31 ตุลาคม 2565 นางสาวชมภารี ชมภูรัตน์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา ฉบับที่ 3 เรื่อง พายุ “นัลแก” เมื่อเวลา 16.00 น. วันนี้ (31 ต.ค. 65) พายุโซนร้อนกำลังแรง “นัลแก” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 17.8 องศาเหนือ ลองจิจูด 116.4 องศาตะวันออก ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 110 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนไปทางเหนือด้วยความเร็วประมาณ 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้มีแนวโน้มจะเคลื่อนเข้าใกล้ชายฝั่งมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีนในช่วงวันที่ 2 – 3 พ.ย. 65 นี้
ในขณะที่บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ในช่วงวันที่ 2 – 5 พ.ย. 65 ลักษณะเช่นนี้จะทำให้พายุอ่อนกำลังลงอย่างรวดเร็ว โดยพายุนี้ไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อประเทศไทย
จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือสายด่วนพยากรณ์อากาศ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ประกาศ ณ วันที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2565 เวลา 17.00 น. กรมอุตุนิยมวิทยาจะออกประกาศฉบับต่อไปใน วันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565 เวลา 05.00 น.
กรมอุตุนิยมวิทยายังคาดหมาย ลักษณะอากาศใน 7 วันข้างหน้า หรือตั้งแต่วันที่ 31 ตุลาคม – 6 พฤศจิกายน 2565 ว่า
คาดหมายอากาศทั่วไป
ในช่วงวันที่ 31 ต.ค. – 1 พ.ย. 65 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบน อุณหภูมิจะลดลง 1 – 2 องศาเซลเซียส โดยอุณหภูมิจะเริ่มลดลงในภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก อุณหภูมิจะลดลงในระยะถัดไป
ส่วนในช่วงวันที่ 2 – 6 พ.ย. 65 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนอีกระลอกหนึ่งจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ประเทศไทยตอนบนอุณหภูมิจะลดลงอีก 2 – 4 องศาเซลเซียสกับมีลมแรง สำหรับร่องมรสุมพาดผ่านบริเวณภาคใต้ตอนล่าง ทำ ให้ภาคใต้มีฝนตกต่อเนื่อง และมีฝนตกหนักบางแห่ง
อนึ่ง พายุโซนร้อนกำลังแรง “นัลแก” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะเคลื่อนตัวเข้าปกคลุมชายฝั่งของประเทศจีนตอนใต้ โดยพายุนี้ไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย
ข้อควรระวัง
ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากอากาศที่หนาวเย็นลงไว้ด้วย และประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตก สะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย ส่วนชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยควร เดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง
คาดหมายอากาศรายภาค วันที่ 31 ตุลาคม – 6 พฤศจิกายน 2565
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 31 ต.ค. – 1 พ.ย. 65 อากาศเย็นในตอนเช้า โดยอุณหภูมิจะลดลง 1 – 2 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 – 25 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 16 – 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 – 34 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-16 องศาเซลเซียส
ส่วนในช่วงวันที่ 2 – 6 พ.ย. 65 อากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้ากับมีลมแรง โดยอุณหภูมิจะลดลง 2 – 4 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 7-12 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 – 30 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 14 – 21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 – 33 องศาเซลเซียส
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 31 – 1 พ.ย. 65 อากาศเย็นในตอนเช้ากับมีลมแรง โดยอุณหภูมิจะลดลง 1 – 2 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 – 30 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 16 – 22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 – 33 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-16 องศาเซลเซียส
ส่วนในช่วงวันที่ 2 – 6 พ.ย. 65 อากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้ากับมีลมแรง โดยอุณหภูมิจะลดลง 2 – 4 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 – 30 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 14 – 20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 – 32 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-15 องศาเซลเซียส
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 31 ต.ค. – 1 พ.ย. 65 อากาศเย็นในตอนเช้า โดยอุณหภูมิจะลดลง 1 – 2 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 – 30 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 21 – 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 – 33 องศาเซลเซียส
ส่วนในช่วงวันที่ 2 – 6 พ.ย. 65 อากาศเย็นในตอนเช้ากับมีลมแรง โดยอุณหภูมิจะลดลง 2 – 4 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 – 30 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 19 – 22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 – 33 องศาเซลเซียส
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 31 ต.ค. – 1 พ.ย. 65 อากาศเย็นในตอนเช้ากับมีลมแรง โดยอุณหภูมิจะลดลง 1 – 2 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 – 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 21 – 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 – 34 องศาเซลเซียส
ส่วนในช่วงวันที่ 2 – 6 พ.ย. 65 อากาศเย็นในตอนเช้ากับมีลมแรง โดยอุณหภูมิจะลดลง 2 – 4 องศาเซลเซียสลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 – 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1 – 2 เมตรอุณหภูมิต่ำสุด 18 – 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 – 33 องศาเซลเซียส
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 – 60 ของพื้นที่ ตลอดช่วง และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากทางตอนล่างของภาค ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา : ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป : ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตรอุณหภูมิต่ำสุด 21 – 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28 – 34 องศาเซลเซียส
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 – 60 ของพื้นที่ ตลอดช่วง และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากทางตอนล่างของภาค ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 – 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1 – 2 เมตรอุณหภูมิต่ำสุด 23 – 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28 – 33 องศาเซลเซียส
กรุงเทพฯและปริมณฑล
ในช่วงวันที่ 31 ต.ค. – 1 พ.ย. 65 อากาศเย็นในตอนเช้า โดยอุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อย ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 – 25 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 22 – 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 – 33 องศาเซลเซียส
ส่วนในช่วงวันที่ 2 – 6 พ.ย. 65 อากาศเย็นในตอนเช้ากับมีลมแรง โดยอุณหภูมิจะลดลง 2 – 3 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 – 30 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 19 – 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 – 32 องศาเซลเซียส
เช็กสภาพอากาศประจำวัน >> คลิกที่นี่
เช็กสภาพอากาศทั่วไป >> คลิกตรงนี้