
20 ธันวาคม 2568 พล.ท.วีระยุทธ รักศิลป์ แม่ทัพภาคที่ 2 หรือแม่ทัพเติ่ง เปิดเผยว่า กองทัพภาคที่ 2 ภายใต้การบัญชาการรบของ พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี สามารถเข้าควบคุมและสถาปนา “เนิน 350” พื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญบริเวณปราสาทตาควาย อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ได้เป็นผลสำเร็จ หลังการปะทะอย่างรุนแรงกับกองกำลังฝ่ายกัมพูชา
แม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันว่า การปฏิบัติการดังกล่าวดำเนินไปด้วยความรอบคอบและรัดกุม เนื่องจากฝ่ายกัมพูชาได้ละเมิด อนุสัญญาออตตาวา โดยลอบวางทุ่นระเบิดไว้ทั่วพื้นที่ ทำให้ทุกขั้นตอนต้องใช้ความระมัดระวังสูงสุด
สำหรับปฏิบัติการครั้งนี้ได้นำมาซึ่งความสูญเสียอันยิ่งใหญ่ เมื่อ จ่าสิบเอก สำเริง คลังประโคน ตำแหน่งผู้บังคับหมู่ปืนเล็ก และ พลทหาร ภานุพัฒน์ เสาร์สา ตำแหน่งพลยิงปืนกล โดยทั้ง 2 นาย สังกัดร้อย.อวบ.ร.23 พัน.3 ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความกล้าหาญ เสียสละชีวิตของตนเองเพื่อเปิดทางให้กำลังพลส่วนใหญ่ปลอดภัย
เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2568 เวลา 10.10 น. ระหว่างที่หน่วยได้รับภารกิจเข้าตีต่อที่หมายเนิน 350 ฝ่ายกัมพูชาได้ใช้อาวุธยิงสนับสนุน และอาวุธเล็งตรงโจมตีอย่างต่อเนื่อง ขณะนั้น จ.ส.อ.สำเริง และ พลทหาร ภานุพัฒน์ ได้ตัดสินใจยืนหยัดเป็น “ชุดยิงคุ้มครอง” ปักหลักต่อสู้กับข้าศึกจนวาระสุดท้าย เพื่อให้เพื่อนร่วมรบปลอดภัย
ภายหลังการตรวจสอบพื้นที่พบว่า ทั้ง 2 นาย ได้เสียชีวิตในสนามรบอย่างสมศักดิ์ศรีของทหารกล้า ปัจจุบันอยู่ระหว่างการลำเลียงร่างผู้เสียชีวิตลงจากพื้นที่การรบ โดยใช้มาตรการระมัดระวังสูงสุด เนื่องจากยังมีความเสี่ยงจากทุ่นระเบิดและระเบิดแสวงเครื่องในบริเวณดังกล่าว
แม่ทัพภาคที่ 2 ได้กล่าวยกย่องว่า การเสียสละของทั้งสองนายเป็นแบบอย่างแห่งความกล้าหาญ สมกับคำว่าทหารอาชีพ ที่ยืนหยัดเพื่อแผ่นดินไทยจนลมหายใจสุดท้าย ชัยชนะในครั้งนี้ ไม่เพียงเป็นการยืนยันถึงความมั่นคงของอธิปไตยไทยในพื้นที่ชายแดนเท่านั้น หากแต่ยังเป็นสัญลักษณ์แห่งเกียรติและศักดิ์ศรีของกองทัพไทย ที่ยังคงมีลูกหลานพร้อมยืนหยัดปกป้องผืนแผ่นดินไทยด้วยชีวิต ชื่อของพวกเขา จ่าสิบเอก สำเริง คลังประโคน และ พลทหาร ภานุพัฒน์ เสาร์สา จะจารึกไว้ในประวัติศาสตร์กองทัพไทย และอยู่คู่แผ่นดินไทยตลอดไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการสู้รบพื้นที่เนิน 350 และปราสาทตาควาย นั้น แม่ทัพเติ่ง ได้ลงพื้นที่บัญชาการรบด้วยตัวเอง