
12 กุมภาพันธ์ 2568 นายเฉลิมวัฒน์ ตรีรัตน์วัฒนา รองประธานหอการค้าจังหวัดตาก เปิดเผยถึงผลกระทบต่อเกษตรกรในพื้นที่ชายแดนของ จ.ตาก ว่า หลังจากรัฐบาลไทยมีคำสั่งห้ามส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิงไปยังเมียนมา และมีมาตรการให้สถานีน้ำมันเชื้อเพลิงในพื้นที่ชายแดนจังหวัดตาก ดำเนินการตามพระราชบัญญัติควบคุมน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ.2542 เพื่อปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งเมียนมานั้น
ขณะนี้ผ่านมา 1 สัปดาห์ พบว่าได้ส่งผลกระทบต่อภาคเกษตรในวงกว้างแล้ว โดยเฉพาะประชาชน และเกษตรกรในพื้นที่ชายแดนห่างไกล หอการค้าจังหวัดตาก ได้รับทราบปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกรในพื้นที่ อ.อุ้มผาง และ อ.พบพระ จ.ตาก ซึ่งภูมิประเทศอยู่บนพื้นที่สูงลาดชัน กำลังประสบกับภาวะขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิงอย่างหนัก เพราะถูกควบคุมการซื้อ และหากฝ่าฝืนมีการลงโทษตามกฎหมาย ตลอดเวลาที่ผ่านมา พ่อค้าในพื้นที่จะใช้วิธีใช้รถปิกอัพขับลงจากดอยมาซื้อน้ำมันเชื้อเพลิงใส่แกลลอนขนาด 200 ลิตร ที่ อ.แม่สอด จ.ตาก จากนั้นจะนำไปขายในปั๊มหลอดในชุมชน เพื่อขายต่อให้กับประชาชน และเกษตรกร
“ภาคเกษตร ถือว่าสร้างรายได้รองมาจาการค้าชายแดน แต่ขณะนี้เกษตรกรเดือดร้อนอย่างหนัก เพราะไม่สามารถซื้อน้ำมันใส่แกลลอนได้ เพื่อนำไปเติมใส่รถไถ เครื่องปั๊มน้ำ และปั๊มหลอดได้ เนื่องจากภาครัฐเกรงว่าจะลักลอบส่งออกไปยังเมียนมา หากยังไม่มีการแก้ไขก็จะสร้างความเสียหายต่อผลผลิตทางการเกษตรได้ ไม่ว่าจะเป็นข้าวโพด มันสำปะหลัง และพืชไร่ต่างๆ ขณะนี้อยู่ระหว่างการปลูก และบางส่วนก็เริ่มทยอยเก็บผลผลิต อยากให้ทางภาครัฐเข้ามาจัดการ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบไปมากกว่านี้” นายเฉลิมวัฒน์ กล่าว
ด้าน นายสุรเดช ศรีโสภาสาคร ร้านค้าชุมชน ต.แม่ระมุ อ.อุ้มผาง จ.ตาก กล่าวว่า ปกติแล้วจะเดินทางลงจากดอยในอำเภออุ้มผาง ระยะทางกว่า 150 กิโลเมตร มาซื้อน้ำมันเชื้อเพลิงจาก อ.แม่สอด จ.ตาก โดยใน 1 สัปดาห์นั้น จะมาซื้อน้ำมันเชื้อเพลิง ครั้งละ 7 แกลลอน บรรจุแกลลอนละ 200 ลิตร เพื่อนำไปขายต่อให้กับประชาชน และเกษตรกร
แต่เมื่อมีมาตรการควบคุมทำให้ไม่สามารถซื้อน้ำมันเชื้อเพลิงได้เหมือนเดิม ด้วยการเติมใส่แกลลอน ทำให้ในพื้นที่ประสบกับภาวะขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิง เพราะรัฐไม่แจ้งล่วงหน้า แม้แต่สถานีน้ำมันเชื้อเพลิงที่อยู่ห่างจากไป 27 กิโลเมตร ก็มีเพียง 1 แห่ง ทำได้แค่ขับรถยนต์ รถจยย.ไปเติมน้ำมัน แต่ไม่มีเกษตรกรคนไหนขับรถไถลงดอยมาเติมน้ำมันเชื้อเพลิง
ส่วน นายปันภูโชค รัชต์ภาณุกิจ เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพด ต.แม่ระมุ อ.อุ้มผาง จ.ตาก กล่าวว่า ตอนนี้กำลังจะได้รับความเสียหาย เพราะกำลังสีข้าวโพด ที่มีความจำเป็นต้องใช้น้ำมันเชื้อเพลิง และรถไถก็ต้องจอดทิ้งไว้ เพราะไม่มีน้ำมันเชื้อเพลิงเติม ที่ผ่านมา จะใช้วิธีไปซื้อน้ำมันเชื้อเพลิงใส่แกลลอนขนาด 200 ลิตร ที่ อ.แม่สอด จ.ตาก เพราะราคาถูกกว่าลิตรละ 4 บาท
ตอนนี้คาดว่าเกษตรกรในอำเภออุ้มผางที่เป็นแหล่งปลูกข้าวโพด มันสำปะหลัง และพริก ต่างประสบปัญหาขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิงแทบทั้งหมด อยากให้ภาครัฐแยกให้ออกระหว่างการใช้งานภาคเกษตร ไม่ได้ลักลอบนำไปขายให้ กับประเทศเมียนมา และหากได้รับความเสียหายจากการลงทุนไปแล้ว ภาครัฐจะเยียวยาอย่างไร