svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เจาะประเด็นร้อน

เช็กกระแส"ลุงตู่สู้ๆ" แต่จะกู้ "รทสช."ไหวไหม ผ่านเวทีโคราช "เลือกตั้ง66"

26 กุมภาพันธ์ 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ส่องเวทีปราศรัยโคราช จากกระแสที่จะเป็นลมใต้ปีกให้"ลุงตู่"มีส.ส.อีสานเมื่อเทียบกับพรรคคู่แข่งหลัก หรือคู่แข่งในระนาบเดียวกัน "ลุงตู่"และคณะ อาจจะยิ่งแข่งยิ่งแพ้ใน"ศึกเลือกตั้ง66" ติดตามเจาะประเด็น โดย "เมฆาในวายุ"

"โคราช" คือ เวทีที่สามของ"พรรครวมไทยสร้างชาติ"ในการหาเสียงครั้งนี้ หากให้ประเมินการระดมมวลชนที่พร้อมหนุน"ลุงตู่"คัมแบ็กตึกไทยคู่ฟ้าวาระที่สามนั้น ดินแดนที่ราบสูงที่มีส.ส.132 คนให้ประชัน สภาวะนี้กับความหวังของ"รทสช."น่าจะเหนื่อยหลายขั้น เพราะมองแล้วกระแสที่จะเป็นลมใต้ปีกให้ "ลุงตู่" มีส.ส.อีสานเมื่อเทียบกับพรรคคู่แข่งหลัก หรือคู่แข่งในระนาบเดียวกัน "ลุงตู่"และคณะอาจจะยิ่งแข่งยิ่งแพ้ก็เป็นได้

 

25 ก.พ.66  พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติขึ้นเวทีปราศรัยลานย่าโม นครราชสีมา

 

การเปิดเวที "จังหวัดนครราชสีมา" เพื่อโปรโมท "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" และ"พรรครวมไทยสร้างชาติ"ต่อชาวอีสานเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา หากเทียบกับการหาเสียงของ"รทสช."ในเวทีจ.ชุมพรหรือเวทีศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์   พบว่า "ลุงตู่"ปราศรัยด้วยลีลานักการเมืองที่ดีขึ้น แต่บรรดาขุนพล"รทสช."ที่ร่วมหาเสียงในครั้งนี้นั้น บางคนสอบผ่านแบบคาบเส้น บางคนสอบตกแบบไม่มีราคาเปรียบเทียบ และสองเวทีแรกนั้นคล้ายว่ามีการบริหารจัดการที่ดีกว่าเวทีล่าสุด

หรือหากให้เทียบราคาการเปิดเวทีหาเสียงของพรรคคู่แข่งในเวลาเดียวกัน อย่าง "พรรคภูมิใจไทย "ลงปักษ์ใต้"พรรคเพื่อไทย" ไปจ.เชียงรายและเชียงใหม่ "พรรคประชาธิปัตย์"ไปจ.สงขลา "พรรคก้าวไกล" ไปจ.สมุทรสาคร

 

เวทีปราศรัย พรรคประชาธิปัตย์  ที่จังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2566

 

"เวทีโคราช" ซึ่งแกนนำพรรคเช่น "เสกสกล อัตถาวงศ์"  ระบุว่า มวลชนหลายหมื่นคนจะมาให้กำลังใจพลเอกประยุทธ์นั้น หากเทียบฟอร์มโดยรวมนั้น"รทสช."อาจแพ้คะแนนกับเวทีพรรคคู่แข่งในยกนี้และอาจกระทบกระเทือนเวทีหาเสียงของรทสช.ในภาคอีสานยามหน้าด้วยหาก รทสช.ยังไม่ปรับกลยุทธ์

สภาวะแบบนี้น่าคิดว่าภาคอีสานที่มีส.ส.มากที่สุดคือ 132 คนนั้น พรรคของ"ลุงตู่"จะปักธงได้กี่พื้นที่ แม้จะมีกองหนุนคือคนเสื้อแดงบางปีก คนการเมืองหลากพรรคมาร่วมงานกับพรรคของ"ลุงตู่"ก็ตาม

 

แพทองธาร  ชินวัตร  หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ลงพื้นที่ปราศรัยจ.เชียงราย และเชียงใหม่

 

แต่หากเทียบกับ "แพทองธาร ชินวัตร" หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยและสมาชิกพรรคเพื่อไทย, พรรคก้าวไกลที่นำโดย"พิธา ลิ้มเจริญรัตน์" , พรรคภูมิใจไทยของ"อนุทิน ชาญวีรกูล" ที่น่าจะเป็นคู่ต่อกรหลักกับพรรคของ"ลุงตู่"ในแดนที่ราบสูงนั้น "ลุงตู่"เหนื่อยหนักแน่ที่จะเอาชนะ 


หรือแม้แต่หากจะเทียบกับ"พรรคพลังประชารัฐ"ของ"พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ"  , พรรคประชาธิปัตย์ของ"จุรินทร์ ลักษณะวิศิษฏ์" ก็ยังไม่รู้ว่าพรรคของ"ลุงตู่"จะแพ้หรือชนะสองพรรคนี้ในเวทีเดียวกันนี้....

 

"ลุงป้อม700"  พล.อ.ประวิตร  วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ

 

แต่สิ่งหนึ่งที่น่ามองลึกๆ คือ การแถลงผลงาน โชว์วิสัยทัศน์ รวมถึงนโยบายพรรคที่จะขอคะแนนจากชาวอีสานและคนโคราช  พบว่า ลุงตู่รวบผลงานตั้งแต่ยุคคสช. รัฐบาลปัจจุบันของแต่ละพรรคมาไว้ว่า "ลุงตู่"  คือ หัวหน้ารัฐบาลทั้งสองชุดและเป็นคนไฟเขียวให้โครงการเหล่านั้นเอง และยังวาดฝันโปรเจกต์ต่างๆที่จะผลักดันแดนที่ราบสูงให้พัฒนาขึ้นในทุกๆด้านด้วยการลงแต้มให้รทสช.แบบนี้ไม่รู้ว่าพรรคอื่นๆที่ร่วมเรือเหล็กในคราวนี้จะทำอย่างไรและจะโต้กลับว่านโยบายนั้นๆเป็นของพรรคผม?  

 

เพราะแม้แต่การบลัฟกลับพี่ใหญ่ค่าย3ป.ในเรื่องบัตรคนจน700บาทนั้น"ลุงตู่"เปรยว่าจะขึ้นเป็น1,000 บาท ให้เลยเพราะ"ลุงตู่"รู้ว่างบประมาณใดจะเสริมให้ได้

 

ความโดดเด่นของ"ลุงตู่"เรื่องซื่อสัตย์ ไม่ทุจริต อาจเป็นจุดขายหนึ่งแต่หากเจาะในด้านนโยบายพรรคที่จะขอคะแนนสังคมนั้น เมื่อ"ลุงตู่"รวบการบ้านทุกข้อของทุกพรรคแล้วแจ้งว่าเป็นคนอนุมัติด้วยตัวเองในฐานะ"นายกรัฐมนตรี" และจะต่อยอดขึ้นไป แปลว่า นโยบายที่เป็นตัวของตัวเองในนามรทสช.นั้น ยังมิปรากฏเด่นชัด

 

กุนซือของ"ลุงตู่"และทีมยุทธศาสตร์ของรทสช.ควรปรับกลวิธีเสนอนโยบายพรรคที่เป็นตัวของตัวเอง-เป็นรูปธรรมให้เด่นชัดขึ้น การเหมาเข่งผลงานรัฐบาลว่าเป็นการอนุมัติโดย"ลุงตู่"ไปเรื่อยๆเยี่ยงนี้อาจมิใช่ผลดีในวันหน้าเพราะคู่แข่งจะเอาคืนก็เป็นได้ในเรื่องการแอบอ้างสิทธิ

 

ดังนั้น การบ้านข้อนี้ทีมเสนาธิการของลุงตู่และรทสช.ควรเร่งดำเนินการแก้ไขโดยพลัน
 

logoline