
ชื่อนี้ กำลังเป็นถูกค้นหาจำนวนมากอีกครั้งในโลกโซเชียล "บ้านพิบูลธรรม" หลังจากที่นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานภายใต้ ครม.เศรษฐา1 เลือกเป็นที่นั่งทำงาน แทนที่จะนั่งที่กระทรวงพลังงานชั้น 25 อาคารเอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ ถนนวิภาวดีรังสิต
ก่อนหน้านี้ ชวนคอข่าวเปิดประวัติ พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค "รมว.พลังงาน"คนใหม่ไปแล้ว วันนี้ทีมข่าวจะชวนไปทำความรู้จัก ที่ทำงาน หรือ ฐานบัญชาการ "รมว.พลังงานคนใหม่" ให้มากยิ่งขึ้นนั่นคือ "บ้านพิบูลธรรม"
สถานที่ตั้ง : กระทรวงพลังงาน เลขที่ 17 ถ.พระรามที่ 1
ตำบล : รองเมือง
อำเภอ : เขตปทุมวัน
จังหวัด : กรุงเทพมหานคร
เขตลุ่มน้ำหลัก : เจ้าพระยา
เขตลุ่มน้ำรอง : คลองผดุงกรุงเกษม
ตามประวัติ "บ้านพิบูลธรรม" หรือ "บ้านนนที" สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ ๕ ช่วงปี 2240 จนในรัชสมัยต่อมารัชกาลที่ ๖ ทรงพระราชทานเงินเพื่อก่อสร้างบ้านหลังนี้ให้มีอาคารเพิ่มเติม จะเห็นว่าสไตล์การออกแบบส่วนใหญ่มีความประณีตงดงามด้วยฝีมือสถาปนิกชาวอิตาลี เนื่องจากเป็นยุคที่ไทยกำลังเปิดรับอารยธรรมตะวันตกเข้ามาในหลายๆ ด้าน
จนกระทั่งเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ในปี พ.ศ. 2484 บ้านนนทีถูกระเบิดเสียหายอย่างหนักเกินกว่าจะซ่อมแซม เจ้าของบ้านจึงขายให้รัฐบาล ช่วงเวลานั้นจอมพล ป. พิบูลสงครามได้อนุมัติให้ซื้อไว้ในปี พ.ศ. 2498 และปรับปรุงซ่อมแซมเพื่อใช้เป็นสถานที่รับรองแขกเมือง และขนานนามใหม่ว่า ‘บ้านพิบูลธรรม’
ต่อมาในปี พ.ศ. 2502 บ้านหลังนี้ได้รับอนุมัติให้เป็นที่ทำการของการพลังงานแห่งชาติ และเปลี่ยนชื่อหน่วยงานเป็นกรมพัฒนาและส่งเสริมพลังงาน กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) สังกัดกระทรวงพลังงาน จนถึงปัจจุบัน
ด้วยความที่บ้านหลังนี้ได้นายช่างสถาปนิกชาวอิตาลี ที่รับราชการในไทยมาช่วยออกแบบ จึงได้ชื่อว่าเป็นอาคารที่โดดเด่นด้านสถาปัตยกรรมและมีศิลปกรรมงดงามล้ำค่าซ่อนตัวอยู่มากมาย
อาคารเก่าบ้านพิบูลธรรมทั้งสองหลัง และศาลาไม้อีกหลัง ก็คือ อาคารสำนักงานเลขานุการกรมซึ่งอยู่ด้านหน้า และอาคารกองควบคุมและส่งเสริมพลังงานตั้งเยื้องไปด้านหลัง ส่วนศาลาไม้อยู่ด้านขวาของอาคารสำนักเลขานุการกรม และด้านหน้าของอาคารกองควบคุมและส่งเสริมพลังงาน
เพดานรอบๆ ภาพเขียน ประดับด้วยหูช้างไม้สลักเรียงรายตลอด ถัดลงมาเป็นภาพจิตรกรรมเถาไม้ดอกสีสดสวย ผนังจากระดับขอบประตูบนลงมาประดับไม้สลักลาย ตามขอบสลักลายเถาผลไม้ เสาไม้กลมตั้งบนฐานสี่เหลี่ยมสลักลาย พื้นปูหินอ่อน ปัจจุบันห้องโถงนี้ใช้เป็นห้องเลี้ยงรับรอง
จิตรกรรมฝาผนังรามเกียรติ์"บ้านพิบูลธรรม"งานฝีมือที่หาชมได้ยากอาคารทั้งสองหลังมีความงดงามทั้งด้านสถาปัตยกรรมและศิลปกรรม ตกแต่งภายในด้วยลายไม้แกะสลักตามเพดานและผนังห้อง ประตู และหน้าต่าง
ภายในห้องโถงอาคารหน้าส่วนกลาง บนเพดานประดับภาพจิตรกรรมแบบตะวันตกเรื่องรามเกียรติ์ โถงนอกเป็นจิตรกรรมรูปรามสูรเมขลา ส่วนโถงในรูปทศกัณฐ์ลักนางสีดากำลังต่อสู้กับนกสดายุ
ห้องด้านหน้าทางปีกซ้ายของอาคารหลังนี้ ซึ่งปัจจุบันใช้เป็นห้องทำงาน มีภาพจิตรกรรมแบบเดียวกันประดับที่ฝาผนังด้านขวา เป็นภาพตอนพระรามตามกวาง ส่วนเพดานห้องเป็นภาพ fresco รูปหมู่กามเทพเด็กแบบฝรั่ง เขียนโดยชาวอิตาลีชื่อ Carlo Rigoli
"บ้านพิบูลธรรม" ได้รับการบูรณะในช่วงปี พ.ศ. 2546-2547 โดยการดูแลของ "กรมศิลปากร" ทำให้อาคารยังคงมีสภาพที่สมบูรณ์ มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรม