
ถ้อยแถลงจาก เซเว่น แอนด์ ไอ โฮลดิงส์ (Seven & i Holdings) ระบุว่า อิโตะ เสียชีวิตเมื่อวันศุกร์ (10 มี.ค.) ที่ผ่านมา สืบเนื่องจากชราภาพ
"เราอยากแสดงความสำนึกบุญคุณท่านด้วยความจริงใจสำหรับความเมตตากรุณาตลอดช่วงชีวิตของท่าน"
เวลานี้ 7-Eleven มีสาขามากกว่า 83,000 แห่งทั่วโลก และราว 1 ใน 4 ตั้งอยู่ในญี่ปุ่น โลกอาลัย สิ้น “มาซาโตชิ อิโตะ” ชายผู้ขยายอาณาจักรร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven
อิโตะ คือ ผู้พลิกโฉมวงการค้าปลีกในญี่ปุ่น เปลี่ยนบริษัทที่เดิมที่ริเริ่มก่อตั้งในสหรัฐฯ ให้กลายเป็นแบรนด์ระดับสากล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาคเอเชีย ที่ในหลายๆ เมือง ต่างคราคร่ำไปด้วย ร้านเซเว่น อีเลฟเว่น แทบจะใช้เวลาเดินหาเพียงไม่กี่นาที
ปัจจุบัน เซเว่น แอนด์ ไอ โฮลดิงส์ดูแลร้านเซเว่น อีเลฟเว่น กว่า 83,000 แห่งทั่วโลก ใน 19 ประเทศ รวมถึง ร้านสะดวกซื้อ Speedway ในสหรัฐอเมริกา
ซึ่งในปี 1956 นายอิโตะ มีส่วนร่วมในการสานต่อกิจการ เป็นร้านเครื่องแต่งกายเล็ก ๆ ในกรุงโตเกียว โดยสานต่อมาจากลุงและพี่ชายต่างแม่ และต่อมา นายอิโตะ มีการเปลี่ยนแปลงชื่อบริษัทเป็น อิโตะ-โยคาโดะ และเปลี่ยนธุรกิจเป็นร้านสะดวกซื้อครบวงจรที่มีสินค้าทุกชนิดในร้านตั้งแต่ของชำไปจนถึงเสื้อผ้า พร้อมกับเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในปี 1972
ในช่วงเวลาเดียวกัน นายโตชิฟูมิ ซูซูกิ ผู้บริหารของอิโตะ-โยคาโดะ ได้พบเข้ากับ ร้านเซเว่น อีเลฟเว่นในประเทศสหรัฐ บริษัทจึงมีการทำข้อตกลงกับ บริษัทเซาท์แลนด์ คอร์ปอเรชั่น ในประเทศสหรัฐ ซึ่งเป็นเจ้าของเซเว่น อีเลฟเว่น และนำร้านเซเว่น อีเลฟเว่นเข้ามาเปิดในประเทศญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกในปี 1974 (เปิดร้านสาขาแรกในญี่ปุ่นในปี 2517)
คู่แข่งหลักของเซเว่น อีเลฟเว่น ได้แก่ ลอว์สัน (Lawson) ที่มีเจ้าของเป็นชาวญี่ปุ่น และแฟมิลี มาร์ท (Family Mart) ซึ่งเป็นแฟรนไชส์ร้านสะดวกซื้อ แต่ทั้ง 2 เจ้าก็ยังมีจำนวนสาขาทั่วโลกไม่เยอะ หรือทั่วถึง เทียบเท่ากับอาณาจักรของเซเว่น อีเลฟเว่น
ที่มาของมุมมองทางธุรกิจที่เฉียบแหลมของอิโตะ
มุมมองทางธุรกิจของอิโตะ ส่วนหนึ่งได้รับอิทธิพลมาจาก ปีเตอร์ ดรักเกอร์ ที่ปรึกษาด้านการจัดการของเขา ผู้ซึ่งเคยยกย่องอิโตะว่า "เป็นผู้ประกอบการและผู้สร้างธุรกิจที่โดดเด่นคนหนึ่งของโลก"
ย้อนไปในปี 2531 อิโตะ เคยให้สัมภาษณ์กับ The Journal of Japanese Trade and Industry ว่าเมื่อครั้งที่เขาเดินทางไปสหรัฐอเมริกาในปี 2503 เขาเกิดความรู้สึกตกใจว่า "ทำไมทุกคนที่นี่ถึงดูร่ำรวย ในขณะญี่ปุ่นเวลานั้นเศรษฐกิจย่ำแย่ และอยู่ในช่วงฟื้นตัวจากสงครามโลกครั้งที่ 2"
เขาจึงเริ่มศึกษาจำนวนผู้บริโภคที่แท้จริงในสหรัฐ จนพบว่ามีขนาดใหญ่ และลองหาเทคนิคการจัดจำหน่ายที่เป็นไปได้เพื่อตอบสนองผู้บริโภคกลุ่มใหญ่นี้
“แม้ผู้คนอยู่ในวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน แต่พวกเขายังคงมีความต้องการโดยพื้นฐานเหมือนกัน และระบบการจัดจำหน่ายของญี่ปุ่น จะเริ่มเหมือนของสหรัฐมากขึ้น เมื่อสังคมผู้บริโภคของญี่ปุ่นเติบโตขึ้น”
ร้านสะดวกซื้อเซเว่น อีเลฟเว่น มีจุดเริ่มต้นในปี 2470 เมื่อบริษัทโรงน้ำแข็งหลายแห่งในเมืองดัลลัส รัฐเท็กซัส รวมตัวกันเป็นบริษัท เซาท์แลนด์ ไอซ์ จำกัด เพื่อขยายเวลาให้บริการจำหน่ายน้ำแข็งให้ยาวนานออกไป จากนั้นในปี 2489 ร้านค้าถูกเปลี่ยนชื่อเป็น "เซเว่น อีเลฟเว่น" (7-Eleven) เปิดบริการตั้งแต่ 7.00 - 23.00 น.
ในปลายคริสต์ทศวรรษที่ 1980 บริษัทเริ่มประสบปัญหาทางการเงิน และได้รับความช่วยเหลือจากบริษัท อิโต-โยคะโด (Ito Yokado) ที่บริหารโดยอิโตะ ทำให้กลายเป็นผู้ซื้อแฟรนไชส์รายใหญ่ที่สุดและมีอำนาจควบคุมเซาท์แลนด์
จากนั้นในปี 2548 ก่อตั้งบริษัทเซเว่น แอนด์ ไอ โฮลดิงส์ และเซเว่น อีเลฟเว่น กลายเป็นบริษัทลูกของเซเว่น แอนด์ ไอ โฮลดิงส์ตั้งแต่นั้นมา
อิโตะ เป็นผู้ประกอบการที่สร้างธุรกิจในยุคหลังสงคราม เขาได้รับการยกย่องว่า เป็นผู้ปั้นแบรนด์ระดับโลกที่จำหน่ายสินค้าทุกอย่าง ตั้งแต่โยเกิร์ตไปจนถึงอาหารสำเร็จรูปและยารักษาโรค ตลอดช่วงปี 2513 -2523 มีผู้สนใจเสนอซื้อกิจการและขยายกิจการหลายครั้งหลายครา
เส้นทางชีวิตขิงอิโตะ ตามรายงานของสถานี NHK อิโตะเริ่มต้นการทำธุรกิจในปี 2501 เมื่อเขาเข้ามาเป็นบริหารร้านเสื้อผ้าเล็กๆ ในโตเกียวที่เป็นกิจการของครอบครัว ต่อมาเขาเริ่มนำอาหารและของใช้ในชีวิตประจำวันประเภทอื่นๆมาขายด้วย โดยเขาเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น อิโตะ-โยคะโด และเริ่มดำเนินธุรกิจเหมือนซูเปอร์มาร์เก็ตในสหรัฐ
จากนั้นในปี 2517 บริษัท อิโตะ-โยคะโด ได้ทำข้อตกลงกับบริษัท เซาท์แลนด์ คอร์ปอเรชั่น (Southland Corporation) ในสหรัฐ และเปิดร้านเซเว่น อีเลฟเว่นแห่งแรกในญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในกรุงโตเกียว
ในเดือนมีนาคม 2534 บริษัทของเขาก็ได้เข้าถือหุ้นใหญ่ในเซาท์แลนด์ มีอำนาจบริหารบริษัทเต็มตัว แต่ทว่า 1 ปีต่อมา อิโตะลาออกจากตำแหน่งประธานบริหารของบริษัทอิโตะ-โยคะโด เพื่อรับผิดชอบต่อข้อกล่าวหาว่า เขาให้ผลตอบแทนแก่พนักงานที่ฉ้อโกงบริษัท
หลังจากนั้นบริษัท อิโตะ-โยคะโด ถูกเปลี่ยนชื่อ เป็นเซเว่น แอนด์ ไอ โฮลดิงส์ ในปี 2548 โดยอิโตะยังคงรับตำแหน่งเป็นประธานกิตติมศักดิ์ของบริษัทจนกระทั่งเขาเสียชีวิต
ครั้งหนึ่ง อิโตะ เคยให้สัมภาษณ์ ถึง "เคล็ดลับความสำเร็จของ เซเว่น อีเลฟเว่น" เมื่อปี 2531 ว่า
“ผมมักถูกถามว่า ประสบความสำเร็จได้ เพราะทำงานหนักหรือเพราะโชคดี คำตอบของผมคือทั้งสองอย่าง”
ร้านสะดวกซื้อญี่ปุ่นควรเปิด24ชั่วโมง
มาซาโตชิ อิโตะ นักธุรกิจชาวญี่ปุ่น ปัจจุบันอายุ 98 ปี เป็นผู้ก่อตั้งและผู้บริหารซูเปอร์มาร์เก็ตอิโต-โยคะโดะ กลุ่มค้าปลีกใหญ่อันดับ 2 ของโลก และเป็นคนตัดสินใจที่จะเปิดร้านเซเว่น-อีเลฟเว่นในญี่ปุ่น
จุดต่างอย่างหนึ่งจากความคิดระหว่าง จอห์น เจฟเฟอร์สัน กับ มาซาโตชิ อิโตะ คือ วิธีการเรียกลูกค้าและตอบสนองความต้องการของลูกค้า เพราะมาซาโตชิ อิโตะ มองว่า “ทำไมร้านสะดวกซื้อต้องมีเวลาเปิด-ปิด?” ซึ่งก็เป็นเหตุผลที่ทำให้เซเว่น-อีเลฟเว่นในญี่ปุ่นนำร่องร้านสะดวกซื้อที่เปิด 24 ชั่วโมงในยุคแรก ๆ
ส่วนสินค้าที่ขายในเซเว่น-อีเลฟเว่นเรียกว่าครบ เพราะลูกค้าสามารถหาซื้อได้แม้แต่หลอดดูดน้ำ หรือช้อนส้อม ดังนั้น ความใส่ใจในการบริหาร การจัดระเบียบคลังสินค้า และคุณภาพของสินค้าที่คัดมา ทำให้เซเว่น-อีเลฟเว่น กลายเป็นคอนวีเนี่ยนสโตร์ที่มีสาขามากที่สุดในโลก จากเป้าหมายแรกที่พยายามขยายแฟรนไชส์ให้ได้ปีละ 100 แห่ง
ความสำเร็จของเซเว่น-อีเลฟเว่น ดูได้จากการขยายสาขา เพราะในปัจจุบันเปิดให้บริการแล้วมากกว่า 70,200 สาขา ใน 17 ประเทศทั่วโลก อ้างอิงตัวเลขจาก statista ในปี 2564
กว่าเส้นทางของร้านเซเว่น-อีเลฟเว่นจะประสบความสำเร็จได้ขนาดนี้ เราต้องหันมาดูตั้งแต่วิธีคิด วิธีการบริหารธุรกิจของมาซาโตชิ อิโตะ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นผู้กอบกู้ชื่อเสียงและฟื้นฟูธุรกิจจนเป็นเบอร์หนึ่งในวงการคอนวีเนี่ยนสโตร์
สิ่งหนึ่งที่เขามักจะพูดเสมอถึงวิธีคิดเพื่อบริหารธุรกิจให้ดี ซึ่งเป็นคำแนะนำมาจาก ‘ปีเตอร์ ดรักเกอร์’ (Peter Drucker) ในฐานะเป็นที่ปรึกษาทางธุรกิจคือ “อย่ามัวแต่เร่งขยายสาขา แต่ให้ดูแลแต่ละสาขาทำให้รากฐานแข็งแรงก่อน” คงคล้ายกับสุภาษิตไทยที่บอกว่า “ช้า ๆ ได้พร้าเล่มงาม” ดูจะจริงมาก
ขอขอบคุณที่มา : CNN / ฐานเศรษฐกิจ / The People