GISTDA เผยรายงาน กาญจนบุรี 'จุดความร้อน' พุ่งสูงสุด ในไทยวันนี้

สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA เผยข้อมูลจากดาวเทียมซูโอมิ เอ็นพีพี (Suomi NPP) ของระบบเวียร์ (VIIRS) ไทยพบ "จุดความร้อน" วานนี้ (19 ก.พ.66) จำนวน 682 จุด ในขณะที่จุดความร้อนของประเทศเพื่อนบ้านอย่างสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ยังคงครองอันดับหนึ่งอยู่ที่ 1,729 จุด, กัมพูชา 517 จุด, สปป.ลาว 410 จุด, เวียดนาม 55 จุด และมาเลเซีย 11 จุด

สำหรับ จุดความร้อนในประเทศไทยส่วนใหญ่พบในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ 279 จุด ป่าสงวนแห่งชาติ 179 จุด พื้นที่เกษตร 86 จุด พื้นที่เขต สปก. 69 จุด ชุมชนและอื่นๆ 68 จุด และริมทางหลวง 4 จุด

จังหวัดที่พบจุดความร้อนมากที่สุด คือ 

กาญจนบุรี 123 จุด
อุตรดิตถ์ 60 จุด
เลย 55 จุด ตามลำดับ

ค่าฝุ่นPM 2.5 เมื่อตรวจสอบจากแอปพลิเคชัน “เช็คฝุ่น” พบว่า หลายพื้นที่อยู่ระดับปานกลาง เว้นภาคกลางที่อยู่ระดับที่เริ่มมีผลต่อสุขภาพ แต่อย่างไรก็ตาม ก่อนออกจากบ้านควรสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งเพื่อป้องกันโรคระบบทางเดินหายใจที่อาจจะตามมา

สิ่งหนึ่งที่ต้องเฝ้าระวังที่มักจะมากับเหตุการณ์ไฟป่าและจุดความร้อน คือ PM 2.5 สถานการณ์การจุดความร้อนจากประเทศเพื่อนบ้านอาจส่งผลให้เกิด PM 2.5 ได้ในพื้นที่บริเวณชายแดนเนื่องจากได้รับอิทธิพจากประแสลมที่จะพัดผ่านเข้ามา ปัญหาไฟป่าหมอกควัน ส่งผลกระทบให้กับระบบต่างๆ ของประเทศมาโดยตลอด โดยเฉพาะระบบเศรษฐกิจ ระบบสังคม

ดังนั้น ในอนาคตอันใกล้นี้ ประเทศไทยกำลังจะได้ใช้ระบบ THEOS-2 อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่ง 1 ในภารกิจสำคัญของระบบนี้ คือการสำรวจ วิเคราะห์ และติดตามสถานการณ์ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นหรือคาดว่าจะเกิดขึ้น ได้อย่างทันท่วงทีและแม่นยำ เพื่อการสนับสนุนข้อมูลสำคัญให้กับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำข้อมูลไปใช้วางแผน ป้องกัน บรรเทา และแก้ไขปัญหาได้ตรงจุดมากยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม รายละเอียดข้อมูลเฉพาะพื้นที่ท่านสามารถติดตามจากหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบโดยตรงได้ GISTDA ยังคงติดตามและรายงานสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นข้อมูลให้กับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำไปใช้บริหารจัดการในพื้นที่

ท่านสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://fire.gistda.or.th และควรติดตามสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ผ่านแอปพลิเคชันเช็คฝุ่น

 

แนะ 6 วิธีลดโลกร้อนที่คุณทุกคนช่วยโลกเราได้ !!

ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกแล้ว

เพราะทุกอย่างกำลังเกิดขึ้นจริง กับ ภาวะโลกร้อน (Global Warming) หรือ การที่อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกเพิ่มขึ้น จากผลของภาวะเรือนกระจก หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อว่า Greenhouse Effect ที่มีสาเหตุมาจากการเพิ่มของปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ จากทั้งการขนส่ง การผลิตในภาคอุตสาหกรรม รวมถึงการตัดไม้ทำลายป่า ทำให้สาร CFC ในชั้นบรรยากาศเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

และในวันนี้ เรา-ทุกคนบนโลกใบนี้ แทบจะไม่มีเวลาแล้วที่จะลังเล ควรที่จะเร่งปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เพราะเราทุกคนสามารถร่วมกันเยียวยาโลกใบนี้ได้ ขอเพียงเริ่มจากตัวเรา วันนี้จึงขอเชิญชวนทุกคนมาร่วมลดโลกร้อนด้วย 6 วิธีลดโลกร้อนแบบง่ายๆ ที่คุณสามารถทำตามได้ในชีวิตประจำวัน 

1. ใช้ถุงผ้า
พกถุงผ้าส่วนตัวให้เป็นนิสัย พร้อมหยิบใช้งานไม่ว่าจะซื้อของในร้านเล็กหรือร้านใหญ่ เพราะถุงพลาสติกเพียง 1 ใบใช้เวลาการย่อยสลายกว่า 450 ปี ข้อมูลจากกรมควบคุมมลพิษระบุว่าแต่ละปีมีขยะพลาสติกและโฟมมากถึง 2.7 ล้านตัน หรือเฉลี่ย 7,000 ตันต่อวัน กว่า 80 เปอร์เซ็นต์เป็นพลาสติก ซึ่งหากต้องกำจัดด้วยการเผา ก็จะยิ่งเพิ่มก๊าซเรือนกระจก ลดปริมาณอากาศบริสุทธิ์ให้แย่ไปอีก

2. พกขวด หรือแก้วรักษ์โลกใช้งาน
ลองพกขวดน้ำ หรือแก้วไปนอกบ้าน ไม่ว่าจะไปทำงาน ไปยิม แทนการใช้ขวดหรือแก้วพลาสติก นอกจากจะช่วยลดการเกิดขยะพลาสติกแล้ว ยังได้ส่วนลดในร้านกาแฟ หรือคาเฟ่อีกด้วย

3. ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าแล้วต้องถอดปลั๊ก
ลดการใช้พลังงานในบ้าน ด้วยการปิดเครื่องใช้ไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็นโทรทัศน์ คอมพิวเตอร์ เครื่องเสียง และเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ เมื่อไม่ได้ใช้งาน จะช่วยลดคาร์บอนไดออกไซด์ได้ประมาณ 455 กิโลกรัมต่อปี ที่สำคัญคือค่าไฟลดลงแน่นอน

 

สำหรับในออฟฟิศ หรือสำนักงาน ก็สามารถทำได้ด้วยการปิดไฟในช่วงเวลาพักเที่ยง และเปิดแอร์ที่อุณหภูมิ 25 องศา

 

 

4. ใช้หลอดไฟ LED
หลอดไฟ LED (Light Emitting Diode) คือหลอดประหยัดไฟสูงสุดถึง 15% เมื่อเทียบกับหลอดไส้) และมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่าหลอดไฟธรรมดาทั่วไป (เฉลี่ย 15,000 ชม.) รวมถึงไม่มีรังสีอินฟราเรด และรังสี UV ที่ทำอันตรายต่อผิวผู้ใช้งาน

 

สำหรับหลอดไฟ LED ในบางผลิตภัณฑ์นั้น สามารถช่วยลดการใช้พลังงานได้ถึง 85% เมื่อเทียบกับหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์ มีอายุการใช้งานหลอดไฟนาน ถึง 25,000 ชั่วโมง มีหลากหลายรูปแบบให้เลือกทั้งหลอดไฟ LED T5,หลอดไฟ LED T8, หลอดไฟ LED A60 ชุดโคมไฟ LED ติดเพดาน และดาวน์ไลท์

 

5. ใช้บันไดแทนการใช้ลิฟท์
รู้หรือไม่ การกดลิฟต์หนึ่งครั้งเท่ากับเสียค่าไฟครั้งละ 7 บาท ลองเปลี่ยนการใช้ลิฟท์มาใช้บันไดแทน นอกจากจะได้ออกกำลังกายแล้วยังประหยัดไฟได้เยอะเลย

6. ลดการใช้ยานพาหนะส่วนตัว
ยานพาหนะ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์ จะปล่อยก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ และก๊าซเรือนกระจกอื่น ๆ เป็นจำนวนมากส่งผลต่อชั้นบรรยากาศจนเกิดภาวะโลกร้อน หากเราลองเปลี่ยนมาโดยสารด้วยรถโดยสารสาธารณะ หรือระบบขนส่งมวลชนต่าง ๆ จะช่วยลดการปล่อยก๊าซพิษได้ไม่น้อยเลย หรืออาจใช้วิธีทางเดียวกันไปด้วยกัน รถคันเดียวกัน ก็ช่วยได้

และนี่คือ 6 วิธีลดโลกร้อน!! ที่คุณ คุณและคุณๆๆๆ สามารถเป็นส่วนหนึ่งที่เป็นส่วนสำคัญในการช่วยลดโลกร้อนได้ ขอเพียงเริ่มจากตัวเรา และครอบครัวของเรา เพื่อโลกของเรา