22 เมษายน 2568 ที่ อบจ.อุดรธานี นายภานุมาศ จิตรวศินกุล หรือ "เฮียเปี๊ยก" เจ้าของเพจ “เฮียเปี๊ยกช่วยด้วย” ได้นำเอกสารหลักฐาน ประกอบด้วยภาพถ่ายซึ่งบันทึกภาพหน้าจอมาจากเฟซบุ๊ก ของ สมาชิกสภา อบจ.อุดรธานี นายสัญญา (สงวนนามสกุล) เพื่อขอให้ตรวจสอบพฤติกรรม และการประพฤติตนที่ไม่เหมาะสม โดยมีนายศราวุธ เพชรพนมพร นายก.อบจ.อุดรธานี นายสมัคร บุญปก รองนายก อบจ. นายนายสมเกียรติ สุขธนะ รองนายก อบจ. นายนัฐพล เรืองเศรษฐี ประธานสภา อบจ. นายชัชวาลย์ ลือคำหาญ ที่ปรึกษานายก อบจ. นายภาคภูมิ บุพมาศ สมาชิกสภา อบจ. ร่วมกันรับเรื่องไว้พิจารณา
ทั้งนี้ ระหว่างรับเรื่องร้องเรียน ได้มีการพูดคุยถึงพฤติกรรมของ สจ.คนนี้ ว่ามีพฤติกรรมไม่เหมาะสม มีการเข้าไปถ่ายรูปในห้องผ่าตัดของ รพ.แห่งหนึ่งในจ.อุดรธานี แม้ว่าหมอพยาบาลจะขอร้องไม่ให้ถ่ายภาพ แต่ก็กลับถูก สจ.คนนี้ตอกกลับ "รู้ไหมผมเป็นใคร ต่อไปพรรคฯ จะส่งผมลงสมัคร สส.แล้ว" นอกจากนี้ยังมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมอีกหลายอย่าง ที่ทางกู้ชีพกู้ภัยมองว่า ทำเกินหน้าที่ และเกินขอบเขต เคยมีหนังสือแจ้งปัญหาไปยัง นายแพทย์สาธารณสุข จ.อุดรธานี แจ้งถึงปัญหาของบุคคลที่เข้าไปบนรถกู้ชีพ และมีพฤติกรรมขัดขวางการปฏิบัติงาน ทั้งๆที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง นอกจากนี้ ยังมีคลิปวีดีโอที่กู้ภัยพูดถึง สจ.ท่านนี้เข้าไปก้าวก่ายการทำงาน ไลฟ์สดและถ่ายรูป ทั้ง ๆ ที่ทางกู้ภัยขอร้องไม่ให้ถ่าย แต่มีการข่มขู่อีก
นายภาณุมาศ กล่าวว่า ที่มายื่นหนังสือวันนี้ เพื่อให้ผู้บริหาร อบจ.ตรวจสอบ สมาชิกสภา อบจ.ท่านหนึ่ง เนื่องจากมีข้อมูลมาว่า สจ.คนนี้กระทำพฤติกรรมไม่เหมาะสมในโรงพยาบาลอุดรธานี โดยมีใช้กิริยาวาจาไม่เหมาะสม และประพฤติตนวุ่นวาย ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ มีการละเมิดสิทธิ์ โดยถ่ายภาพภายในห้องผ่าตัด ซึ่งผิดระเบียบของโรงพยาบาล
อีกทั้ง ยังมีพฤติกรรมสวมชุดข้าราชการ ปฏิบัติหน้าที่ซึ่งไม่ใช่หน้าที่ของตัวเอง เช่น สั่งการเจ้าหน้าที่ในรถกู้ชีพฉุกเฉิน แล้วไปขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่แพทย์ฉุกเฉินจนมีหนังสือร้องเรียนจากเทศบาลตำบลหนึ่งมา และยังมีการครอบครองและใช้รถฉุกเฉิน ซึ่งยังไม่รู้ที่มาที่ไปว่าจดทะเบียนถูกต้อง ขออนุญาตถูกต้องหรือไม่ เรื่องนี้อยากให้ทางผู้บริหาร อบจ.อุดรธานี ทำการตรวจสอบพฤติกรรมของสมาชิกสภา อบจ.คนนี้ว่า ผิดระเบียบหรือไม่อย่างไร
ด้านนายศราวุธ เพชรพนมพร นายก.อบจ.อุดรธานี กล่าวว่า เรื่องนี้ทาง อบจ.ขอรับเรื่องและจะตรวจสอบให้เร็วที่สุด เท่าที่ตนมีข้อมูลพฤติกรรมของ สจ.จะมีประเด็นที่เกี่ยวข้องกับทางพรรคเพื่อไทยที่ทำให้เสื่อมเสีย เพราะเขาไปแอบอ้างว่าเป็นสมาชิกของพรรคเพื่อไทย เป็นสจ.ในนามของพรรคเพื่อไทย ทั้งนี้ ตนยอมรับว่าเขาเคยเป็น ย้ำว่าเคยเป็นสมาชิกพรรคฯ แต่หลังจากเลือกตั้ง สจ.คนนี้ได้ประกาศ ผ่านเฟซบุ๊กตัวเองว่า เขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อไทย และไม่ได้เป็นสมาชิกของพรรคเพื่อไทย ขณะเดียวกัย พรรคเพื่อไทยก็มีมติ โดยกรรมการสาขาพรรค จ.อุดรธานี ให้พ้นจากการเป็นสมาชิกพรรค และทำเรื่องส่งไปยังสำนักงานใหญ่ของพรรคเพื่อไทยแล้ว และเรายังได้ไปแจ้งความ เนื่องจากเกรงว่าเขาอาจจะมีพฤติกรรมที่ทำให้เสื่อมเสีย โดยอ้างชื่อพรรคเพื่อไทย ซึ่งเราได้แจ้งความไว้ก่อนหน้าที่จะมีเรื่องร้องเรียนในครั้งนี้
ด้านนายกองตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผช.รมต.กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยทางโทรศัพท์ว่า เรื่องที่มีสมาชิกสภา อบจ.อุดรธานี ท่านหนึ่ง ประพฤติตนไม่เหมาะสมที่โรงพยาบาลอุดรธานี ตอนนี้ทาง สสจ.อุดรธานี ได้รายงานให้ทราบแล้ว สิ่งที่ สจ.คนนี้ทำ ตรวจสอบแล้วเป็นสิ่งที่ไม่สามารถทำได้ การกระทำแบบนั้นถือว่าผิด เนื่องจากทางโรงพยาบาลเองมีระเบียบไม่อนุญาตให้มีการถ่ายภาพในสถานที่บางพื้นที่ เรื่องนี้ได้มอบให้ทาง สสจ.แจ้งความดำเนินคดีกับบุคคลดังกล่าวแล้ว ในฐานที่กระทำผิดระเบียบกฎหมายของสถานที่ราชการ
ส่วนกรณีที่ สจ.กับภรรยาของเขามีการครอบครองและใช้รถฉุกเฉิน เรื่องนี้จะให้ทาง สสจ. อุดรธานี ตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนว่ารถฉุกเฉินมีการจดทะเบียน หรือขึ้นทะเบียนไว้หรือไม่ ซึ่งหากขึ้นทะเบียนไว้เขาก็ไม่ได้ผิดอะไร แต่หากไม่ขึ้นทะเบียน ก็ต้องดำเนินการตามขั้นตอน และจะเอาเรื่องนี้รายงานให้กับศูนย์การแพทย์ฉุกเฉินได้พิจารณาว่าเข้าข่ายฐานความผิดอะไรบ้าง
ต่อมานักข่าวได้โทรศัพท์ไปหาสมาชิกสภา อบจ.เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง แต่ทาง สจ.คนนั้นบอกว่า ไม่สะดวก และบอกกับนักข่าวว่า "ผมไม่อยากเป็นข่าว เพราะว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระ เรื่องที่เกิดขึ้นนั้นก็ได้มีการพูดคุยปรับความเข้าใจไกล่เกลี่ยกันแล้วที่โรงพยาบาลฯทุกอย่างเรียบร้อยหมดแล้ว ส่วนตัวก็ไม่เข้าใจว่าคนที่เอาข่าวมาลงเขามีจุดประสงค์อะไร หากมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวน หรือหากเห็นว่าผมมีความผิด ผมก็จะสู้ตามกระบวนการในชั้นคณะการการสอบสวนหรือชั้นศาล"
นักข่าวถามต่อว่า สจ.ได้ถ่ายรูปที่โรงพยาบาลจริงไหม สจ.ตอบว่า ยอมรับว่าถ่าย แต่การถ่ายรูปนั้น ทุกคนก็สามารถทำได้หมด มันไม่ใช่แค่ผมคนเดียว สื่อบางสื่อก็ถ่ายได้ เรื่องที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเรื่องที่ไร้สาระมาก และเรื่องที่เกิดขึ้น ตนไม่สะดวกให้สัมภาษณ์
นักข่าวถามว่า สจ.สะดวกให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ไหม แต่ทาง สจ.ก็อ้างว่าทนายประจำตัวผม แนะนำว่ายังไม่ควรให้ข้อมูลอะไร เนื่องจากจะเสียรูปคดี คำพูดที่พูดคุยกับนักข่าวครั้งนี้ ตนก็ไม่อนุญาตให้นำไปเผยแพร่ เพราะมันจะเสียรูปคดี "ผมไม่สะดวก" สมมุติอนาคตหากมีคนทำให้ตนเสียหายเข้าใจผิด ตนก็อาจจะดำเนินคดี
ทั้งนี้ ตนขอให้การในชั้นคณะกรรมการสอบสวนที่ผู้ว่าราชการจังหวัดแต่งขึ้นมา ต้องกราบขออภัยพี่นักข่าวมากๆ ตอนนี้คุณแม่ก็ป่วย ต้องเฝ้าระวัง 24 ชั่วโมง นักข่าวถามต่อว่า กรณีพรรคเพื่อไทย มีมติขับตนออกจากสมาชิกพรรคแล้วใช่หรือไหม สจ.คนนี้บอกว่า ตนยังไม่ทราบ แต่ตั้งแต่เลือกตั้งเสร็จนั้น ตนก็ไม่ได้ร่วมกิจกรรมอะไรกับทางพรรคเพื่อไทย ตนยืนยันว่า ตั้งใจจะออกเองไม่ได้ถูกทางพรรคเพื่อไทยขับ
ส่วนกรณีรถฉุกเฉินที่มีอยู่นั้น ทาง สจ.บอกว่า เรื่องนี้ขอให้การในชั้นคณะกรรมการสอบสวน สรุปสั้นๆ คือเรื่องนี้เป็นเรื่องการเมือง อย่างไรก็ดี โลกโซเชียลของจังหวัดอุดรธานี มีคนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก และต้องการให้เปิดข้อมูลว่า สจ.คนนี้เป็นใครมีประวัติความเป็นมายังไง ซึ่งนักข่าวที่ จ.อุดรธานีจะได้หาข้อมูลของ สจ. คนนี้ต่อไป