11 ตุลาคม 2565 เมื่อเวลา 15.39 น. สำนักพระราชวังอัญเชิญผ้าไตรพระราชทาน เพลิงพระราชทาน และดอกไม้จันทร์พระราชทาน มายังวัดราษฎร์สามัคคี เพื่อทำพิธีพระราชทานเพลิงศพ ผู้เสียชีวิตจากเหตุกราดยิงทั้ง 19 ราย ที่ตั้งบำเพ็ญกุศลอยู่ที่วัดราษฎร์สามัคคี ซึ่งมีตัวแทนครอบครัวของผู้เสียชีวิตตั้งแถวรอรับ
โดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีพระราชทานเพลิงศพ และถอดผ้าไตรผ้าราชทาน จำนวน 5 ไตร รวมถึงนำวางดอกไม้จันทร์พระราชทาน จากนั้นตามด้วยคณะรัฐมนตรี ทั้ง พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พลเอกชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และคณะ ได้ร่วมกันวางดอกไม้จันทร์ และตามด้วยครอบครัวของผู้เสียชีวิตวางดอกไม้จันทน์ และร่วมยืนไว้อาลัยผู้เสียชีวิตเป็นเวลา 1 นาที
ซึ่งพลเอกประยุทธ์ ได้ให้กำลังใจครอบครัวผู้เสียชีวิด และเดินพบปะชาวหนองบัวลำภูที่เดินทางมาร่วมงานในวันนี้ พร้อมทั้งให้กำลังใจชาวหนองบัวลำภู โดยช่วงหนึ่ง พลเอกประยุทธ์ ได้ยกมือไหวแสดงความเสียใจ และกล่าวกับชาวบ้าน ว่า ‘ต้องรักกันนะคนไทย’ จากนั้นเดินทางกลับทันที
ขณะเดียวกัน บริเวณโดยรอบพื้นที่วัดราษฎร์สามัคคี เต็มไปด้วยพี่น้องชาวหนองบัวลำภู และพื้นที่ใกล้เคียง ที่ตั้งใจเดินทางมาร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพ และร่วมงานฌาปณกิจร่างผู้เสียชีวิต เพื่อร่วมส่งคุณครูและน้องๆขึ้นสู่สวรรค์กันจนเต็มพื้นที่
จากนั้นเมื่อเวลา 17.30 น. เจ้าหน้าที่เริ่มเคลื่อนขบวนโลงบรรจุร่างของผู้เสียชีวิต มาที่เชิงตะกอนบริเวณลานเอนกประสงค์ เพื่อทำพิธีฌาปณกิจ โดยนำร่างครูสุภาพรเป็นลำดับแรก และตามมาด้วยร่างของเด็กๆ ตามลำดับอีก 18 ร่าง โดยมีญาติๆ เดินตามร่างของลูกหลานมายังเชิงตะกอน และถือรูปภาพมาวางไว้บนโลงศพ ก่อนจะร่ำไห้ออกมา เสียงร้องระงมภายในวัด
ซึ่งสามีของครูสุภาพร อยู่ข้างโลงศพของภรรยาและลูกน่อย น้องซีวิคไม่ห่าง พร้อมกับจัดกาของเล่นมาให้ลูกชายด้วย สามีของครูสุภาพร ร่ำไห้กอดโลงศพบอกลูกน้อยดูแลแม่ด้วย
ท่ามกลางประชาชนหลายพันคนที่เดินทางร่วมไว้อาลัยถึงแม้ได้รู้จักเป็นการส่วนตัว แต่วันนี้เดินทางมาจากทั่วสารทิศ
จากนั้นเมื่อเวลา18:20 น. ได้ทำพิธีสงฆ์ก่อนจะเผาจริง เจ้าหน้าที่ได้ให้ญาตินำเอา รูปภาพของผู้เสียชีวิตออกจากโลงศพเหลือไว้เพียงสิ่งของที่จะเผาไปด้วย
โดยเจ้าหน้าที่ได้นำเอาผ้าสแลนสีดำ มาล้อมบริเวณพิธี หรือว่าจุดที่วางเชิงตะกอน เพื่อไม่ให้ประชาชน เห็นภาพที่ไม่เหมาะสม ซึ่ง ทันทีที่เปลวเพลิงลุกขึ้นก็มีเสียงร่ำไห้ของญาติๆ ดังระงมขึ้น ท่ามกลางแนะชาชนหลายพันคนที่เข้าร่วมพิธีส่งกำลังใจให้ญาติเข้มแข็งเร็ววัน
หลังจากนั้น เมื่อเปลวเพลิงเริ่มลุกแรงขึ้น ได้ให้ญาติของผู้เสียชีวิต ออกมาด้านนอกผ้าสแลนสีดำ ซึ่งถึงเวลาผ่านไปกว่าครึ่งชั่วโมงก็ยังคงมีประชาชนขำนวนมาก ที่ยังยืนดูการเผาจริงทั้ง19 ร่างในวันนี้อย่างสลดใจและเห็นใจผู้เป็นพ่อแม่