พยากรณ์อากาศวันพรุ่งนี้ ทั่วประเทศไทย เจอฝนตกหนักถึงหนักมาก กทม.ปริมณฑลฝน 80% ของพื้นที่
'พยากรณ์อากาศพรุ่งนี้'
กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานสภาพอากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ และอ่าวไทย
ลักษณะเช่นนี้ทำให้มีฝนตกหนักบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคใต้ โดยมีฝนตกหนักมากบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคกลางและภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม รวมทั้งเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองและหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรงไว้ด้วย
สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง
ออกประกาศ 29 กันยายน 2566
เกาะติด รายงานการพยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 18:00 น. วันนี้ ถึง 18:00 น. วันพรุ่งนี้
ภาคเหนือ
มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 80 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง
บริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แพร่ สุโขทัย อุตรดิตถ์ ตาก
กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์
อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส
ลมแปรปรวน ความเร็ว 5-15 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดเลย หนองคาย หนองบัวลำภู อุดรธานี ชัยภูมิ ขอนแก่น
ร้อยเอ็ด มหาสารคาม กาฬสินธุ์ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี
อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส
ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
ภาคกลาง
มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง
บริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท พระนครศรีอยุธยา กาญจนบุรี สุพรรณบุรี และราชบุรี
อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ภาคตะวันออก
มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง
บริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สงขลา ยะลา และนราธิวาส
อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา ตรัง และสตูล
อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส
ตั้งแต่จังหวัดพังงาขึ้นมา : ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ตั้งแต่จังหวัดภูเก็ตลงไป : ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
กรุงเทพฯและปริมณฑล
มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 80 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
เช็กพื้นที่เสี่ยงภัยฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย
ตรวจสอบสภาพอากาศอีก 7 วันข้างหน้า
คาดหมายอากาศทั่วไป ระหว่างวันที่ 29 กันยายน – 5 ตุลาคม พ.ศ.2566
ในช่วงวันที่ 30 ก.ย. – 2 ต.ค. 2566 ร่องมรสุมกำลังอ่อนพาดผ่านประเทศไทยตอนบนในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยจะมีกำลังอ่อนลง ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยมีฝนลดลง ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง และอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1 - 2 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 3 – 5 ต.ค. 2566 ร่องมรสุมจะพาดผ่านภาคกลางตอนล่าง และภาคตะวันออก ในขณะที่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลางมีแนวโน้มจะเคลื่อนผ่านปลายแหลมญวณเข้าสู่อ่าวไทยตามแนวร่องมรสุม ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง และอ่าวไทยมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ข้อควรระวัง
ในช่วงวันที่ 3 – 5 ต.ค. 2566 ขอให้ประชาชนบริเวณภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและลมกระโชกแรงบางแห่ง ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม รวมทั้งเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรงไว้ด้วย ส่วนชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง
ออกประกาศ 29 กันยายน 2566 12:00 น.
คาดหมายอากาศรายภาค ระหว่างวันที่ 29 กันยายน – 5 ตุลาคม พ.ศ.2566
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 30 ก.ย. – 1 ต.ค. 66 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 - 60 ของพื้นที่
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 – 15 กม./ชม.
ส่วนในวันที่ 2 ต.ค – 5 ต.ค. 66 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 - 40 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค
ลมแปรปรวน ความเร็ว 5 – 15 กม./ชม.
อุณหภูมิต่ำสุด 23 – 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 – 37 องศาเซลเซียส
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 30 ก.ย. – 2 ต.ค. 66 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 - 60 ของพื้นที่
ลมแปรปรวน ความเร็ว 10 – 20 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 3 – 5 ต.ค. 66 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 - 40 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค
ลมตะวันออก ความเร็ว 10 – 20 กม./ชม.
อุณหภูมิต่ำสุด 23 – 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 – 37 องศาเซลเซียส
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 30 ก.ย. – 2 ต.ค. 66 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 - 40 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 – 20 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 3 – 5 ต.ค. 66 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 - 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากทางตอนล่างของภาค
ลมแปรปรวน ความเร็ว 10 – 20 กม./ชม.
อุณหภูมิต่ำสุด 23 – 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 – 37 องศาเซลเซียส
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 30 ก.ย. – 1 ต.ค. 66 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 - 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1 - 2 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 2 – 5 ต.ค. 66 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 70 - 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง
ลมแปรปรวน ความเร็ว 15 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 24 – 28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 – 36 องศาเซลเซียส
ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)
ในช่วงวันที่ 30 ก.ย. – 2 ต.ค. 66 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 - 40 ของพื้นที่
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1 - 2 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 3 – 5 ต.ค. 66 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 - 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
ลมแปรปรวน ความเร็ว 15 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 23 – 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 – 36 องศาเซลเซียส
ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)
ในช่วงวันที่ 30 ก.ย. – 2 ต.ค. 66 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 - 40 ของพื้นที่
ตั้งแต่จังหวัดพังงา ขึ้นไป ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ตั้งแต่จังหวัดภูเก็ต ลงมา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1 - 2 เมตร
ในช่วงวันที่ 3 – 5 ต.ค. 66 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 - 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง
ตั้งแต่จังหวัดพังงา ขึ้นไป ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ตั้งแต่จังหวัดภูเก็ต ลงมา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 23 – 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28 – 33 องศาเซลเซียส
กรุงเทพฯและปริมณฑล
ในช่วงวันที่ 30 ก.ย. – 2 ต.ค. 66 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 - 60 ของพื้นที่
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 – 15 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 3 – 5 ต.ค. 66 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 - 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
ลมแปรปรวน ความเร็ว 10 – 20 กม./ชม.
อุณหภูมิต่ำสุด 25 – 28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 – 36 องศาเซลเซียส
พยากรณ์ฝนสะสมรายวัน (ทุกๆ 24 ชม.:(นับตั้งแต่ 07.00น. ถึง 07.00น.วันรุ่งขึ้น) 10 วันล่วงหน้า ระหว่าง 29 ก.ย.- 8 ต.ค. 2566 อัปเดต 2023092812 จากศูนย์พยากรณ์อากาศระยะกลางยุโรป (ECMWF) :
🎯 สำหรับภาคใต้จะมีฝนตกต่อเนื่อง โดยเฉพาะด้านรับมรสุมที่ทิศทางลมพัดเข้าหาหย่อมความกดอากาศต่ำ บริเวณ จ.ระนอง พังงา ต้องระวังฝนตกหนักและฝนตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากได้ คลื่นลมแรงขึ้น โดยเฉพาะทางด้านทะเลอันดามัน
🎯🎯ช่วง 30 ก.ย. - 8 ต.ค.2566 ร่องมรสุมจะสวิงขึ้นมาพาดผ่านภาคกลาง ภาคตะวันออกและภาคใต้ตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณจีนใต้ ฝนเกิดขึ้นได้ตามแนวร่องมรสุม และใกล้หย่อมความกดอากาศต่ำ ฝนยังมีต่อเนื่อง ระวังฝนตกสะสม สถานการณ์พายุหมุนเขตร้อนในขณะนี้คาดว่าจะมีหย่อมความกดอากาศก่อตัวในบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก มีแนวโน้มจะเคลื่อนตัวทางทางตะวันตกเฉียงเหนือ เข้าสู่ทางด้านตะวันออก ของประเทศจีน ยังไม่มีทิศทางเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย
(ข้อมูลนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามข้อมูลนำเข้าใหม่ ภายใต้เงื่อนไขของปีที่เกิดปรากฎการณ์เอลนีโญ ซึ่งทำให้สภาวะฝนของไทยเปลี่ยนแปลงไป ใช้เพื่อประกอบการตัดสินใจ)
อ้างอิงชุดข้อมูลจาก: กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศ 29 กันยายน 2566 12:00 น.
ปิดท้ายที่รายงานข่าว เหตุแผ่นดินไหวขนาด 4.8 แมกนิจูด นอกชายฝั่งญี่ปุ่น เบื้องต้นไม่มีรายงานความเสียหาย -ไม่มีเตือนภัยสึนามิ
กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานว่าเมื่อเวลา 14.57 น.(ตามเวลาประเทศไทย) เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ประเทศญี่ปุ่น ใกล้ชายฝั่งด้านทิศตะวันออกของเกาะฮอนชู (Near East Coast of Honshu) ขนาด 4.8 ลึก 108 กม.เบื้องต้นไม่มีรายงานความเสียหาย หรือ การประกาศเตือนภัยสึนามิ
ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น ได้รายงานเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งนี้ เมื่อเวลา 14.58 น.โดยเผยว่าจุดศูนย์กลางของแผ่นดินไหวครั้งนี้ อยู่บริเวณนากะโดริ จังหวัดฟูกุชิมะ ระดับความสั่นสะเทือนสูงสุดสุดที่วัดได้อยู่ที่ระดับ 3 ทั้งนี้สามารถตรวจสอบข้อมูลแผ่นดินไหวได้ผ่านเว็บไซต์กรมอุตุฯญี่ปุ่น (คลิกที่นี่)
ขอขอบคุณที่มา กรมอุตุนิยมวิทยา
ออกประกาศ 29 กันยายน 2566