
กระแสร้อนแรงในวันนี้ หลังประกาศข่าวดี ให้แฟนคลับเสื้อแดง สาวกพรรคเพื่อไทยได้ชื่นอกชื่นใจ โดยข่าวนี้ส่งตรงมาจากทางด้าน “อุ๊งอิ๊งค์ แพทองธาร ชินวัตร” ทายาทสาวคนสวยของ “ทักษิณ ชินวัตร” ได้ออกมาประกาศข่าวดีจนกลายเป็นกระแสร้อนตลอดทั้งวัน
“อุ๊งอิ๊งค์ แพทองธาร” ได้โพสต์ประกาศข่าวดีครั้งใหญ่ คุณพ่อสุดที่รัก “ทักษิณ ชินวัตร” เตรียมเหยียบแผ่นดินไทย 10 สิงหาคมนี้ โดยเธอนั้นได้โพสต์ระบุข้อความไว้ดังนี้
26 กรกฎาคม ของทุกปี เป็นวันสำคัญของลูกเสมอ แต่ปีนี้ลูกยังไม่อยากเชื่อตัวเอง ในสิ่งที่ลูกกำลังจะพิมพ์ พ่อจะกลับมาแล้ว วันที่ 10 สิงหาคมนี้ ที่สนามบินดอนเมือง
17 วันเกิดที่ต่างประเทศของพ่อ ลูกพลาดไปแค่ 2 ครั้ง ถ้ารวมครั้งปีนี้คือครั้งที่ 3 เพราะต้องเตรียมหลายอย่างที่เมืองไทย ใจของลูกและทุกคนในครอบครัวเราหนักอึ้ง ทั้งดีใจ ทั้งเป็นห่วง แต่ก็เคารพการตัดสินใจของพ่อเสมอ ลูกขอให้บุญรักษานะคะ ให้พ่อของลูกแข็งแรงปลอดภัย ได้มาส่งหลานๆ ไปโรงเรียนบ่อยๆ เหมือนที่พ่อตั้งใจไว้ ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายใจดีกับพ่อของลูก เหมือนที่พ่อใจดีกับทุกคนเสมอ รักพ่อที่สุดในโลก
สำหรับ พี่น้องที่อ่านมาถึงตรงนี้
คุณพ่อเป็นคนไทยคนหนึ่ง เป็นนายกฯ ที่ถูกพูดถึงว่า มีผลงานมากที่สุดและประสบชะตากรรม ถูกกระทำแสนสาหัส การตัดสินใจกลับบ้านครั้งนี้ เป็นสิ่งที่คุณพ่อพูดอย่างจริงจังต่อเนื่องมาตั้งแต่ต้นปี 2565 แม้จะอยู่บนพื้นฐานของความเป็นมนุษย์ และในฐานะคนไทยคนนึง แต่คำนึงถึงอย่างที่สุด ต่อความสบายใจ และกังวล ห่วงใย ของทุกคนค่ะ
#74yearsyoung ##tonywoodsome
หลังจากโพสต์ดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ออกไป ทางด้าน "หมวดอ๋อ" หรือ "ผู้กำกับอ๋อ" โผล่เคลื่อนไหวกลางไอจี “อุ๊งอิ๊งค์ แพทองธาร” ทันที โดยการพิมพ์อิโมจิรูปหัวใจในทันที
อีกความเคลื่อนไหว!
ฮ่องกงสะเทือน ‘ทักษิณ’ ฉลองวันเกิด ‘พระเอก’ ขั้วอนุรักษนิยม
มีรายงานข่าวว่า สส.เพื่อไทย และแกนนำพรรคขั้ว 188 เสียง ตบเท้าเข้าอวยพรทักษิณ ตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.นี้
นัยว่า งานวันเกิดทักษิณปีนี้ จะเป็นปีสุดท้ายที่จุดเทียนเป่าเค้กในต่างแดน เพราะช่วงปลายเดือน ส.ค.นี้ หลังได้เห็นโฉมหน้ารัฐบาลเพื่อไทย ทักษิณคงเดินกลับมากราบแผ่นดินอีกครั้ง++ ล่าสุดยืนยันแล้ว 10 สิงหาคม 2566 นี้ พร้อมกับไทย
หากจำกันได้ เมื่อ 26 ก.ค. 2565 ทักษิณ ชินวัตร เผยแพร่คลิปในวันคล้ายวันเกิด ผ่านทางเว็บไซต์ Thaksinofficial โดยมีการสัมภาษณ์ทักษิณเกี่ยวกับเรื่องเส้นทางชีวิต และครอบครัว
ใจความตอนหนึ่ง ทักษิณ พูดว่า
“การเมืองเป็น zero sum games ถ้าเราสุข เขาจะทุกข์ ถ้าเราทุกข์ เขาจะสุข..”
สรุปจากคลิปชิ้นนั้น ทักษิณต้องการสื่อถึงใครบางคนในประเทศไทย 1.อยากกลับเมืองไทย คิดถึงอนาคตของหลาน 2.ให้อภัยศัตรูหรือคู่ปรปักษ์ทางการเมือง 3.สงสารคุณหญิงพจมาน ที่ต้องแบกทุกเรื่อง
สืบสายโลหิต
จากปี 2544-2554 คนในตระกูลชินวัตร ได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 3 คนคือ ทักษิณ,สมชาย วงศ์สวัสดิ์ สามีเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ และยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
ทักษิณ ชินวัตร บนถนนการเมืองไทยเป็นทั้งพระเอกและผู้ร้าย จากชัยชนะครั้งยิ่งใหญ่ในการเลือกตั้งปี 2548 พรรคไทยรักไทย ได้ 377 เสียง กลายเป็นจุดชนวนการต่อต้านเผด็จการรัฐสภา จากคนกลุ่มหนึ่ง และขยายวงเป็นการชุมนุมใหญ่ขับไล่รัฐบาลทักษิณ
การทำงานการเมืองของทักษิณ ไม่ได้สร้างพรรคเชิงอุดมการณ์ พรรคไทยรักไทยก็ไม่ต่างจากพรรคประชาธิปัตย์ในแง่อุดมการณ์ แต่มีความต่างตรงที่ทักษิณชูประชาธิปไตยกินได้ ขายนโยบายประชานิยม จึงชนะใจประชาชนทั้งประเทศ
การบริหารงานภายในพรรค ทักษิณก็สร้างพรรคแบบชาติไทยของบรรหารคือ ทำงานการเมืองแบบสืบสายโลหิต
ด้วยเหตุนี้ พรรคก้าวไกลจึงโดดเด่นกว่าพรรคเพื่อไทย ทั้งในแง่อุดมการณ์ และยุทธศาสตร์การสร้างพรรคแบบเสรีนิยม
การเมืองเก่า
22 ปีที่แล้ว พรรคไทยรักไทย เปิดตัวด้วยบุคคลที่มีชื่อเสียงจากหลายวงการ ซึ่งถือเป็นมิติใหม่ทางการเมืองไทย แต่ผ่านไประยะหนึ่ง ทักษิณก็ใช้วิธีการแบบการเมืองเก่า
ดังนั้น ช่วงปี 2542-2543 จะพบว่ามีนักการเมืองที่ย้ายเข้าสู่พรรคไทยรักไทยจำนวนมาก เฉพาะอดีต สส.มีมากถึง 130 คน ที่มาจากกลุ่มพลังธรรม, กลุ่มวังน้ำเย็น,กลุ่มสะสมทรัพย์,กลุ่มกิจสังคม ฯลฯ
หลังเลือกตั้งปี 2544 ทักษิณ ยังได้ผนวกพรรคเสรีธรรม นำโดยประจวบ ไชยสาส์น เข้าเป็นส่วนหนึ่งของพรรคไทยรักไทย ตามมาด้วยพรรคความหวังใหม่
ก่อนการเลือกตั้งปี 2548 ทักษิณได้เจรจากับกลุ่มสุวัจน์ และกลุ่มกำนันเป๊าะ ให้ลงสมัคร สส.ในนามพรรคไทยรักไทย จึงทำให้ปีนั้น พรรคของทักษิณ กวาดมาได้ 377 เสียง
หลังรัฐประหาร 2549 กลุ่มหรือซุ้มการเมืองในไทยรักไทยจำนวนหนึ่ง ก็แยกย้ายไปสร้างพรรคใหม่ แต่เลือกตั้งปี 2550 พรรคของทักษิณในชื่อพลังประชาชน ก็ยังได้เสียงข้างมาก
เช่นเดียวกับปี 2554 พรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้ง ยิ่งลักษณ์ได้เป็นนายกฯ และจบด้วยรัฐประหาร 2557
มาถึง พ.ศ.นี้ ทักษิณที่เคยเป็นผู้ร้าย ในสายตากลุ่มอนุรักษนิยมตลอดช่วง 17 ปีที่ผ่านมา กำลังจะกลับมาเป็นพระเอก เมื่อชนชั้นนำในการเมืองไทยมองว่า พรรคก้าวไกลคือ ปฏิปักษ์ของระบอบประชาธิปไตยแบบไทยๆ
การเลือกตั้ง 14 พ.ค. 2566 พิสูจน์แล้วว่า พรรคขั้วอนุรักษนิยม ไม่อาจต้านทานพายุสีส้มได้ ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องประกาศวางมือทางการเมือง
ทักษิณ ชินวัตร ผู้ต้องการประนีประนอมกับชนชั้นนำ เพื่อจะได้กลับบ้านมาเลี้ยงหลาน จึงกลายเป็นทางเลือกใหม่ของขั้วอนุรักษนิยม ในการต่อสู้กับพรรคสีส้ม
อีกปมร้อนๆ ที่่คอการเมืองต้องไม่กระพริบตา
การรีเซ็ตเกมใหม่ของพรรคเพื่อไทย ถูกขยายผลไปยังการเลื่อนโหวตเก้าอี้นายกรัฐมนตรี จากเดิมที่ วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา นัดหมายไว้วันที่ 27 ก.ค.66 นี้
แม้จะให้เหตุผลว่า เพื่อต้องการลดความขัดแย้งกรณีผู้ตรวจการแผ่นดิน ส่งคำร้องให้ “ศาลรัฐธรรมนูญ” วินิจฉัยปมบังคับการประชุมรัฐสภาข้อที่ 41 ซึ่งทำให้ชื่อของ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หัวหน้าพรรคก้าวไกล แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี โดนโหวตแพ้คาที่ประชุมรัฐสภามาแล้ว จึงไม่สามารถนำชื่อมาโหวตซ้ำได้อีก แต่ในทางปฏิบัติอำนาจ 3 เสาหลักแยกขาดกันอยู่แล้ว ไม่สามารถก้าวก่ายกันได้
เกมเลื่อนการโหวตนายกรัฐมนตรี จึงถูกมองว่ามี “บิ๊กเนม” เข้ามาคอยคุมเกม กำกับการแสดง เพราะจังหวะเวลายังไม่เป็นใจให้พรรคเพื่อไทย
อุปสรรคสำคัญอยู่ที่สถานะของ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลยังคงอยู่ เนื่องจากพรรคก้าวไกล ขอกอดคอกับพรรคเพื่อไทยไม่ยอมถอยออกไปเอง แม้จะมีความพยายามโดดเดี่ยวพรรคก้าวไกล โดยผูกปมเงื่อนกับการแก้ไข ม.112 แต่คีย์แมนพรรคก้าวไกลประกาศกลยุทธ์ “หน้าด้าน” เพื่อผูกขาพรรคเพื่อไทยเอาไว้
ขณะเดียวกันภายใน 8 พรรค ยังมีพรรคไทยสร้างไทย พรรคเป็นธรรม คอยให้การสนับสนุนพรรคก้าวไกล เพราะหากสมการจัดตั้งรัฐบาลไม่มีพรรคก้าวไกล ทั้งพรรคไทยสร้างไทย และพรรคเป็นธรรม จะตกขบวนทันที
นาทีนี้ หลายฝ่ายทั้งวงใน วงนอก ฟันธงว่า 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล ขั้ว 312 ได้ปิดฉากลงอย่างไม่เป็นทางการแล้ว เมื่อทั้ง ก้าวไกล และเพื่อไทย กลายเป็นเดดล็อกของอีกฝ่าย เหลือเพียงแค่ฉากสุดท้าย จะจากกันด้วยดี หรือร้ายเท่านั้น
เวลานี้ โจทย์ยากจึงไปตกอยู่ที่เพื่อไทย ว่าจะใช้วิธีการสลัดพรรคก้าวไกลทิ้งให้ได้ ต้องติดตามว่าทีมยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทยวางเกมเอาไว้อย่างไร เพื่อปฏิบัติการให้แนบเนียนมากที่สุด และพอมีความชอบธรรมหลงเหลืออยู่บ้าง เพื่อไม่ให้เสียแต้มทางการเมือง
นอกจากนี้ ยังมีกระแสข่าว “นายใหญ่” ทักษิณ ชินวัตร พร้อมด้วย "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" อดีตนายกรัฐมนตรี มาตั้งวอร์รูมบัญชาการเกมจัดตั้งรัฐบาลที่เกาะฮ่องกง พร้อมกดปุ่มให้เลื่อนการโหวตนายกรัฐมนตรีออกไปก่อน เพื่อประเมินสถานการณ์ทางการเมืองให้รอบคอบมากที่สุด ไม่ต้องการให้เกมไปเข้าทาง “มือมืด” ที่อาจจะรอส้มหล่น
ว่ากันว่า “ขั้ว 5 พรรค” ประกอบด้วย พรรคภูมิใจไทย พรรคพลังประชารัฐ พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคชาติไทยพัฒนา และพรรคชาติพัฒนากล้า มีความพร้อมที่จะเข้าร่วมรัฐบาล แต่ปฏิบัติการหลังฉากของ “บิ๊กเนม” ที่ยื่นข้อเสนอให้กับ “นายใหญ่” ยังไม่เบ็ดเสร็จร้อยเปอร์เซ็นต์
ทำให้ “นายใหญ่” และ เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ยังกล้าๆ กลัวๆ หากต้องเดินเข้าสู่เกมโหวตในที่ประชุมรัฐสภา แล้วมีใครบางคนคิดเปลี่ยนเกมกลางคัน เพราะมี “บางพรรค” ยังหวังเข็น “ลุง” เข้ามานั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีอยู่
อีกทั้ง “ทีมบ้านป่ารอยต่อ” ยังเสนอสูตรต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรีไว้สูงลิบ หมายปองเก้าอี้ รมว.มหาดไทย และหวังจะส่งคนเข้าไปดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทำให้ข้อต่อรองบนโต๊ะเจรจายังเคาะกันไม่จบ
เวลานี้ “นายใหญ่” จึงต้องการคำยืนยันจากใครบางคนที่พอจะเชื่อถือได้ และทรงพลังมากพอให้ขับเคลื่อนเกม “เพื่อไทย” จับมือกับ “ขั้วอำนาจเก่า” เพราะมีราคาค่างวดที่ต้องจ่ายสูงมาก เดิมพันความอยู่รอดของพรรคเพื่อไทย ในสมรภูมิเลือกตั้งครั้งหน้า
ดังนั้น เมื่อ “นายใหญ่” มาบัญชาการที่เกาะฮ่องกง โดยมีกระแสข่าวว่าพร้อมเดินทางเข้าประเทศไทยทันที หากการเจรจาบนโต๊ะกับ “ขั้วอำนาจเก่า” สามารถตกลงกันได้ทั้งหมด โดยมีเงื่อนไขการโหวตเก้าอี้นายกรัฐมนตรีเป็นเดิมพัน
ที่มา: กรุงเทพธุรกิจ