป็นการกินเพื่อสุขภาพที่ดีขึ้น เพราะอาหารเจถือเป็นอาหารชีวจิตอย่างหนึ่ง ช่วยปรับสภาพร่างกายให้สมดุล ล้างพิษในร่างกาย รวมถึงช่วยเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรงและทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะคนจีนเชื่อว่า เนื้อสัตว์เป็น “หยิน” และผักผลไม้เป็น “หยาง” โดยธรรมชาติคนเรามักทานเนื้อสัตว์เยอะกว่าผักผลไม้ การงดทานเนื้อสัตว์จึงเป็นการปรับให้หยินและหยางสมดุลมากยิ่งขึ้นด้วย

นอกจากนี้ มีความเชื่อกันว่า กินเจ "เพื่อทำบุญ" และ เพื่อชำระล้างใจให้ใสสะอาด ไม่เบียดเบียนสัตว์โลก ทำให้จิตใจเราผ่องใสมากขึ้น เมื่อเราทราบว่าสิ่งที่เราทำเป็นเรื่องที่ดี ก็จะส่งผลต่อจิตใจที่เบิกบาน เป็นสุขขึ้น กินเจ เพื่อละเว้นกรรม ที่เกิดจากการฆ่าสัตว์ตัดชีวิต หรือแม้กระทั่งการจ้างฆ่าเพื่อการบริโภค หากเราทราบว่าการงดบริโภคเนื้อสัตว์ เป็นการช่วยชีวิตสัตว์นับพันนับหมื่น เราก็จะช่วยลดกรรมของเราได้มากขึ้น

หลักง่ายๆ ในช่วงเทศกาลกินเจ 

  • งดเว้นจากการกินเนื้อสัตว์
  • ทำจิตใจให้สงบ
  • สำรวมกาย วาจา และใจ
  • ไม่พูดจาหยาบคาย
  • ถือศีลห้า นุ่งขาวห่มขาว
  • มีความเมตตาต่อสัตว์ทั้งปวง
  • จุดตะเกียงในศาลเจ้าและโรงเจให้สว่างไสวตลอดทั้ง 9 วัน 9 คืน

ช่วงเทศกาลกินเจ เราสามารถกินอะไรได้บ้าง

  • ชา กาแฟ ที่ไม่ใส่นม เนย หรือครีมเทียม
  • วิตามินเสริมอัดเม็ด ที่ไม่มีสารสกัดจากสัตว์
  • ขนมกรุบกรอบ ที่ไม่มีส่วนผสมของสัตว์
  • พริกไทย เป็นสมุนไพร (แต่หากรู้สึกว่ามีกลิ่นฉุน สามารถเลี่ยงได้)
  • ขนมปัง (ที่เป็นขนมปังเจ หรือไม่มีส่วนผสมของนม)
  • มาม่า หรือบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป (สูตรเจเท่านั้น)
  • แต่งหน้า และฉีดน้ำหอม (สำหรับคนถือศีล 5 หากถือศีล 8 จะทำไม่ได้)

เทศกาลกินเจ 2566 เผยข้อแนะนำดีๆ กินเจให้ปัง พร้อมสุขภาพดีตลอด 9 วัน 9 คืน เปิดคำแนะนำดีๆ จากรมอนามัย ก่อนเข้าสู่เทศกาลกินเจ
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข แนะ ก่อนกินเจควรเตรียมพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ โดยปรับระบบของร่างกายก่อนกินเจ 2 – 3 วัน เพิ่มผักในมื้ออาหารให้มากขึ้น ลดเนื้อสัตว์ให้ร่างกายได้ปรับตัว

เทศกาลกินเจ 2566 เผยข้อแนะนำดีๆ กินเจให้ปัง พร้อมสุขภาพดีตลอด 9 วัน 9 คืน

นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า โดยวัตถุประสงค์หลักของการกินเจ คือ การสร้างบุญสร้างกุศล ชำระใจให้ใสสะอาด ไม่เบียดเบียนชีวิตสัตว์ และเป็นการปรับสมดุลร่างกาย ส่งผลให้สุขภาพกายและใจดีขึ้นเนื่องจากวัตถุดิบที่ใช้ทำอาหารมาจากพืชผัก ผลไม้ เห็ดต่าง ๆ รวมไปถึงธัญพืช และถั่วเมล็ดแห้งเป็นเครื่องปรุงหลัก โดยพืชผัก ผลไม้ ธัญพืช เป็นกลุ่มอาหารที่ให้วิตามิน แร่ธาตุ ใยอาหาร และสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง และช่วยล้างสารพิษในเยื่อบุลำไส้ออกจากร่างกาย สำหรับเห็ดมีโปรตีนสูงไขมันต่ำมีแร่ธาตุและวิตามิน โดยเฉพาะวิตามินดี และเบต้ากลูแคน ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายส่วนถั่วก็อุดมไปด้วยโปรตีนจากพืชมีกรดอะมิโนที่ค่อนข้างสมบูรณ์ ใกล้เคียงกับเนื้อสัตว์ ช่วยสร้างกล้ามเนื้อ และซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย

“ทั้งนี้ ก่อนกินเจ 2 – 3วัน ควรเตรียมความพร้อมของร่างกายและจิตใจ โดยให้ระบบทางเดินอาหารค่อย ๆ ปรับสภาพเพิ่มการกินผักในมื้ออาหารให้มากขึ้น ลดปริมาณเนื้อสัตว์หรือเปลี่ยนจากเนื้อสัตว์ใหญ่ เช่น เนื้อวัว เนื้อหมู เป็นปลา ไข่ นม ถั่วเมล็ดแห้ง ตามลำดับ เมื่อถึงช่วงกินเจประชาชนควรใส่ใจหลักโภชนาการดังนี้

1)กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ในแต่ละมื้ออาหาร ประกอบไปด้วย โปรตีนจากถั่วเมล็ดแห้ง คาร์โบไฮเดรตจากข้าวแป้ง วิตามินและแร่ธาตุ จากพืชผัก ผลไม้ และไขมันจากน้ำมันแต่พอดี

2) กินโปรตีนจากพืชให้หลากหลายและเพียงพอ เช่น เต้าหู้ ฟองเต้าหู้ น้ำเต้าหู้ โปรตีนเกษตร ถั่วและผลิตภัณฑ์จากถั่วเมล็ดแห้งทุกชนิด

3) เลือกปรุงหรือซื้ออาหารที่มีรสชาติปานกลาง ไม่หวาน มัน เค็มจัด โดยอาจเลือกเมนูเจประเภท ต้ม แกง ย่าง ยำและน้ำพริกผักแนม

4) กินอาหารกลุ่มข้าวแป้ง เส้นต่างๆ และผลิตภัณฑ์เลียนแบบเนื้อสัตว์ที่ทำจากแป้งในปริมาณที่เหมาะสม เพราะอาจทำให้ได้พลังงานจากคาร์โบไฮเครตมากเกินไป และ 5) วัตถุดิบที่นำมาปรุงอาหารต้องไม่ปนเปื้อนเชื้อโรคและสารเคมีตกค้าง โดยเฉพาะจากพืชผักควรล้างให้สะอาดเพื่อความปลอดภัย” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว

เทศกาลกินเจ 2566 เผยข้อแนะนำดีๆ กินเจให้ปัง พร้อมสุขภาพดีตลอด 9 วัน 9 คืน

เทศกาลกินเจ 2566 “ออกเจวันไหน ?”
เป็นที่รู้กันว่า เทศกาลกินเจ นั้น ต้องกินเจในช่วงระยะทั้งหมด 9 วัน 9 คืน เป็นการประกอบพิธีกรรมเพื่อสักการบูชาพระพุทธเจ้าในอดีตกาล 7 พระองค์ และพระมหาโพธิสัตว์อีก 2 พระองค์  รวมเป็น 9 พระองค์ (หรือ “เก้าอ๊อง”) ดังนั้น เทศกาลกินเจ 2566 เริ่มตั้งแต่ วันอาทิตย์ที่ 15 ตุลาคม และ วันสุดท้ายคือ วันจันทร์ที่ 23 ตุลาคม 

ออกเจผิดเป็นอย่างไร?
แม้ว่าเป้าหมายของการกินเจ ผัก คือการชำระล้างร่างกายและจิตใจให้บริสุทธิ์ สร้างบุญกุศล รักษาศีล ด้วยการงดกินเนื้อสัตว์ หรือเพื่อสักการะบูชาเทพประจำตัว และจำตระกูล แต่ด้วยพฤติกรรมที่ร่างกายขาดโปรตีนเป็นระยะเวลากว่า 9 วัน การออกเจด้วยการทานอาหารที่เป็นโปรตีนโดยทันทีอาจส่งผลกระทบต่อร่างกายได้ 

ออกเจอย่างถูกต้อง
อาจารย์สง่า ดามาพงษ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการ ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการเลือกกินอาหารให้ถูกวิธีหลังออกจากเทศกาลเจในเว็บไซต์ สสส. เกี่ยวกับ หลักออกเจอย่างถูกวิธี ทานอาหารอย่างไร ดีต่อสุขภาพ ดังนี้ 

  • ผ่อนคลายร่างกาย โดยเริ่มจากการดื่มนม กินไข่และปลาเป็นหลัก
  • งดทานอาหารประเภทเนื้อ
  • ควรดื่มนม กินไข่และปลา ติดต่อกันเป็นเวลา 2-3 วัน
  • กินอาหารอ่อนๆ งดกินอาหารรสจัดทันที
  • เข้าสู่วันที่ 4 จึงค่อยเริ่มกินเนื้อสัตว์ในปริมาณน้อย
  • และควรกินอาหารให้ครบหลัก 5 หมู่

หลักธรรมในการกินเจ
ในทัศนะของคนกินเจ การกินที่ทำให้ชีวิตผู้อื่นต้องเดือดร้อนล้มตายนั้น “มันมากเกินไป” ทั้งๆ ที่มนุษย์กินแต่อาหารพืชผักก็สามรถมีชีวิตอยู่ได้

การกินเจตั้งมั่นอยู่บนหลักธรรมสำคัญ 2 ประการคือ ดำรงชีวิตอยู่ด้วยอาหารที่ไม่เบียดเบียนตนเองและดำรงชีวิตอยู่ด้วยอาหารที่ไม่เบียดเบียนผู้อื่น กล่าวคือ

  • ไม่เอาชีวิตของสัตว์ทั้งหลายมาต่อเติมบำรุงเลี้ยงชีวิตของตน
  • ไม่เอาเลือดของสัตว์ทั้งหลายมาเป็นเลือดของตน
  • ไม่เอาเนื้อของสัตว์ทั้งหลายมาเป็นเนื้อของตน
  • การรับประทานสิ่งใดก็ตามที่ทำลายสุขภาพร่างกายของตนให้ทรุดโทรม คือ การเบียดเบียนตนเอง ปัจจุบันวิทยาการเจริญก้าวหน้าได้พิสูจน์ยืนยันว่าเลือดและเนื้อของสัตว์ที่ถูกฆ่าตายเต็มไปด้วยพิษภัยมากมาย
  • ดังนั้นการกินเจจึงไม่ใช่เพื่อให้เกิดผลดีต่อจิตใจเท่านั้นแต่ยังครอบคลุมไปถึงการมีสุขภาพพลานามัยที่ดีอีกด้วย ร่างกายและจิตใจเป็นของคู่กันมีความสัมพันธ์ส่งผลถึงกันคนเราย่อมไม่อาจจะรู้สึกเบิกบานสดชื่นร่าเริงได้ในขณะที่ร่างกายเจ็บป่วยทรุดโทรมย่ำแย่

อาหารเจ
อาหารเจเป็นอาหารที่ปรุงขึ้นโดยไม่มีเนื้อสัตว์ หรือผลิตภัณฑ์ที่ได้จากสัตว์ (เช่น นม ไข่ น้ำผึ้ง น้ำปลา เจลาติน คอลลาเจน) และไม่ปรุงด้วยผักที่มีกลิ่นฉุน ได้แก่ กระเทียม หอม (ทุกชนิดอาทิ ต้นหอม หัวหอม หอมแดง) หลักเกียว กุยช่าย และผักชี
บ้างก็รวมผักชีและเครื่องเทศรสเผ็ดร้อนเข้ามาด้วย เพราะผักเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อธาตุในร่างกาย บ้างเชื่อว่า ผักเหล่านี้เพิ่มความกำหนัดหรือมาจากเลือดของสัตว์ตามตำนานจีนอ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> เปิดผิดรูปหรือมีชื่อที่ใช้ไม่ได้ ทำให้อาหารเจไม่มีกลิ่นคาว เนื่องจากการงดเนื้อสัตว์ ทำให้ผู้ที่กินเจหันมาบริโภคธัญพืชในธรรมชาติเพื่อให้ได้มาซึ่งโปรตีน ซึ่งส่วนใหญ่ได้แก่ ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง[6] โดยในประเทศจีน พบว่ามีภัตตาคารบางแห่งซึ่งบริการ "ปรุงอาหารตามใบสั่งแพทย์" (กล่าวคือผู้ที่เข้ามารับประทานจะต้องได้รับใบสั่งอาหารของแพทย์เสียก่อน) โดยลูกค้าของภัตตาคารดังกล่าวเป็นคนไข้ที่กำลังเข้ารับ "การบำบัดโรคด้วยอาหารตามหลักเวชศาสตร์โบราณ" หลังเข้ารับการตรวจวินิจฉัยจากแพทย์แล้ว

เทศกาลกินเจ 2566 นี้นอกจากจะเป็นช่วงที่ดีสำหรับการรักษาศีล เพื่อทำให้จิตใจผ่องใส และ ยังทำให้สุขภาพของเราดีขึ้นอีกด้วย แต่ผู้ที่เริ่มทานครั้งแรกก็อาจจะยังดูเป็นเรื่องที่ยากและท้าทาย นอกจากนี้การรักษาสุขภาพที่ดีนอกจากจะทำในช่วงกินเจแล้ว การดูแลสุขภาพด้วยการหมั่นออกกำลังกาย ทานอาหารและนอนหลับให้เพียงพอ ก็ช่วยให้สุขภาพร่างกายของเรากลับมาสดใสได้อีกด้วยเช่นเดียวกัน 

เทศกาลกินเจ 2566 เผยข้อแนะนำดีๆ กินเจให้ปัง พร้อมสุขภาพดีตลอด 9 วัน 9 คืน

ขอขอบคุณข้อมูลอ้างอิง : ที่มาจาก วิกิพีเดีย
"พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-03-03. สืบค้นเมื่อ 2011-11-18.
http://news.phuketindex.com/travel/phuket-vegetarian-2-190191.html
http://www.trangzone.com/webboard_show.php?page=5&ID=4152
http://www.dhammathai.org/articles/dbview.php?No=1687
อาหารเจ สูตรอาหารเจ ในเทศกาลกินเจ 2556
http://www.horapa.com/content.php?Category=Tips&No=663

logoline