เปิดอุปสรรคกู้ภัยอุโมงค์รถไฟถล่ม เจอเหยื่อรายแรก แต่ 5 ชม.ยังนำออกมาไม่ได้

28 สิงหาคม 2567 ความคืบหน้าหลังจากเข้าสู่วันที่ 4 ของปฎิบัติการค้นหาและช่วยเหลือ ผู้สูญหาย 3 คน เป็นชาวจีน 2 คน และชาวเมียนมา 1 คน เหตุดินถล่มภายในอุโมงค์ก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ช่วงคลองขนานจิตร อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตั้งแต่วันที่ 24 ส.ค.2567 ที่ขณะนี้ พบรถบรรทุกของผู้ประสบภัยแล้ว 1 คัน แต่ยังไม่สามารถเข้าไปถึงจุดประตูฝั่งคนขับของรถได้   

ล่าสุดเมื่อช่วงประมาณ 14.50 น. กู้ภัยพบตำแหน่งของรถดั้ม ที่คาดว่าผู้ประสบภัยจะอยู่ในนั้น แต่จนแล้วจนรอด จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่สามารถนำตัวผู้ประสบภัยออกมาได้ แม้ว่าผู้ประสบภัยจะอยู่ห่างเพียงแค่ 1.8 เมตรก็ตาม โดยภายหลังจากที่ได้รับแจ้งจากคนงาน ที่กำลังขุดดินภายในอุโมงค์ว่า ขณะที่เร่งขุดดินอยู่นั้นได้ยินเสียงเคาะมาจากด้านใน เพื่อขอความช่วยเหลือจึงเชื่อว่า น่าจะเป็นเสียงมาจากผู้ประสบภัย 1 รายที่อยู่ภายในรถดั๊มซึ่งอยู่ลึกลงไปประมาณ 1.8 เมตร

 

ทางศูนย์อำนวยการร่วมได้มีการสั่งการ ให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยและเจ้าหน้าที่แพทย์เข้าไปประเมินสถานการณ์ โดยตลอดระยะเวลา 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา ทั้งทีมแพทย์และกู้ภัยได้มีการเดินทางเข้าออกหมุนเวียนกำลัง เนื่องจากด้านในเป็นพื้นที่แคบอากาศถ่ายเทไม่สะดวกและมีฝุ่นเยอะ ทำให้ทุกๆ 1 ชั่วโมงกู้ภัย จะต้องเดินทางออกมาพักภายนอกอุโมงค์

ซึ่งหลายคนต่างตั้งคำถามว่า ผ่านไปหลายชั่วโมงแล้วเหตุใดยังไม่สามารถ นำตัวผู้ประสบเหตุออกมาได้ นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ออกมาเปิดเผยว่า การทำงานขณะนี้มี 3 วิชาชีพเป็นอย่างน้อย ที่มีส่วนร่วมในการวิเคราะห์สถานการณ์ วิชาชีพแรกคือนักธรณีวิทยา  วิชาชีพที่ 2 คือวิศวกร และวิชาชีพที่ 3 คือกู้ภัย 

 

ซึ่งเราเข้าใจว่า ทีมกู้ภัยเองต้องการที่จะเข้าไปช่วยชีวิตผู้ประสบภัยให้ได้เร็วที่สุด แต่ทั้งนี้ก็ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของตัวเองและทีม ซึ่งในส่วนนี้จะต้องได้รับการวิเคราะห์ความปลอดภัย จากวิศวกรและนักธรณีวิทยาเสียก่อน

นอกจากนี้อุปสรรคอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้ทีมกู้ภัย และคนงานขุดไปไม่ถึงผู้ประสบภัยเสียที เนื่องจากดินที่เราต้องขุดลงไปนั้นมีหินอยู่ด้วย เมื่อขุดไปเจอหินก็ต้องเปลี่ยนเครื่องมือ และเปลี่ยนคนเข้าไปทำการแย็ก หรือสกัดหินให้มีขนาดเล็กลง เพื่อที่จะทำการเคลื่อนย้ายออกมาด้านนอก ซึ่งการทำงานจะวนเวียนและซ้ำกันในลักษณะนี้ เพราะอุโมงค์ที่ขุดไปมีลักษณะค่อนข้างแคบ เครื่องจักรไม่สามารถเข้าได้จึงต้องใช้แต่แรงงานคน

ซึ่งทางทีมข่าวก็ได้มีการไปพูดคุยกับ นายธเนศ วีระศิริ นายกสภาวิศกร  ที่ให้ความเห็นตรงกันว่า อุปสรรคหลักและอุปสรรคใหญ่ คือการขุดเจอหินขนาดใหญ่ และมีรายงานว่า หาหินก้อนใหญ่ที่ขุดเจอไม่สามารถที่จะแย๊ก หรือสกัดให้เป็นก้อนเล็กๆ ได้ก็อาจจะต้องทำการขุดเพื่ออ้อมทิ้งก้อนดังกล่าวไป ซึ่งขณะนี้เป็นเพียงแค่แผนอีกแผนหนึ่งเท่านั้น ยังไม่ได้รับการยืนยันจากทางกองอำนวยการร่วมแต่อย่างใด


ต่อมา 19.40 น. ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่า ทางเจ้าหน้าที่ชุดปฎิบัติการ กรมป้องกันบรรเทาสาธารณภัย ภายหลังเข้าไปปฎิบัติการกว่า 4 ชั่วโมง ได้ออกมาปรับแผนในการค้นหาร่างผู้สูญหายคนแรก ซึ่งเป็นชาวเมียนมาร์ พร้อมนำอุปกรณ์ตัดถ่างออกมาด้วย หลังพบอุปสรรคคือ “ ก้อนหินขนาดใหญ่ทับอยู่” ก่อนถึงรถดั๊มที่ผู้สูญหายชาวเมียนมาร์อยู่ภายในรถ 

ส่วนภายในอุโมงค์ขณะนี้ ยังมีเจ้าหน้าที่และพนักงานขอบริษัทราว 100 คน ทั้งในอุโมงค์และรอบนอกที่ปฎิบัติทำงานอยู่ เบื้องต้นหยุดการขุดเจาะขนาดใหญ่ แล้วเปลี่ยนมาใช้วิธีโกยหิน ดินทรายใส่บุ้งกี้แทน  หากใช้เครื่องจักรขนาดใหญ่ อาจจะให้อุโมงค์ที่พังอยู่แล้วถล่มลงมาเพิ่ม เสี่ยงต่อชีวิตเจ้าหน้าที่

อย่างไรก็ตามจากข้อมูลการปฎิบัติงานของทางเจ้าหน้าที่พบว่า สัญญาชีพจรของทั้ง 3 คนยังอยู่ในระดับที่ดี