"คิวพี" ร่ำไห้ประกาศเลิกขี่เจ็ทสกี ขอบวชให้ผู้เสียชีวิตเหตุซิ่งเจ็ทสกีชน

19 สิงหาคม 2567 ความคืบหน้ากรณี "คิวพี" ชินดนัย แซ่ลิ้ม นักแสดงละครซีรี่ส์ เรื่องวุ่นรักนักบิด ขับเจ็ทสกีพุ่งชนเรือยาวข้ามฟากของชาวบ้าน บริเวณคุ้งพระประแดง กลางแม่น้ำเจ้าพระยา จนเป็นเหตุให้ชาวบ้านเสียชีวิต 2 ราย เหตุเกิดเมื่อช่วงค่ำวันที่ 17 ส.ค. ที่ผ่านมา และจากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นพบว่า "คิวพี" ผู้ขับขี่เจ็ทสกีไม่มีใบอนุญาตในการขับเรือ 

ล่าสุดช่วงบ่ายวันนี้ คิวพีและพ่อเดินทางมาที่ สภ.พระประแดง เพื่อมารับทราบข้อกล่าวหา ระหว่างที่เดินลงจากรถทีมข่าวพยายามสอบถามเหตุการณ์ว่า วันนี้จะเดินทางไปงานศพนายประยูร คนขับเรือที่จังหวัดสมุทรสาครหรือไม่ เจ้าตัวไม่ตอบอะไร แต่จะเป็นพ่อที่ตอบแทนว่า “จะเดินทางไปเย็นนี้ “ หลังจากนั้นทีมข่าวสอบถามคิวพี ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอีกครั้ง เจ้าตัวไม่ตอบอะไรได้แต่ก้มหน้า ก่อนจะมาตอบก่อนเข้าห้องสอบสวนอีกครั้งว่า “ไม่ได้ตั้งใจ ขอโทษ มันเป็นอุบัติเหตุ"  

 

ขณะเดียวกันวันนี้ที่ สภ.พระประแดง ยังมีตัวแทนของกรมเจ้าท่าสมุทรปราการ นำเอกสารพร้อมรายละเอียดการให้ปากคำของ “คิวพี" มามอบให้กับตำรวจ สภ.พระประแดง พร้อมแจ้งความ คิวพี ฐานไม่มีบัตรประกาศนียบัตรขับเรือ ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบปากคำคิวพีอย่างละเอียด พ.ต.อ.ประภาส มั่งคั่ง รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ ตั้งโต๊ะแถลงพร้อม คิวพี ว่า หลังจากเกิดเหตุได้สอบปากคำพยานในพื้นที่มาโดยตลอด กล้องวงจรปิด รวมถึงขั้นตอนการสอบปากคำผู้เชี่ยวชาญจากกรมเจ้าท่าสาขาสมุทรปราการ

โดยทางฝั่งของกรมเจ้าท่า ดำเนินการใน 2 ประเด็น ประเด็นที่ 1 คือ คนขับเจ็ทสกีทำผิดเงื่อนไข โดยขออนุญาตขับขี่เพียง 1 คน แต่วันเกิดเหตุ ซ้อนมา 3 คน เรื่องนี้กรมเจ้าท่าสมุทรปราการ เปรียบเทียบปรับ 1 หมื่นบาท เรียบร้อยแล้ว

ประเด็นที่ 2 คือ การเดินเรือ ผู้ขับเรือจะต้องมีใบประกาศเดินเรือ เปรียบเสมือนเป็นใบขับขี่ จากการตรวจสอบพบว่านายคิวพี ไม่มีใบขับขี่นี้ มีความผิดตาม พ.ร.บ.การเดินเรือ มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 1 พัน ถึง 1 หมื่นบาท ซึ่งประเด็นนี้ทางเจ้าท่าสมุทรปราการ จะมาร้องทุกข์ต่อ พนักงานสอบสวนอีกครั้ง เพื่อให้ดำเนินคดีกับนายคิวพีต่อไป

ในส่วนที่ 3 ที่ตำรวจได้รับข้อเท็จจริงทั้งหมด ทำให้เชื่อว่า คิวพี ไม่ได้ความระมัดระวัง ในการขับขี่เจ็ทสกี และไม่คุ้นชินกับพื้นที่ ไม่ทราบว่า มีการสัญจรข้ามฝั่งเกือบตลอดเวลา เรื่องนี้เข้าข่ายความผิด ข้อหา กระทำการโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย เป็นความผิดอาญา ซึ่งในส่วนนี้ทางตำรวจจะรอผลตรวจพิสูจน์เรือจาก พฐ. และดำเนินคดีกับคิวพีในข้อหานี้ ในเร็ววัน ซึ่งทางผู้ก่อเหตุยอมรับทุกกรณี และรู้สึกเสียใจ หลังจากนี้เตรียมบวชให้คนตาย และจะเยียวครอบครัวคนตายจนกว่าจะพอใจ

 

ด้าน คิวพี เปิดใจครั้งแรกหลังให้ปากคำกับทางตำรวจ เจ้าตัวยอกมือไหว้ขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต ตนไม่ได้ตั้งใจที่จะทำให้มันเกิดเหตุการณ์ขึ้นแบบนี้ ถ้าตอนนั้นตนเห็น ตนก็ไม่อยากจะชน ไม่อยากให้เป็นแบบนี้ ไม่มีเจตนาที่จะทำจริงๆ ใจตอนนี้ตั้งใจจะบวชอุทิศส่วนกุศลให้กับผู้เสียชีวิต และจะเยียวยารับผิดชอบทุกอย่าง 

ยอมรับตนไม่มีความรู้ด้านการเดินเรือ และไม่รู้ด้วยซ้ำว่า มีเรือหางยาวรับจ้างทำงานอยู่บริเวณนั้น ปกติไม่ได้ขับมาในพื้นที่เท่าไหร่ นานๆ จะมาที ส่วนใหญ่จะขี่ในบึง ช่วงที่เกิดเหตุมองไม่เห็นจริง ๆ ขับมาพร้อมกับเพื่อน เพื่อนขับนำมาก่อน เพื่อนเห็นเรือหางจังหวะที่ใกล้พอดีซึ่งพ้นพอดี แต่ตนไม่ทันมามองเห็นก็ไม่ทันแล้ว และเรือก็ไม่มีไฟ แสงสว่างไม่มีเลยในพื้นที่ ส่วนเจ็ตสกีของตัวก็มีเพียงไฟเดย์ไลท์ ยืนยันวันที่เกิดเหตุไม่ได้กินเหล้าเบียร์ ส่วนรูปที่ปรากฏในโซเชี่ยลถือขวดอะไรบางอย่างคือรูปเก่า 

หลังจากนี้จะไม่ขับเจ็ทสกีแล้วเลิกขับเลย ยอมรับว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ตนประมาทจริงๆ จึงอยากฝากเตือนคนที่ขับเจ็ทสกีให้ระมัดระวังและอย่าขับในเวลากลางคืน ทั้งนี้ขอโทษกับทุกสิ่งทุกอย่างกับทางครอบครัวผู้เสียชีวิต (หลังจากนั้นเจ้าตัวก็ร้องไห้ฮือ)

ด้านพ่อคิวพีเผยว่า ตนรู้สึกเสียใจกินไม่ได้นอนไม่หลับกับเรื่องที่เกิดขึ้นทุกอย่าง วันเกิดเหตุตนก็ไปที่ร้านอาหารด้วยแต่จังหวะที่ลูกชายออกมา ตนกำลังเช็กบิลอยู่ หลังจากนั้นก็รีบขับตามออกมาห่างกันไม่ถึง 1 นาที ก็เกิดเรื่องก่อนไม่ได้เห็นเหตุการณ์ ระหว่างนั้นพอรู้เกิดเหตุ ก็พยายามวนหาผู้ตายเพื่อจะช่วยเหลือ พอไม่เจอก็ช่วยลากเรือหางยาวเข้าฝั่ง

ยืนยันพร้อมเยียวยาทุกอย่าง ส่วนลูกชายก็สำนึกผิดและเสียใจ ข่าวที่ออกไปก็สร้างผลกระทบให้กับครอบครัวรวมถึงลูกชายด้วย ตนอยากจะขอให้สื่อสังคมให้อภัยลูกชายตนด้วย ซึ่งตนก็เป็นส่วนสำคัญที่ไม่ได้อบรมลูกให้ดี ประมาทไป หลังเกิดเหตุยังไม่ได้เจอ หรือพูดคุยกับญาติผู้เสียชีวิตเลย วันนี้ตั้งใจจะไปงานศพของลุงประยูร ที่จังหวัดสมุทรสาคร แต่ต้องสอบปากคำก่อน จึงให้ญาติเดินทางไปแทน ยืนยันจะไปงานศพแน่ ๆ