กรมอุตุฯ ประกาศเข้าฤดูร้อน 5 มี.ค.นี้ พยากรณ์ร้อนกว่าปี 65 สูงสุด 43 องศา
กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเข้าฤดูร้อน 5 มีนาคม 2566 ค่าเฉลี่ยอุณหภูมิ สูงกว่าปีที่เเล้ว ภาคเหนือจ่อเผชิญอุณหภูมิร้อนจัด 40-43 องศาเซลเซียส พร้อมเตือนรับมือพายุฤดูร้อน ตั้งเเต่กลางมีนาคม
3 มีนาคม 2566 เมื่อเวลา 10.00 น. ดร. ชมภารี ชมภูรัตน์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา แถลง “การเข้าสู่ฤดูร้อนของประเทศไทย ประจำปี พ.ศ. 2566” ระบุว่า ขณะนี้ประเทศไทยสิ้นสุดฤดูหนาว และ จะเริ่มเข้าสู่ฤดูร้อน วันที่ 5 มีนาคม 2566 ตามเกณฑ์การพิจารณาการเข้าสู่ฤดูร้อน 2 องค์ประกอบ ได้แก่
- ลมที่พัดปกคลุมบริเวณประเทศไทยตอนบนเปลี่ยนจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือเป็นละวันออกเฉียงใต้
- พื้นที่ประเทศไทยตอนบนส่วนใหญ่มีอากาศร้อนในตอนกลางวัน อุณหภูมิวัดได้ตั้งแต่ 35 องศาขึ้นไป
โดยคาดว่าฤดูร้อนจะสิ้นสุดฤดูร้อนในช่วงกลางเดือนพฤษภาคม 2566 ปีนี้อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย 35.5 องศาเซลเซียส ซึ่งสูงกว่าปีที่แล้ว จังหวัดที่คาดว่าอุณหภูมิร้อนจัดจะสูงที่สุด 40-43 องศาเซลเซียส ได้แก่ สุโขทัย ตาก ลำปาง และแม่ฮ่องสอน สำหรับกรุงเทพมหานครและปริมณฑล อุณหภูมิสูงสุด 38-39 องศาเซลเซียส
อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยด้วยว่า จากการคาดหมายลักษณะอากาศไทยตอนบน ตั้งแต่เริ่มต้นฤดูร้อนไปจนถึงกลางเดือนมีนาคม 2566 จะมีอากาศร้อนหลายพื้นที่ในตอนกลางวันกับมีหมอกหนา
ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังคงมีอากาศเย็นในตอนเช้า จากนั้นจนถึงปลายเดือนเมษายน อากาศจะร้อนอบอ้าวโดยทั่วไป รวมทั้งมีอากาศร้อนจัดหลายพื้นที่ อุณหภูมิสูงที่สุด 40-43 องศาเซลเซียส ในช่วงนี้อาจเกิดพายุฤดูร้อน โดยจะมีพายุฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรง รวมทั้งอาจมีลูกเห็บตกในบางแห่ง ก่อให้เกิดความสูญเสียทั้งชีวิต ทรัพย์สินตลอดจนผลผลิตทางการเกษตรได้
ส่วนในช่วงปลายเดือนเมษายนถึงกลางเดือนพฤษภาคมที่เป็นช่วงปลายฤดูร้อน ลักษณะอากาศจะเริ่มแปรปรวน โดยยังคงมีอากาศร้อนอบอ้าวในบางช่วงกับจะมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น
สำหรับทางด้านภาคใต้ของประเทศไทย ประมาณปลายเดือนมีนาคมถึง ปลายเดือนเมษายน จะมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ คลื่นลมทั้งทะเลอันดามันและอ่าวไทยสูง 1-2 เมตร
จากนั้นจนถึงกลางเดือนพฤษภาคมจะมีฝนตกชุกหนาแน่นเพิ่มขึ้น ต่อเนื่องโดยเฉพาะภาคใต้ฝั่งตะวันตก จะมีฝนตกหนักร้อยละ 60-80 ของพื้นที่ คลื่นลมในทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้น บางช่วงอาจสูง 2-3 เมตร ส่วนทะเลอ่าวไทยยังคงมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ในช่วงเปลี่ยนฤดูจากปลายฤดูหนาวไปต้นฤดูร้อน (ปลาย ก.พ.-กลาง มี.ค.) บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และ ภาคตะวันออก จะมีพายุฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น เนื่องจากมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนแผ่ลงมาปะทะกับอากาศประเทศไทยที่เริ่มร้อนขึ้น ต่อมา ในช่วงกลางฤดูร้อน (กลาง มี.ค.-เม.ย.)
ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน ประกอบกับกับมวลอากาศเย็นจากประเทศจีน และลมที่พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้เข้ามาปกคลุมประเทศไทย ซึ่งทั้ง 3 ปัจจัยนี้ก็จะส่งผลให้เกิดพายุฤดูร้อน พายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และ ลูกเห็บตกได้ในบางพื้นที่ โดยจะมีผลกระทบกับภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อนในวันแรก ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก กรุงเทพมหานครและปริมณฑล จะมีผลกระทบในวันถัดไป
คาดการณ์ปริมาณฝนปี 2566 ปีนี้กรมอุตุฯ คาดว่าประเทศไทยตอนบนจะมีฝนใกล้เคียงค่าปกติ ภาคใต้ปริมาณฝนจะมากกว่าค่าปกติเล็กน้อย อาจเกิดสภาวะฝนทิ้งช่วงในปลายเดือนมิถุนายน และต้นเดือนกรกฎาคม ดังนั้นจึงขอให้พี่น้องเกษตรกรวางแผนรับมือกักเก็บสำรองน้ำไว้ใช้เพาะปลูกและติดตามคาดหมายสภาพอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างต่อเนื่องไว้ด้วย
