svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ข่าวทั่วไทย

โอละพ่อ! "น้องโม" กุเรื่องถูกลักพาตัว ที่แท้หวังเอาเงินครอบครัวไปใช้หนี้

กลายเป็นเรื่องโอละพ่อ! "น้องโม" สาวแม่ลูกอ่อน วัย 21 ปี ชาวขอนแก่น ที่พ่อเข้าแจ้งความขอความช่วยเหลือว่า ลูกสาวถูกแก๊งคนร้ายลักพาตัวไปกักขังเรียกค่าไถ่ 40,000 บาท ที่แท้กุเรื่องหลอกครอบครัว เพื่อนำเงินไปใช้หนี้

วันที่ 7 สิงหาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าในคดีที่ นายกิตติมา คำพิลัง อายุ 51 ปี ชาว ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น เมื่อวันที่ 5 ส.ค.2567 ว่า น.ส.กิตติภรณ์ หรือ โม คำพิลัง อายุ 21 ปี บุตรสาวของตนได้หายตัวไป ต่อมานายกิตติมาฯ ทราบจากเพื่อนของบุตรสาวว่า มีผู้ส่งข้อความมาหา บอกว่าบุตรสาวของตนถูกลักพาตัวไปกักขังไว้ โดยให้โอนเงินไปให้ จำนวน 40,000 บาท จึงจะปล่อยตัว นายกิตติมาฯ เกรงว่าบุตรสาวของตนจะได้รับอันตรายจึงมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้ทำการสืบสวนเรื่อยมา ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 22.00 น. ของวันที่ 6 ส.ค.2567 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน ได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า น.ส.โม ได้พักอาศัยอยู่ที่กระท่อมไม่มีเลขที่แห่งหนึ่ง ภายในหมู่บ้านใหม่บัวบาน หมู่ 14 ต.กู่ทอง อ.เชียงยืน จ.มหาสารคาม จึงเดินทางไปตรวจสอบ 

เมื่อไปถึงพบ น.ส.โม อยู่ที่กระท่อมหลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัว และนำตัว น.ส.โม กลับมาที่ สภ.เมืองขอนแก่น เพื่อสอบปากคำ เกี่ยวกับเหตุการณ์การหายตัวไป จนท้ายที่สุด น.ส.โม ยอมรับสารภาพว่า ตนเองได้สร้างเรื่องขึ้นมา เพื่อที่จะนำเงินไปใช้หนี้ โดยได้ทำการโพสต์ข้อความในลักษณะหลอกลวงว่า ตนถูกลักพาตัวไปแล้วเรียกค่าไถ่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการตรวจสอบโทรศัพท์มือถือ ซึ่งเป็นของ น.ส.โม พบว่ามีรูปถ่ายที่ น.ส.โม ใช้โพสต์ข้อความหลอกลวง เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจยึดโทรศัพท์ดังกล่าว พร้อมทั้งแจ้งข้อหาเบื้องต้นให้แก่ น.ส.โม ในข้อหา "นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อประชาชน" ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

โอละพ่อ! \"น้องโม\" กุเรื่องถูกลักพาตัว ที่แท้หวังเอาเงินครอบครัวไปใช้หนี้

ต่อมาเวลา 09.00 น. ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น นายกิตติมา คำพิลัง อายุ 51 ปี พ่อของ น.ส.โม พร้อมด้วยนายพัฒนพงศ์ นิลเกตุ อายุ 23 ปี สามีของ น.ส.โม เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม หลังจากที่ น.ส.โม สร้างเรื่องโกหกครอบครัวว่า ตนเองถูกพาตัวไปกักขังเพื่อเรียกค่าไถ่ จำนวน 40,000 บาท ตั้งแต่วันที่ 3 ส.ค.ที่ผ่านมา เพื่อที่จะนำเงินไปใช้หนี้ โดยมี พ.ต.อ.ยศวัจน์ แก้วสืบธัญนิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น มาพุดคุย สอบถาม และแนะนำขั้นตอนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับคดีที่ น.ส.โม ถูกแจ้งข้อกล่าวหา "นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อประชาชน" 
.
ทั้งนี้ นายกิตติมา พ่อของ น.ส.โม ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนก่อนเข้าพบพนักงานสอบสวนว่า ส่วนหนึ่งตนเองก็โล่งใจที่ลูกสาวยังมีชีวิตอยู่ แต่ก็ผิดหวังกับการกระทำของลูก จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในฐานะที่ตนเองเป็นพ่อของน้องโม ต้องกราบขออภัยเจ้าหน้าที่ตำรวจ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งประชาชนที่ทราบข่าว และเป็นห่วงในช่วงที่ลูกสาวได้หายออกไปจากบ้าน ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ตนเองและคนในครอบครัว ไม่มีใครรู้ว่าน้องโม ลูกสาว จะก่อเหตุสร้างสถานการณ์ขึ้นมาแบบนี้ ยอมรับว่าผิดหวัง และเสียใจกับการกระทำของลูกสาว ตนเองขอโทษแทนลูกสาวที่ทำให้ทุกคนเดือดร้อน 
.
อย่างไรก็ตาม ในเรื่องหนี้สินของน้องโม ตนเองก็ยังไม่ทราบว่าน้องโมเป็นหนี้อะไร หากได้พบหน้าน้องโม ตนเองก็จะได้สอบถาม และสั่งสอนลูกไม่ให้ทำแบบนี้อีก ในส่วนของคดีความที่ลูกสาวถูกแจ้งข้อหา ตนเองก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร เพราะหากต้องยื่นประกันตัว ทางครอบครัวก็ยังนึกไม่ออก เพราะฐานะทางครอบครัวก็ไม่ได้ร่ำรวย ก็คงต้องรอดูหลังจากเข้าพบพนักงานสอบสวน