17 มิถุนายน 2568 หน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ และชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 12 (ฉก.อรัญประเทศ) ระดมกำลังทหารเพิ่มความเข้มงวดตลอดแนวชายแดน ไทย–กัมพูชา ดำเนินการลาดตระเวนอย่างต่อเนื่องทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ
พร้อมใช้เทคโนโลยีตรวจการณ์ทางยุทธวิธีสนับสนุน เพื่อป้องกันการลักลอบข้ามแดนผิดกฎหมาย หลังจากกองกำลังบูรพาออกคำสั่งควบคุมขั้นสูงสุด ห้ามบุคคลสัญชาติไทยที่เป็นพนักงานในบ่อนกาสิโนและสถานบันเทิงฝั่งปอยเปตเดินทางออกนอกราชอาณาจักร มีผลตั้งแต่ 17 มิถุนายน 2568 เป็นต้นไป
ตามประกาศของ กองกำลังบูรพา (กกล.บูรพา) ที่ได้ยกระดับมาตรการควบคุมพื้นที่ชายแดนจังหวัดสระแก้วอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะในพื้นที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว และจุดผ่อนปรนอื่นๆ ที่เชื่อมต่อกับเมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชา
พร้อมมีคำสั่งชัดเจนให้ห้ามบุคคลสัญชาติไทยที่มีสถานะเป็น พนักงานบ่อนคาสิโน สถานบันเทิง หรือธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการพนันในฝั่งกัมพูชา เดินทางออกนอกราชอาณาจักรผ่านช่องทางทุกจุดในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลัง ตั้งแต่วันที่ 17 มิถุนายน 2568 เป็นต้นไป
เพื่อรองรับนโยบายดังกล่าว หน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ และ ชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 12 ได้บูรณาการกำลังร่วมกับฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ จัดชุดลาดตระเวนครอบคลุมทุกมิติการปฏิบัติ ได้แก่
ลาดตระเวนทางพื้นดิน: ใช้กำลังพลเดินเท้าตรวจตราตลอดแนวชายแดนไทย–กัมพูชา จุดที่มีความเสี่ยงต่อการลักลอบผ่านแดน ทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน
ลาดตระเวนทางน้ำ: ส่งชุดปฏิบัติการเข้าตรวจสอบพื้นที่คลองชายแดนสำคัญ ได้แก่ คลองลึก คลองพรหมโหด คลองน้ำใส ซึ่งเป็นเส้นทางน้ำที่อาจถูกใช้ในการลักลอบเข้า-ออกโดยผิดกฎหมาย
ลาดตระเวนทางอากาศ: ใช้ อากาศยานไร้คนขับ (โดรน) ทำการบินสำรวจในพื้นที่เป้าหมาย ตรวจสอบจุดลับตาและพื้นที่ทุรกันดาร เพื่อลดช่องว่างการลักลอบข้ามแดน การลาดตระเวนทุกรูปแบบนี้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง
ภายใต้ความร่วมมือของหลายหน่วยงาน รวมถึงการข่าว ความมั่นคง และหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ ทั้งนี้ เพื่อลดความเสี่ยงด้านความมั่นคงและป้องกันการกระทำผิดกฎหมายทุกรูปแบบ โดยเฉพาะการลักลอบเดินทางออกนอกราชอาณาจักรของกลุ่มบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจผิดกฎหมาย
ทั้งนี้ พลตรี คมกฤช รัตนฉายา ผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา ได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยในพื้นที่ชายแดนจังหวัดสระแก้วปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มงวด จริงจัง และรัดกุมสูงสุด พร้อมกำชับให้ทุกภาคส่วนประสานการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่สถานการณ์ด้านความมั่นคงมีความเปลี่ยนแปลงและอาจเกิดความพยายามลักลอบฝ่าฝืนคำสั่ง
"มาตรการเหล่านี้มีเป้าหมายเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา ลดปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ และสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในพื้นที่ชายแดนได้ดำรงชีวิตอย่างปลอดภัยภายใต้การคุ้มครองของกองกำลังฝ่ายความมั่นคงไทย"
ดูคลิป