ช็อก! เพจดังแฉ งบฯจัดซื้อ เครื่องปั่นไฟ – โทรศัพท์บ้าน ตึก สตง.
ช็อก! เพจดังแฉต่อเนื่อง เปิดงบประมาณในการจัดซื้อ เครื่องปั่นไฟ – โทรศัพท์บ้าน ตึก สตง. เห็นราคาถึงกับตกตะลึง
16 เมษายน 2568 จากเหตุแผ่นดินไหวใหญ่ในประเทศพม่า เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 ส่งผลให้หลายพื้นที่ในประเทศไทยโดยเฉพาะภาคเหนือและภาคกลาง รวมถึงกรุงเทพฯ รับรู้ได้ถึงแรงสั่นสะเทือน โดยพบว่าตึกสูงในกรุงเทพฯเสียหายหลายแห่ง โดยเฉพาะตึก สตง.ถล่ม ซึ่งเป็นตึกที่อยู่ระหว่างก่อสร้างย่านจตุจักร เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต บาดเจ็บ และสูญหายจำนวนมาก
ต่อมากระทรวงอุตสาหกรรม และกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ตรวจสอบพบความผิดปกติหลายอย่าง โดยดีเอสไอได้รับเป็นคดีพิเศษ แล้วนั้น
ขณะที่ เพจดังอย่างเพจเฟซบุ๊ก CSI LA เปิดเผยข้อมูลแบบแพลนในการก่อสร้างที่มีห้องขนาดใหญ่คล้ายโรงภาพยนตร์หรือโรงละครอยู่ด้วย
ล่าสุด เพจ CSI LA เปิดเผยถึง งบประมาณในการจัดซื้อวัสดุก่อสร้าง และอุปกรณ์สำนักงานอย่างต่อเนื่อง ของตึก สตง. โดยมีการตั้งข้อสังเกตว่ามีการใช้งบประมาณ ในการจัดซื้อในราคาผิดปกติหลายอย่าง อาทิ เครื่องปั่นไฟ และ โทรศัพท์บ้าน ที่ราคาสูงกว่าท้องตลาด ระบุว่า
“เจาะงบ! เครื่องปั่นไฟ 1600 kVA ในตึก สตง. ราคาในแบบแสดงรายการค่าวัสดุ:เครื่องละ 7.25 ล้านบาท × 2 = 14.5 ล้านบาท (แพงเกินราคาตลาดจริง ที่อยู่แค่ 5.3 – 6 ล้านบาท) คิดแพงเกินจริงถึง 1.26 ล้านบาทต่อตัว แล้วยังจะคิดค่าติดตั้งอีก 200,000 บาท!?
ยี่ห้อเดียวกัน ขนาดเดียวกัน แต่ภาครัฐจ่ายแพงกว่าตลาดไปหลายล้าน นี่มันแค่ “เครื่องปั่น” เดียวนะ ยังไม่นับอุปกรณ์อื่นที่บวกแบบเวอร์ๆ อีกเพียบ หน่วยงานที่มีหน้าที่ตรวจสอบความคุ้มค่างบประมาณ… กลับใช้เงินประชาชนเกินจริงเสียเอง”
นอกจากนี้ เพจ CSI LA ยังโพสต์ด้วยว่า “ทำไมปี 2563 ยังต้องซื้อ “โทรศัพท์บ้านแบบ Analog” 2,000 เครื่อง? เครื่องละ 6,800 บาท รวม = 13.6 ล้านบาท ราคาจริง 1,659 บาท ส่วนต่าง 5,132 บาท x 2,000 =10.2 ล้านบาท
ยังไม่พอ… มีระบบควบคุมโทรศัพท์สำหรับ Staff อีก 1 ชุด ราคา 11.8 ล้านบาท #แฉงบสตง #ภาษีxไม่ใช่ของเล่น รวมเบ็ดเสร็จ = 25.4 ล้านบาท แค่ “โทรศัพท์บ้าน”
ทั้งที่… ปี 2023-2024 ทุกคนมีมือถืออยู่แล้ว! แอป LINE, Zoom, Teams , WhatsApp ใช้ได้หมด มี Wi-Fi เต็มอาคาร แล้วจะซื้อโทรศัพท์บ้านยุค 1990 ไว้xxxทำไม?
ถามจริง? สตง.ตรวจเงิน แต่ตัวเองจัดซื้อแบบนี้? อ้างว่าเป็น “หน่วยงานตรวจสอบการใช้เงินรัฐ” แล้วนี่มันคือตัวอย่างที่ดีตรงไหน?
AI อย่าง ChatGPT ยังตรวจสอบได้ดีกว่า!
• รู้ราคากลาง
• เช็คของเทียบตลาดได้
• ไม่มีสายสัมพันธ์ ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน
