
26 กรกฎาคม 2566 จากกรณี คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบให้ วันที่ 31 กรกฎาคม 2566 เป็นวันหยุดราชการเพิ่มเติมเป็นกรณีพิเศษ "วันหยุดพิเศษ" ในการประชุมเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคมที่ผ่านมา ทำให้มีวันหยุดราชการยาวถึง 6 วัน ตั้งแต่วันที่ 28 กรกฎาคม ไปจนถึง 2 สิงหาคม 2566
ต่อมา เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์โดยเฉพาะทางฝั่งบุคลากรทางการแพทย์ กระทั่งโรงพยาบาล และคณะแพทย์หลายแห่ง แถลงยืนยันเปิดบริการตามปกติ เนื่องจากหยุดกะทันหันไม่สามารถบริหารจัดการระบบมารองรับได้ทัน โดยเฉพาะการนัดผ่าตัดผู้ป่วยไว้ล่วงหน้า ตามข่าวที่เสนอมาก่อนหน้านี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ล่าสุดเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยถึง มติ ครม.ดังกล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ได้กำชับไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 25 ก.ค.ที่ผ่านมา ว่า เป็นไปได้ขอให้โรงพยาบาลในสังกัดสธ. เปิดบริการตามปกติ ให้แนวไว้ว่า ขอให้เปิดตามปกติ โดยเฉพาะการนัดผ่าตัดผู้ป่วย ต้องไม่ให้เกิดผลกระทบ
นอกจากนี้ มอบหมายให้ นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช รองปลัดกระทรวงฯ ไปสื่อสารกับทางชมรมนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (นพ.สสจ.) และชมรมโรงพยาบาลศูนย์โรงพยาบาลทั่วไป ว่า กระทรวงสาธารณสุข ขอให้สถานพยาบาลเปิดบริการ แต่ให้พิจารณาตามความเหมาะสมว่า ตรงไหนเปิดได้ ตรงไหนเลื่อนได้ ซึ่งต้องอยู่ที่การบริหารภายในรพ.นั้นๆ
“ล่าสุดเห็นมีรพ.หลายแห่งประกาศออกมาแล้ว เช่น รพ.มหาราชนครราชสีมา รพ.วชิระภูเก็ต ฯลฯ ที่สำคัญเมื่อครม.ประกาศเป็นวันที่ 31 กรกฎาคม 2566 เป็นวันหยุดราชการ ต้องมีการบริหารเรื่องค่าโอทีให้กับน้องๆ หมอ พยาบาล บุคลากรที่ต้องมาทำงานวันหยุด เราต้องให้พวกเขาด้วย ต้องบริหารจัดการให้เหมาะสม” นพ.โอภาส กล่าว
ขณะที่ โรงพยาบาลมหาราช ซึ่งได้ประกาศเปิดให้บริการตามปรกติ นพ.ประวีณ ตัณฑประภา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกล่าวว่า เราปฏิบัติตามมติ ครม. เพียงแต่ว่า กระทรวงสาธารณสุข เล็งเห็นความสำคัญของผู้ป่วย เนื่องจากมติ ครม.ออกมา ทางกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งปกติมีการบริการคนไข้ตามปกติ 24 ชั่วโมงอยู่แล้ว แต่ช่วงวันที่ 31 กรกฎาคม ซึ่งจะติดหยุดยาว ทางกระทรวงฯ กับรพ.เล็งเห็นว่าจะมีปัญหากับผู้ป่วย เพราะนัดไปแล้วเลื่อนไม่ทัน และยิ่งเมื่อหยุดยาว พอเปิดราชการตามปกติจะแห่มารับบริการจำนวนมาก การบริการจะไม่เพียงพอ
ดังนั้น คนไข้นัดมาแล้ว อย่างนัดผ่าตัด จึงเป็นสิ่งจำเป็น ทำให้รพ.มีการหารือกันกับรองแพทย์ กับองค์กรแพทย์ทั้งหมดว่าถ้าเปิดได้ก็ควรทำ ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับผู้ป่วยทั้งของรพ. และของทั้งจังหวัดในโคราช
“ประเด็นคือ เมื่อครม.ประกาศวันที่ 31 กรกฎาคมเป็นวันหยุดราชการ การมาทำงานจึงเป็นเวลานอกราชการก็จะมีการจ่ายค่าตอบแทนนอกเวลา จ่ายค่าโอทีให้ เพราะน้องๆ หมอเค้าเลื่อนนัดไม่ทัน ก็ต้องมาตรวจและจ่ายค่าโอทีให้เขา ซึ่งแพทย์ บุคลากรในรพ.มหาราชฯไม่ได้มีปัญหาตรงนี้” นพ.ประวีณ ระบุ
ผู้สื่อข่าวถามว่าเคสนัดผ่าตัดมีมากน้องเพียงใด นพ.ประวีณ กล่าวว่า มีจำนวนเยอะอยู่ อย่าง รพ.มหาราชนครราชสีมา เป็นโรงพยาลาลจังหวัดขนาดใหญ่ เป็นโรงพยาลบาลระดับเชี่ยวชาญ ประชาชนจึงมารับบริการจำนวนมากอยู่แล้ว
เมื่อมีประกาศเป็นวันหยุด จึงต้องมาพิจารณาว่า อันไหนเลื่อนนัดได้ อันไหนเลื่อนไม่ได้ ถ้าเลื่อนได้ ก็ต้องไม่ขยับออกไปไกลมาก แต่ในกรณีคนไข้รอไม่ได้ เช่น ก้อนเนื้องอกขนาดใหญ่ที่มีความเสี่ยง ก็จะทำให้เลย ส่วนการผ่าตัดนอกเวลาก็จะเป็นเรื่องฉุกเฉินเป็นหลัก
เมื่อถามว่าเปิดบริการตามเดิม แต่ยกเว้นแผนกจิตเวช และทันตกรรม นพ.ประวีณ กล่าวว่า ใช่ เนื่องจาก 2 แผนกสามารถเลื่อนคนไข้ไม่เร่งด่วนได้ แต่หากฉุกเฉินก็สามารถมาได้เช่นกัน
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า รพ.มหาราชนครราชสีมา สามารถจ่ายค่าโอที ค่าล่วงเวลางานได้ใช่หรือไม่ ผอ.รพ.ฯ กล่าวว่า ด้วยความเป็นรพ.ขนาดใหญ่ ค่าใช้จ่ายการบริหารกำลังสูงมาก แต่เราก็ต้องคิดเทียบกับผลประโยชน์ประชาชนต้องให้ประชาชนได้รับความคุ้มค่าที่สุด จึงต้องบริหารจัดการให้ได้
อย่างไรก็ตาม ในเรื่องการเตรียมพร้อมกรณีการรับบริการฉุกเฉิน ที่วันหยุดยาวจะพบการบริการมากเป็นพิเศษ ทางรพ.เตรียมพร้อมแล้ว มีการบริหารจัดการตามปกติอยู่แล้ว เพียงแต่หยุดยาวเราก็จะต้องอาศัยกำลังแพทย์ พยาบาลมาช่วยนอกเวลามากขึ้น และทีมบริหารก็จะดูแลและซัพพอร์ตบุคลากรอื่นๆ ที่มาช่วยวันหยุดยาว