
วันที่ 20 สิงหาคม 2567 เวลา 09.00 น. พ.ต.ต.ขัตติยะ เพ็ชรกล้า สารวัตร(สอบสวน) สภ.คูเมือง อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ว่ามีเหตุทำร้ายร่างกายกันภายในครอบครัว ที่บ้านหนองแวง หมู่ 14 ต.ปะเคียบ อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จึงประสานหน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรม จุด อ.คูเมือง ร่วมตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ยกสูง บริเวณลานหน้าบ้านพบนายอาคม รู้ทั่วรัมย์ อายุ 43 ปี นอนจมกองเลือดอยู่กับพื้นไม่ได้สติ หน่วยกู้ภัยตรวจสอบพบว่าเสียชีวิตแล้ว ขณะที่ ตามร่างกายพบบาดแผลถูกของมีคมแทงบริเวณลำตัว และชายโครงจำนวน 4 แผล ส่วนผู้ก่อเหตุคือนางสาวอรวุฒ (สงวนนามสกุล) อายุ 42 ปี ภรรยาของนายอาคม (ผู้เสียชีวิต) ไม่ได้หลบหนีไปไหน นั่งอยู่ใต้ถุนบ้านเพื่อรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
จากการสอบถามนางสาวอรวุฒ ให้การกับเจ้าหน้าที่ทั้งน้ำตาว่า ตนอยู่กินกับสามีมาได้ประมาณ 13 ปี มีลูกด้วยกัน 2 คน ก่อนหน้านี้ไม่ค่อยมีปัญหากัน ทำมาหากินตามปกติ แต่เมื่อประมาณ 4 ปีที่ผ่านมา สามีชอบดื่มสุรา แล้วเมาทำร้ายตนเป็นประจำ ระยะหลังเลยไปถึงทำร้ายพ่อกับแม่ตนซึ่งมีอายุ 72 ปีแล้ว โดยเฉพาะพ่อเคยป่วยเส้นเลือดสมองแตกจนกลายเป็นคนพิการต้องนั่งรถไฟฟ้า
ในห้วง 4 ปีที่ผ่านมา ตนพยายามเอาตัวเป็นโล่กำบังพ่อแม่ไว้ เพื่อไม่ให้สามีทำร้าย แต่ไม่วายยังโดนสามีทำร้ายอยู่ เคยไปแจ้งความไว้ที่ สภ.คูเมือง แล้ว 3 ครั้ง แต่ยังเอาผิดไม่ได้ เพราะเป็นเพียงทำร้ายร่างกาย ไม่มีบาดแผล ชาวบ้านต่างเอื่อมระอา เพราะได้ยินเสียงทะเลาะกันเป็นประจำ
เช้าวันนี้ สามีเมามาอีกจะเข้าทำร้ายพ่อ ตนซึ่งกำลังนั่งซักผ้าอยู่ จึงลุกขึ้นมาแล้วถือเอากรรไกรที่อยู่ใกล้ตัวมาด้วย เพื่อต้องการขู่สามีโดยบอกไปว่า "อย่านะกูสู้นะ" แต่สามีไม่ยอม คว้าไม้เข้าไปตีแม่แล้วเหวียงแม่ลงพื้นจนขาหัก จากนั้น ปรี่เข้าไปหาพ่ออีก ตนจึงเข้าไปห้ามไม่ให้ทำร้ายพ่อ แต่สามีไม่ยอม ยังจะพยายามเข้าไปทำร้ายพ่อให้ได้ ตนจึงตัดสินใจใช้กรรไกรที่ถือมา แทงไปบริเวณหน้าท้องและชายโครง ประมาณ 4 ครั้ง แต่ไม่ได้ตั้งใจให้ถึงตาย แค่จะระงับเหตุเท่านั้น ไม่รู้ว่าไปโดนจุดสำคัญตอนไหน
"ยอมรับว่าเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่งสารพ่อแม่ หากตนต้องจำคุกจะมีใครเลี้ยง เพราะที่ผ่านมาตนเป็นเสาหลักของครอบครัว" นางสาวอรวุฒ กล่าว
ด้านนายทุเรียน (สงวนนามสกุล) อายุ 72 ปี พ่อผู้ก่อเหตุ และเป็นพ่อตาของผู้เสียชีวิต บอกว่า ลูกเขยทำร้ายตนหลายครั้ง โดยเฉพาะเวลาเมา มีแต่ลูกสาวมาห้ามเป็นประจำ เช้าวันนี้ ลูกเขยเมาอีกเดินมาถ่มน้ำลายใส่หน้า ตนซึ่งพิการทำอะไรไม่ได้ จึงสาบแช่งต่อหน้าว่าขอให้มึงตายภายใน 3 วัน 7 วัน ไม่กี่นาทีนรกมารับตัว เห็นชุลมุนกับลูกสาว มาทราบอีกทีว่าลูกเขยถูกแทงเสียชีวิตแล้ว ส่วนตัวคิดว่าสมน้ำหน้า ถ้าตนไม่พิการจะ "ฆ่าลูกเขยก่อนที่ลูกสาวจะฆ่า"
สำหรับทางด้านคดีตำรวจ สภ.คูเมือง ยังไม่แจ้งข้อกล่าวหา ซึ่งจะต้องมีการสอบสวนผู้ก่อเหตุ และพยานรอบข้าง ให้ละเอียดถึงสาเหตุที่แท้จริงก่อน