svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

“สุเมธ ตันติเวชกุล” แนะแก้ปัญหาโลกร้อน Climate change มีอะไรต้องเร่งทำทันที

21 มกราคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ปัญหาเรื่องของโลกร้อน และ Climate change ที่ผ่านมามีการพูดถึงกันมามากแล้ว โดยหลายคนรู้ปัญหา รู้ทางออก รู้วิธีการแก้ไข แต่กลับไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะเริ่มต้นแก้ปัญหาอย่างจริงจังเสียที  แนะข้อเสนอแก้ปัญหาโลกร้อน (เรา)ต้องเริ่มจากตรงไหน 

20 มกราคม 2566 เป็นวันเปิดเวทีผู้นำ Climate Action Leaders Forum 2 หรือ CAL Forum รุ่นที่ 2 นำโดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ องค์การบริหารก๊าซเรือนกระจก ณ ห้องบอลรูม สโมสรราชพฤกษ์ กรุงเทพฯ

เป็นครั้งที่ 2 แล้วของการที่ภาครัฐและเอกชนออกมาร่วมมือกันหาแนวทางการแก้ปัญหาวิกฤตภาวะโลกร้อน หรือ Climate Change ร่วมกัน ตามความถนัดของแต่ละสาขา


ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา ปาฐกถาพิเศษในเวทีผู้นำ CAL Forum รุ่นที่ 2 เรื่องความเชื่อมโยงของการจัดการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกับการพัฒนาอย่างยั่งยืนตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ว่า ปัญหาเรื่องของโลกร้อน และ Climate change ที่ผ่านมามีการพูดถึงกันมามากแล้ว โดยหลายคนรู้ปัญหา รู้ทางออก รู้วิธีการแก้ไข แต่กลับไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะเริ่มต้นแก้ปัญหาอย่างจริงจังเสียที 

“การพูดถึงเรื่องสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องที่พูดกี่ครั้งมันก็ยังเหมือนเดิม หากไม่ช่วยกันลงมือทำ นั้นจึงเป็นเหตุให้ต้องถามว่า เมื่อไหร่จะลงมือทำกันสักที ตอนนี้มนุษย์โลกมีประชากรแตะ 8,000 ล้านคนแล้ว ยิ่งประชากรมากขึ้นเท่าไหร่ เราก็ใช้ทรัพยากรเยอะไปเท่านั้น มนุษย์ทุกคนถลุงโลก ตั้งแต่ลืมตาดูโลกไปจนถึงตายเราก็ทำร้ายโลก ตลอดช่วงระยะเวลาการเติบโตเหล่านั้น เราล้วนใช้ทรัพยากร”

“สุเมธ ตันติเวชกุล” แนะแก้ปัญหาโลกร้อน Climate change มีอะไรต้องเร่งทำทันที

วิกฤตเหล่านี้ได้นำไปสู่ความร่วมมือของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) ร่วมกับสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ริเริ่มโครงการ Cliamte Action Leaders Forum หรือ CAL Forum ขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์หลักได้แก่

Climate Action Literacy สร้างความเข้าใจ เกี่ยวกับสถานการณ์วิกฤตสภาพภูมิอากาศ และความสำคัญของการดำเนินงานลดโลกร้อน ด้วยความรับผิดชอบในระดับที่แตกต่าง

Climate Action Communication สร้างเวทีสื่อสาร แลกเปลี่ยนแนวคิดและประสบการณ์ เพื่อนำไปสู่บทบาทการลดก๊าซเรือนกระจกของประเทศ ด้วยการเรียนเชิญท่านผู้นำจากทุกภาคส่วน

“ที่ผ่านมามีนักปราชญ์ และวิเคราะห์นักเศรษฐกิจเตือนมาแล้วว่า วันข้างหน้าประชากรจะมากกว่าทรัพยากร โดยมนุษย์ทุกคนได้ถลุงโลกตั้งแต่ลืมตาเกิดขึ้นมาจนกระทั่งตาย ได้ใช้ทรัพยากรไปมาก และก็ไม่ใช่การใช้ทรัพยากรไปเพื่อยังชีวิตอย่างเดียว แต่เป็นการใช้ทรัพยากรไปหลาย ๆ อย่างไปกับสิ่งที่ไม่จำเป็นใน” ดร.สุเมธ กล่าว

ดร.สุเมธ กล่าวว่า โลกยุกปัจจุบันยิ่งมีความเจริญมากขึ้นเท่าไหร่ คนก็ยิ่งเข้าไปทำลายทรัพยากรต่าง ๆ มากขึ้น จนเกิดเป็นความทุกข์ โดยมีความตายรออยู่ข้างหน้า ซึ่งในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา ได้ถูกเชิญไปเป็นประธานงานแต่งงานมาหลายงาน และพูดทิ้งท้ายทุกครั้งว่าขอให้มีลูกเร็ว ๆ แต่ตอนนี้อยากพูดเหลือเกินว่าอย่าเพิ่งมีลูกเลย เพราะตัวเองยังไม่รอด มีความทุกข์มากถึงขนาดนี้ และหากมีเด็กเกิดขึ้นมาก็ไม่รู้ว่าจะเหลืออะไร

ทั้งนี้ หลากหลายปัญหาที่เกิดขึ้นบนโลก มนุษย์รู้ปัญหา รู้ทางแก้ แต่พอถึงจุดหนึ่งที่ต้องกระทำขึ้นมากลับมีปัญหาขึ้นเสียเอง เช่น การมีข้อตกลงต่าง ๆ บนเวทีของโลก แต่สุดท้ายแล้วก็ยังไม่ได้ขับเคลื่อนอะไรออกมา 

 

“ปัญหาทุกอย่างทุกคนรู้แล้วว่าทางรอดคืออะไร เป็นทางรอดของตัวเองและลูกหลานข้างหน้า ซึ่งการต่อสู้ระหว่างกิเลสและปัญญานั้น สู้กันมา 2,000 กว่าปีแล้ว แต่ก็ยังไม่ชนะ มนุษย์ก็ยังเป็นมนุษย์ยังไม่สามารถบรรลุกิเลสปัญหาได้ จนทำให้วันนี้ต้องมีการบังคับกัน เช่น ข้อบังคับทางธุรกิจต่าง ๆ ที่ออกมาเกี่ยวกับเรื่องทรัพยากร รวมไปถึงเรื่องความร่ำรวยที่คนทุกอย่างเอาจิตไปฝังไว้ตรงนั้น ทางแก้ที่ถูกวิธีคือต้องเปลี่ยนวิถีกันใหม่ แม้จะเป็นไปไม่ได้ก็ตาม”

 

นอกจากนี้ยังเสริมอีกว่า “เราใช้เสื้อผ้า เรากิน เราทิ้งขยะ ทุกอย่างล้วนเป็นการถลุงโลก ดังนั้น ผมของให้ใช้ความเห็นแก่ตัวนำทาง ไม่อย่างนั้นเราไปกันต่อไม่ได้ เราต้องลงมือทำเดี๋ยวนี้”
 

logoline