นายอำเภอเผยความจริงอีกด้าน สาวถูกเขี่ยพ้นราชการ ขวางแผนฮุบมรดก 500 ล.

11 ธันวาคม 2567 จากกรณีที่ น.ส.ธัญญรส อดีตลูกจ้างฝ่ายทะเบียนอำเภอเมืองสมุทรสาคร ได้มีการร้องขอความเป็นธรรมผ่านสื่อต่างๆ เนื่องจากเห็นว่า ตนถูกกลั่นแกล้งให้ออกจากราชการ เหตุจากออกมาขวาง แผนที่สาวใช้รายหนึ่ง ร่วมกับ จนท.ฝ่ายทะเบียนอำเภอ ปลอมแปลงเอกสารราชการ รับบุตรบุญธรรม โดยมีชื่อตน ลงชื่อเป็นพยาน

ทั้งที่ในข้อเท็จจริงตนมีหน้าที่ ในการจดทะเบียนรับบุตรบุญธรรม ตนจะลงชื่อในฐานะ “เจ้าหน้าที่” ที่รับจดทะเบียน จะไปลงชื่อในฐานะพยานไม่ได้ จึงเชื่อได้ว่ามีการปลอมแปลงลายเซ็นของตน ในการเป็นพยาน และได้ไปแจ้งความที่ สภ.เมืองสมุทรสาคร เรื่องการลงลายมือชื่อเป็นเท็จ หลังจากมีการแจ้งความ ได้มี จนท.ฝ่ายทะเบียนของอำเภอ 3 คน มาพูดคุยกับตนพร้อมกับขอร้อง ให้ตนถอนแจ้งความ แต่ตนไม่ยอมเพราะเป็นการทุจริตต่อหน้าที่ จนนำมาซึ่งการไม่ผ่านเกณฑ์ประเมิน และไม่ได้รับการต่อสัญญาจ้างในงบประมาณนี้นั้น

กรณีดังกล่าว ร.ต.ประพันธ์ ถึกสกุล นายอำเภอเมืองสมุทรสาคร เปิดเผยว่า บุคคลดังกล่าวไม่ได้ให้ถูกออกจากราชการ เพราะไม่ใช่ข้าราชการ แต่ไม่ได้รับการต่อสัญญาจ้าง เพราะเป็นลูกจ้างแบบ สย. หรือ การดำเนินการจ้างเหมาบริการเป็นรายบุคคล ในสังกัดกรมการปกครอง ซึ่งจะมีการจ้างงานแบบปีต่อปี (งบประมาณ) และต้องผ่านเกณฑ์การประเมินผลการปฏิบัติงาน จากคณะกรรมการพิจารณาว่า มีพฤติกรรมและจริยธรรมเหมาะสมต่อการปฏิบัติงานหรือไม่


 

ขณะที่ นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่า กรณีของ น.ส.ธัญญรส ที่มีการร้องเรียนผ่านสื่อนั้น ได้สอบถามข้อเท็จจริงเบื้องต้น ไปทางนายอำเภอเมืองสมุทรสาคร ตั้งแต่ทราบเรื่องเมื่อวานนี้ (10 ธ.ค.) โดยพนักงานคนดังกล่าวนั้น เป็นลูกจ้างของอำเภอเมืองสมุทรสาคร และต้องได้รับการประเมินผลงานในปี 2567 จากทางคณะกรรมการของอำเภอฯ ซึ่งผลการประเมินปรากฏว่า พนักงานหรือลูกจ้างคนดังกล่าวไม่ผ่านการประเมินของคณะกรรมการ ทำให้ไม่ได้รับการต่อสัญญาจ้างในปีถัดไป จึงทำให้ผู้ร้องเห็นว่าตนเองไม่ได้รับความยุติธรรม

ซึ่งเมื่อคณะกรรมการพิจารณาแล้วไม่ผ่านเกณฑ์การประเมิน ลูกจ้างคนดังกล่าวก็จะไม่ได้รับการจ้างต่อ แต่ในประเด็นที่เจ้าตัวกล่าวอ้างว่า ที่ไม่ได้รับความยุติธรรมเนื่องจากไปเปิดประเด็นข้อเท็จจริงบางอย่าง  จนนำไปสู่การถูกกลั่นแกล้งจากทางคณะกรรมการและผู้บังคับบัญชานั้น

ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย และให้ข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ปรากฏเป็นที่ชัดเจน  ทางผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร จึงได้มีคำสั่งแต่งตั้งมอบหมายให้ที่ทำการปกครองจังหวัด ซึ่งถือเป็นผู้บังคับบัญชาที่ควบคุมการปฏิบัติงานของอำเภอ ไปดำเนินการตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยมีประเด็นในเรื่องของแนวทางการพิจารณา การประเมินของคณะกรรมการประเมินของอำเภอว่า มีปัจจัยหรือมีดุลยพินิจในการพิจารณาแบบไหนอย่างไร ที่จะพิจารณาการต่อหรือไม่ต่อสัญญาลูกจ้าง มีเหตุผลอย่างไร ซึ่งก็เป็นการตรวจสอบของคณะกรรมการในระดับจังหวัด และจะมีการรายงานผลให้ทางผู้บังคับบัญชาได้รับทราบต่อไป