
26 มิถุนายน 2566 กลายเป็น ประเด็นร้อน ที่สังคมให้ความสนใจ และตั้งข้อสงสัยกรณี กรมศุลกากรจับทุเรียน น้ำหนัก 8,420 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท ในพื้นที่ จ.สระแก้ว โดยระบุ เป็น ทุเรียนเถื่อน มีถิ่นกำเนิดต่างประเทศ เพราะไม่ปรากฎเอกสารหลักฐาน แสดงการผ่านพิธีการศุลกากรโดยถูกต้อง
ขณะที่เจ้าของทุเรียน (ล้ง) โต้ว่า ทุเรียนดังกล่าวซื้อมาอย่างถูกต้อง จากเจ้าของสวนในพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ หรือ ทุเรียนภูเขาไฟ เพื่อนำมาส่งขายไปยังต่างประเทศ เนื่องจากทุเรียนใน จ.จันทบุรี มีไม่เพียงพอ และมีการเข้าแจ้งความเอาผิดเรื่องนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
แต่ภายหลังทางพาณิยช์จังหวัดออกมาระบุว่า ทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษแท้นั้น จะต้องมี ใบรับรองมาตรฐานสินค้าเกษตร (GAP) ซึ่งกรณีนี้ มีการเอกสารระบุถึงรายชื่อ เกษตรกรที่ขายทุเรียนให้กับล้ง แต่เมื่อตรวจสอบย้อนกลับ กลับไม่พบตัวของเกษตรแต่อย่างใด จึงน่าสงสัยว่า จะเป็นการสวมสิทธิ์เกษตรกร เพื่อสร้างหลักฐานในการขายทุเรียน เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ศุลกากร หรือไม่อย่างไร
สำหรับประเด็นเรื่องของ ใบรับรองมาตรฐานสินค้าเกษตร (GAP) เพื่อสำหรับใช้เป็นเอกสารยืนยันแหล่งที่มาของผลผลิตทางการเกษตรนั้น ทีมข่าวเนชั่นออนไลน์ ได้มีการรวบรวมข้อที่น่าสนใจ เกี่ยวกับเอกสารรับรอง GAP โดยเฉพาะในส่วนของ ทุเรียนไทย
ปัจจุบันมีสวนทุเรียน ที่ได้มาตรฐานการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี หรือ GAP (Good Agricultural Practices) ที่ผ่านการรับรองจากกรมวิชาการเกษตร ขึ้นทะเบียนแล้วเมื่อวันที่ 30 เม.ย. 66 จำนวน 77,136 แปลง
โรงคัดบรรจุที่ได้มาตรฐานหลักเกณฑ์วิธีการที่ดีในการผลิต หรือ GMP (Good Manufacturing Practice) ที่สามารถส่งผลไม้ ไปยังประเทศจีนได้จำนวน 1,907 แห่ง
ประเด็นของ ทุเรียนศรีสะเกษ ที่ถูกกรมศุลกากรจับนั้น แหล่งข่าวตั้งข้อสังเกตุว่า หากเป็นทุเรียนจากศรีสะเกษ จริงน่าจะเป็นทุเรียนที่รับซื้อจากชาวสวน ที่ยังไม่มี ใบรับรองมาตรฐาน GAP ซึ่งไม่สามารถส่งออกได้ เมื่อนำส่งที่ล้ง อาจจะใช้กระบวนการสวมสิทธิใบ GAP เพื่อให้สามารถส่งออกได้
จากข้อมูลของกรมวิชาการเกษตร จังหวัดศรีสะเกษ มีสวนทุเรียนที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน GAP จำนวน 931 สวนเท่านั้น หากเป็นทุเรียนศรีสะเกษ ที่ผ่านการรับรอง น่าจะมีการโต้แย้งกับเจ้าหน้าที่กรมศุลกากร โดยการแสดงเอกสารที่มาที่ไปของทุเรียนได้
ทั้งนี้ มาตรฐาน GAP เกษตรกรส่วนใหญ่จะทำเพื่อการส่งออก เนื่องจากในการส่งออกทุเรียนทุกครั้ง ต้องใช้ใบรับรอง GAP ซึ่งมีความสำคัญมาก ในกลุ่มเกษตรกร และเกิดกระบวนการสวมสิทธิทุเรียนอยู่บ่อยครั้ง และกรมวิชาการเกษตรได้แจ้งเตือนเกษตรกร ใบรับรอง GAP ของท่านมีค่า อย่าให้ใครนำมาใช้สวมสิทธิ์การส่งออก หรือจำหน่ายผลผลิตที่ไม่ได้รับรองมาตรฐาน GAP หากฝ่าฝืน จะถูกเพิกถอนใบรับรอง GAP ทำให้ไม่สามารถส่งออกทุเรียนได้
เรื่องน่ารู้ในการส่งออกสินค้าผลไม้
1) สำนักงานศุลกากรจีน (GACC) เป็นหน่วยงานเดียว ที่มีอำนาจพิจารณาเบ็ดเสร็จ ในการนำเข้าสินค้าเกษตรและอาหารของจีน
2) กฎระเบียบสำคัญที่ควรรู้ในการส่งออกผลไม้ไปจีน ได้แก่
- กฎหมายควบคุมความปลอดภัยผลิตภัณฑ์อาหาร (Food Safety Law) เพื่อควบคุมสินค้าเกษตรและอาหาร ให้เป็นไปตามข้อตกลงร่วมกันกับจีน
- กฎหมายการกักกันโรคพืชและสัตว์ที่นำข้าและส่งออก (Law of Entry and Exit Animal and Plant Quarantine) เพื่อควบคุมสินค้าที่มีความเสี่ยงสูงให้มีความปลอดภัย
ขั้นตอนส่งผลไม้สดจากไทยไปจีน
1.เกษตรกรผู้ผลิตขอขึ้นทะเบียนผู้ส่งออกกับกรมวิชาการเกษตร
2.เกษตรกรขอการรับรองแหล่งผลิต หรือ GAP (Good Agricultural Practice) และระบบการผลิตตามมาตรฐาน GMP (Good Manufacturing Practice)
3.เกษตรกร/ผู้ส่งออกต้องขอใบรับรองสุขอนามัยพืชหรือ "ใบ PC" จากกรมวิชาการเกษตร เพื่อแนบไปกับสินค้าที่จะส่งออก
4.ส่งสินค้าไปพร้อมกับใบรับรองปลอดศัตรูพืช (Phytosanitary certificate : PC)
5.หากผลไม้ผ่านมาตรฐาน จำหน่ายในประเทศจีนได้
6.สินค้าจะผ่านการตรวจสอบที่ด่านนำเข้าของจีน หากไม่ผ่านจะถูกตีกลับ