"รายการคมชัดลึก" โดย "วราวิทย์ ฉิมมณี" ได้สัมภาษณ์ "พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ" รองเลขาธิการ ปปง. "พล.ต.ต.อภิชาติ สุริบุญญา" รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว และ "หลุ่ย แซ่กั๊ว" นายกบริหารสมาคม ไทย-ไชนีส นิวมีเดีย
ตำรวจไทยซื้อได้? มีตังจ่ายได้รถนำขบวน
"วราวิทย์" จากที่มีการเผยแพร่คลิปนักท่องเที่ยวชาวจีนกล่าวถึงตำรวจไทยให้บริการประทับใจ ในฐานะตำรวจคนหนึ่ง รู้สึกอย่างไร
"พล.ต.ต.เอกรักษ์" ผมว่ามันแย่นะ คือจริงๆแล้วในหลักปฏิบัติตามระเบียบและกฎหมาย รถดังกล่าวเขาเรียกว่ารถฉุกเฉินในประเทศไทยจะมีผู้ดำรงตำแหน่งสำคัญที่เป็นผู้บริหารของประเทศ ระเบียบกำหนดว่ามีรถนำขบวนหรือให้รถฉุกเฉินนำขบวนได้ อย่างเช่น คณะรัฐมนตรี แต่ว่าเอกชนหากว่ามีภารกิจและความจำเป็นสามารถขอใช้ได้ เราจะเห็นอย่างเวลารถนักเรียนเวลาได้ทัศนศึกษาที่เป็นรถบัสหลายๆคันเกรงว่าจะเกิดอันตรายระหว่างเดินทาง ก็ทำหนังสือไปขอผู้บังคับการตำรวจทางหลวงขอรถนำขบวนเพื่อให้เกิดความปลอดภัย ถ้ามีเหตุผลอนุมัติได้
"แต่กรณีนักท่องเที่ยวมาเป็นรายบุคคลแล้วประสงค์จะให้มีรถนำขบวนตรรกะมันไม่ได้ก็เลยไม่สามารถอนุมัติได้ เพียงแต่ว่าอาจจะมีข้าราชการบางคนไปคิดว่าตรงนี้อำนวยความสะดวกให้เขาแล้วได้รับเบี้ยเลี้ยงหรือค่าตอบแทนบางส่วน ก็เลยทำกันขึ้นมา ต้องเรียนก่อนว่าในลักษณะเช่นนี้เป็นเรื่องของบุคคล หน่วยงานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผมเชื่อว่าเขาคงไม่รู้เห็น แล้วตัวผู้บังคับการหรือหัวหน้าพนักงานจราจรน่าจะไม่ทราบเรื่องนี้"
"วราวิทย์" ตั้งแต่วินาทีแรกที่นักท่องเที่ยวคนนี้ออกจากประตูเครื่องบิน แล้วก็มี"ร.ต.อ.สมพล ภิญโญสโมสร" ตำแหน่ง รองสารวัตร กองกำกับการ 3 ซึ่งเป็นตำรวจที่รับผิดชอบสนามบินสุวรรณภูมิอยู่แล้ว ไปยืนถือป้ายต้อนรับนักท่องเที่ยวผู้หญิงคนนี้ อำนวยความสะดวกเต็มที่ แล้วน่าเชื่อว่าจังหวะที่ออกจากด่านตรวจคนเข้าเมืองคงจะได้รับอำนวยความสะดวกจากตม.ด้วย ไปส่งถึงหน้าประตูสนามบิน ถ้าบทบาทของตำรวจท่องเที่ยวคนนี้ มองว่าอย่างไร
"พล.ต.ต.เอกรักษ์" คือจริงๆ แล้ว ตำรวจท่องเที่ยวเจตนารมณ์คือให้บริการนักท่องเที่ยว พอถูๆไถๆ ต้องเรียนตามตรงว่านักท่องเที่ยวทั่วไปเราให้บริการทั้งหมดช่วยเหลือนักท่องเที่ยว เพียงแต่ว่าอันนี้อาจจะมีการประสานงานเฉพาะเจาะจงว่ามาดูแลคนนี้ ก็ไม่ค่อยจะเหมาะสมเท่าไหร่แต่ถามว่าผิดร้ายแรงหรือไม่ ผมมองว่าอยู่ในภารกิจของเขา แต่ถ้าทำเพื่อผลประโยชน์คงต้องมาพิจารณากันอีกครั้ง ผมเชื่อว่าหน่วยงานต้นสังกัดเขาคงจะพิจารณาดำเนินการเหมือนกัน
"วราวิทย์" พอมาส่งด้านหน้าสนามบินมีตำรวจ 2 นาย ส.ต.อ.ธนกร นุกูลธนกิจ และ ส.ต.อ.ธนวัฒน์ สิมะขจรบุญ สังกัด บก.จร.มีรถยนต์และมอเตอร์ไซต์ เอาเรื่องมอเตอร์ไซต์จากการตรวจสอบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ท่านโฆษกบอกไว้ว่า เป็นรถส่วนตัว แต่ตอนที่เขานำขบวนแต่งกายเป็นตำรวจ รถที่เอามาใช้ หาซื้อได้ง่ายขนาดนั้นเลยหรือครับ
"พล.ต.ต.เอกรักษ์" รถแบบนี้เป็นโมเดลที่ผลิตในเชิงพาณิชย์ และหน่วยงานของทางราชการไปซื้อมาทำเป็นรถนำขบวนทุกประเทศ ทีนี้ก็ไม่จำกัดสิทธิ์เอกชนจะไปซื้อมาใช้ แต่ว่ารถคันนี้จุดผิดปกติอยู่ที่สัญญาณไฟฉุกเฉิน เสียงไซเรน นั้นคือเจตนาเขาต้องการตกแต่งให้เหมือนกับรถตำรวจ เหมือนกับรถฉุกเฉินทั่วไปถามว่าทำได้มั้ย ก็มีเอกชนรับดำเนินการอยู่แล้วของอุปกรณ์พวกนี้มีขายทั่วไปไม่ได้ผิดกฎหมาย ถ้ามองจากภาพเขาตั้งใจให้คนทั่วไปเข้าใจว่าเป็นรถตำรวจ
"วราวิทย์" ถ้าความผิดในแง่ของการติดตั้งอุปกรณ์กับการใช้งานไปขัดกฎหมายข้อไหนบ้าง
"พล.ต.ต.เอกรักษ์" มีพ.ร.บ.จราจรทางบกมาตรา 13 กำหนดว่ารถฉุกเฉินต้องได้รับอนุญาต คือจริงๆ จะมีสองส่วน ส่วนที่หนึ่งคือรถหน่วยงานของรัฐ ของกรมการปกครอง หน่วยงานดับเพลิง กรมบรรเทาสาธารณะภัยแล้วก็ตำรวจ ทหาร
พวกนี้จะได้รับยกเว้นโดยกฎหมายแต่ว่าป้ายจะเป็นป้ายของทางราชการ เพราะฉะนั้นเราจะเห็นว่าถ้า เป็นรถแบบนี้ของตำรวจจะเป็นตราโล่ ป้ายทะเบียนจะไม่ใช่ปกติทั่วไป อีกส่วนหนึ่งคือเอกชน อย่างเช่นรถพยาบาลของโรงพยาบาลเอกชน หรือรถกู้ภัย รถมูลนิธิ ถ้ามีความจำเป็นในภารกิจที่เกี่ยวข้อง สามารถขออนุญาตต่อหัวหน้าเจ้าพนักงานจราจรได้ เพราะฉะนั้นเราจะเห็นข้างๆรถฉุกเฉินได้รับอนุญาตแล้ว มีเลขที่ของการอนุญาต คราวนี้พอเป็นแบบนี้จะผิดใน พ.ร.บ.จราจรคือรถฉุกเฉินไม่ได้รับอนุญาต ติดตั้งไฟก็ผิดใช้สัญญาณไซเรนก็ผิด
"วราวิทย์" เป็นไปได้หรือไม่ เขาซื้อมาเอามารับจ๊อบแบบนี้
"พล.ต.ต.เอกรักษ์" เป็นไปได้
"วราวิทย์" ตำรวจที่เป็นตำรวจท่องเที่ยว ร.ต.อ.สมพล ซึ่งไปรับนักท่องเที่ยวที่หน้าเกต ตามอำนาจหน้าที่เขาสามารถไปอยู่บริเวณนั้นได้ถูกต้องมั้ยครับ
"พล.ต.ต.อภิชาติ" อยู่ได้ครับ เป็นพื้นที่ในการปฏิบัติหน้าที่อยู่แล้วครับ
"วราวิทย์" กรณีนี้จะดูอย่างไรผิดหรือไม่ผิด ความเหมาะสมอยู่ตรงไหนที่ไปอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวผู้หญิงคนนี้
"พล.ต.ต.อภิชาติ " โดยปกติการอำนวยความสะดวกกับนักท่องเที่ยวเป็นภารกิจหน้าที่ของตำรวจท่องเที่ยวอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าการอำนวยความสะดวก 1.จะต้องมีคำสั่งผู้บังคับบัญชาโดยเฉพาะ และการอำนวยความสะดวกถ้าไม่มีคำสั่งผู้บังคับบัญชาจะต้องเป็นการอำนวยความสะดวกในภาพรวมของนักท่องเที่ยวโดยที่ไม่เฉพาะเจาะจงไปดำเนินการให้ใครคนใดคนหนึ่งเป็นกรณีพิเศษ ในกรณีคลิปที่เกิดขึ้น มีการตั้งคณะทำงานตรวจสอบข่อเท็จจริงว่า 1.ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงให้กระจ่างชัดว่าทำกันเป็นขบวนการหรือป่าว 2.การกระทำเช่นนี้เป็นการเอาผลประโยชน์ใช้อำนาจหน้าที่เป็นการเข้าส่วนตัวหรือป่าว และ 3.ทำกันครั้งเดียวเฉพาะครั้งนี้หรือไม่ หรือจริงๆแอบทำกันมาตั้งนานแล้วมีหน่วยงานอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ อันนี้ที่เป็นประเด็นที่เราได้ตั้งคระกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วครับ เชื่อว่าไม่เกินอาทิตย์นี้จะได้ความกระจ่างชัดแล้วครับ
"วราวิทย์" ถามว่า เชื่อว่าน่าจะเป็นขบวนการ หรือเป็นทีม เป็นธุรกิจหนึ่งในสนามบินสุวรรณภูมิ
"พล.ต.ต.เอกรักษ์" ตอบว่า น่าจะเป็นไปได้ ที่สังคมไทย มีการอำนวยความสะดวกเพื่อความเป็นปลอดภัยของผู้บังคับบัญชาระดับสูง แต่อยู่ภายใต้กฎหมาย แต่หากข้ามเขตของกฎหมาย หรือ หลักความถูกต้อง เหมาะสมไม่ควรทำ
วราวิทย์ ถามว่า มีบริหารพิเศษ รถกอล์ฟ
"พล.ต.ต.เอกรักษ์" ยอมรับว่าสนามบินสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานขนาดใหญ่ และการมีรถกอล์ฟบริการเพื่อผู้สูงวัย หรือผู้ป่วย หรือผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ และมีความเร่งด่วนในการช่วยเหลือ ซึ่งบางครั้งหากมีกรณีพิเศษเพื่อการดูแล แต่ไม่ควรเป็นเรื่องการให้บริการพิเศษ และเสียค่าบริการ แต่เชื่อว่าน่าจะมีพฤติกรรมการทำแบบนั้นอาจมีบ้าง แต่เราไม่รู้ว่ามีผลประโยชน์หรือการให้บริการพิเศษ เพราะธุรกิจนี้ไม่มีใบเสร็จ แต่เชื่อว่าน่าจะมีการทำกันเป็นกลุ่ม วางแผนการทำงานร่วมกันเพราะต่างคนต่างรู้หน้าที่ในการส่งมอบงาน และน่าจะทำกันมาหลายครั้ง เพราะเชี่ยวชาญและคุ้นเคยกับการทำหน้าที่ เชื่อว่าเรื่องนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติน่าจะต้องมีคำตอบให้ประชาชน
"วราวิทย์" ถามว่า หมายความว่ามีมานานแล้วหรือ
"พล.ต.ต.เอกรักษ์" ยอมรับว่ามีมานานแล้ว แต่อาจจะเป็นการส่วนตัว หรือนำขบวนรถทัวร์ รถบัส เพื่ออำนวจความสะดวก ซึ่งไม่มีค่าใช้จ่าย ผมพูดจากใจบางทีก็เห็นใจตำรวจชั้นผู้น้อย ที่เงินเดือนน้อยก็เข้าใจไปว่ารับงานนอกเวลาทำงาน ไม่ทำให้ประเทศชาติเสื่อมสมอง
"วราวิทย์"ตั้งปมสงสัยว่า ชาวจีน เขาทราบได้อย่างไรบริการนี้และคิดเห็นอย่างไร
"หลุ่ย แซ่กั๊ว" หรือ จีจี้ ตอบว่า มีออกมา สองแง่ ในโซเชียลของคนจีน แง่ที่ดีบอกว่าเป็นเรื่องที่ดี หรือเป็นการบริการของภาครัฐ แต่มีเสียงวิจารณ์มาว่า มาไทย "มีเงินซื้อได้ทุกอย่าง " แต่ก็มีแง่ลบติดตามว่า ซึ่งปกติแล้วจะมีรถตำรวจนำขบวน หรือ ตำรวจ แต่หากมีบัตรวีซ่า หรือ มีวีซ่าแบบพิเศษ สามารถมาใช้บริการได้ หากเป็นระดับ อีลิทวีซ่า
กรณีนี้ น่าจะเป็นเรื่องที่ผิด โดยจะมีไกด์เถื่อนหรือเอเย่นส่วนตัว ที่เป็นทีมทำงาน เรื่องนี้ควรเป็นอุทาหรณ์ สำหรับประเทศไทยและรัฐบาลไทย
ชมคลิป >>> ตำรวจไทยซื้อได้จริงหรือ