กำนัน ยิงสยบหนุ่มคลั่งดับ หลังรับแจ้งเหตุบุกรุกบ้าน ปชช.

11 มีนาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคืนนี้ ( 10 มี.ค.2568) เวลา 20.00น. พ.ต.ต.วรวรรธ วิชัยดิษฐ สว.(สอบสวน) สภ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งว่ามีเหตุกำนันยิงคนป่วยจิตที่อาละวาดคลุ้มคลั่งได้รับบาดเจ็บสาหัส ที่บริเวณเพิงศาลาริมถนนสายดอนคา-บ้านวังลุง ม.6 ต.ทอนหงส์ อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.วีระศักดิ์ ศรีทอง ผกก.สภ.พรหมคีรี ,พ.ต.ท.วรดิษฐ์ ลีวังศรี รอง ผกก.สอบสวน,กำลังตำรวจชุดสืบสวน,นายปฏิวัติ ทองเพชรจันทร์ นายอำเภอพรหมคีรี,และจนท.ฝ่ายปกครองที่เกี่ยวข้องเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที 

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุบริเวณบริเวณเพิงศาลาริมถนนสายดอนคา-บ้านวังลุง ม.6 ต.ทอนหงส์ อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช จนท.พบแต่เพียงกองเลือด ส่วนผู้ที่ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ ถูกนำส่ง รพ.พรหมคีรี ไปก่อนหน้านี้แล้ว และได้เสียชีวิตลงในเวลาต่อมา จึงตามไปร่วมชันสูตรพลิกศพที่โรงพยาบาล ทราบผู้เสียชีวิตคือ นายชัชดนัย มุธิเกตุ อายุ 32 ปี สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนสั้นไม่ทราบชนิด กระสุนเข้าหน้าอกซ้ายทะลุหัวใจ 1 รู 

ส่วนคนก่อเหตุสอบสวนทราบว่าเป็นกำนันตำบลทอนหงส์ ที่ผิดชอบท้องที่เกิดเหตุ ทราบชื่อนายจิรภัทร คุณโลก อายุ 35 ปี หลังเกิดเหตุได้หลบหนีไปตั้งหลัก ก่อนเข้ามอบกับตำรวจ สภ.พรหมคีรี เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา และทางตำรวจได้ให้ประกันตัวออกไปในเช้ามืดวันเดียวกัน 

จากการสอบปากคำนายจิรภัทร กำนันตำบลทอนหงส์ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนได้รับแจ้งจากนายอรรถชัย ชูแก้ว ว่านายชัชดนัย มุธิเกต ผู้เสียชีวิตได้บุกรุกเข้ามาภายในบ้าน จึงนำกำลังเดินทางได้ไปตรวจสอบ เนื่องจากลาดตระเวนใกล้ที่เกิดเหตุพอดี ปรากฏว่าเมื่อเดินทางไปถึงพบนายชัชดนัย มุธิเกต (ผู้เสียชีวิต) นั่งอยู่บริเวณศาลาริมถนนสาธารณะสายดอนคา – บ้านวังลุง ม.6 ต.ทอนหงส์ อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช จึงได้เข้าไปพูดคุยเจรจากับผู้ตาย หรือนายชัชดนัย มุธิเกต แต่ปรากฏว่านายชัชดนัยพูดคุยไม่รู้เรื่อง เนื่องจากมีอาการป่วยจิต ระหว่างนั้นเกิดคลุ้มคลั่งใช้อาวุธมีดปลายแหลมที่พกติดตัวมาไล่แทงกำนันฯ ต.ทอนหงส์ จนใกล้จะจวนตัวนายจิรภัทร จึงได้ตัดสินใช้อาวุธปืนยิง ใส่นายชัชดนัย ไปจำนวน 1 นัด เข้าหน้าอกซ้าย ได้รับบาดเจ็บนอนฟุบจมกองเลือด

จากนั้น ได้โทรแจ้งตำรวจ แล้วแจ้ง จนท.กู้ภัย ในพื้นที่ให้ช่วยนำคนเจ็บส่ง รพ.และทราบว่าเสียชีวิตที่ รพ.พรหมคีรี ต่อมาได้ติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อขอมอบตัว และดำเนินการตามกฎหมาย เบื้องต้นตำรวจได้แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นฯ

ความคืบหน้าเช้าวันนี้ ( 11 มี.ค.2568) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ บริเวณศาลาริมถนนที่เกิดเหตุ พบว่ารอยเลือดและคราบเลือดได้จางหายหมดแล้วเนื่องจากเมื่อคืนฝนตกหนักทำให้ไม่เห็นรอยเลือดในที่เกิดเหตุ ส่วนบ้านที่เกิดเหตุที่นายชัชดนัย ไปขึ้นบ้านนั้นอยู่ฝั่งตรงข้าม ห่างไปประมาณ 50เมตร ปรากฏว่า บ้านปิดเงียบไม่มีใครอยู่ ทราบว่าเป็นบ้านของข้าราชการเกษียณ หลังเกิดเหตุอาจจะไปทำธุระข้างนอก 

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังวัดวังลุง ม.6 ต.ทอนหงส์ อ.พรหมคีรี ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานศพ พบว่าญาติกำลังเตรียมติดตั้งเต้นท์เพื่อเตรียมจัดงานศพของนายชัชดนัย โดยยังไม่มีการนำศพของนายชัชดนัย มาถึงวัดแต่อย่างใด เนื่องจากศพนายชัชดนัย ได้ถูกส่งต่อไปที่ รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช เพื่อทำการชันสูตรผ่าศพ คาดว่าทางญาติจะนำศพออกจาก รพ.มหาราชฯ มาถึงวัดวังลุงในช่วงบ่ายวันนี้ 

พร้อมกันนี้ ผู้สื่อข่าวได้พบกับนายเล็ก มุธิเกตุ อายุ 67 ปี พ่อของนายชัชดนัย (ผู้เสียชีวิต) ซึ่งยังอยู่ในอาการโศกเศร้าเสียใจอยู่ โดยกล่าวกับผู้สื่อข่าวด้วยน้ำตาคลอเบ้าว่าเหตุการณ์ที่เกิดเหตุขึ้นเมื่อคืน ตนได้ยินว่ามีการยิงกันใกล้บ้าน แต่ไม่นึกว่าจะเป็นลูกชายของตน จึงออกมาดูก็พบว่ามีการนำร่างลูกชายตนส่ง รพ.พรหมคีรี และเสียชีวิตที่รพ.เวลาต่อมา ตนเสียใจมาก ตนไม่รู้จริงๆว่าสาเหตุจริงๆเกิดจากอะไร เพราะตอนเกิดเหตุอยู่แต่ในบ้าน ซึ่งต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับผิดชอบดำเนินการไปตามกฎหมายอย่างเต็มที่ 

"ความจริงบ้านของตนและบ้านของกำนันคนยิงก็อยู่ใกล้กันไม่เคยมีเรื่องอะไรมาก่อน ตนไม่อยากพูดอะไรมาก เพราะไม่รู้เรื่องจริงๆ ที่ผ่านมา ก็ยอมรับว่าลูกชายตนเคยเสพยาเสพติด และเคยถูกจับกุมในคดียาเสพติดมาแล้ว มีลูก2คน แต่เลิกกับเมียแล้ว โดยหลานทั้งสองตนเป็นคนเลี้ยงมาตลอด ตนจะขอจัดงานศพลูกชายจนเสร็จ ซึ่งจะทำการเผาในวันเสาร์ 15 มี.ค.นี้ ที่วัดแห่งนี้" นายเล็ก กล่าว

ขณะที่ นายปฏิวัติ ทองเพชรจันทร์ นายอำเภอพรหมคีรี เปิดเผยว่า ทางฝ่ายปกครองอำเภอพรหมคีรี ต้องขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้ง ในส่วนด้านคดีอาญาก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจดำเนินการไปอย่างเต็มที่ตามพยานและหลักฐานจะไม่มีการช่วยเหลือ พร้อมกันนี้ จะมีการตั้งกรรมการสอบสวนวินัยตามขั้นระเบียบราชการต่อไป เพื่อให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย

อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ทางตนและฝ่ายปกครองพรหมคีรี จะลงพื้นที่ไปพบญาติผู้เสียชีวิตที่งานศพ เพื่อพูดคุยทำความเข้าใจและเยียวยาจิตใจญาติของผู้เสียชีวิตต่อไป