ระทึก! เกิดเหตุโรงงานบรรจุแก๊สระเบิดใน อ.เดิมบางนางบวช เบื้องต้นมีผู้บาดเจ็บ

11 กรกฎาคม 2567 เมื่อเวลา 13.00 น. เจ้าหน้าที่ อบต.เขาพระ ได้รับแจ้งเหตุโรงบรรจุแก๊สระเบิด ใกล้เคียงสี่แยกไฟแดงเขาพระ ตลาดท่าช้าง อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรีมี มีเพลิงลุกไหม้ ทรัพย์สินได้รับความเสียหาย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ จึงประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าระงับเหตุ และให้ความช่วยเหลือ

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ดับเพลิง อบต.เขาพระ ได้ระดมรถน้ำบริเวณใกล้เคียงกว่า 10 คัน เพื่อเร่งฉีดน้ำสกัดเพลิง ที่กำลังลุกไหม้ภายในโรงบรรจุแก๊สดังกล่าว ซึ่งใช้เวลา 2 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ โดยพบว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 คน หนึ่งในนั้นบาดเจ็บสาหัส ถูกไฟไหม้ตามร่างกาย คือ นายสัมริต อายุ 66 คนขับรถบรรทุกก๊าซ เจ้าหน้าที่จึงนำตัวส่งโรงพยาบาลเดิมบางนางบวช แล้ว

จากการสอบถามเบื้องต้นทราบว่า ต้นเพลิงมาจากรถบรรทุกที่ มาส่งแก๊สจำนวน 5 ตัน แล้วเกิดวาล์วรั่ว คนขับรถพยายามหาที่ปิดวาล์ว แต่หาไม่เจอ ระหว่างนั้นได้มีสะเก็ดเกิดไฟขึ้น จึงเกิดเหตุระเบิดดังกล่าว มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย เจ้าหน้าที่ช่วยกันนำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลใกล้เคียง ส่วนความเสียหาย เบื้องต้น มีรถยนต์ถูกเพลิงไหม้ 2 คัน รถบรรทุกถังแก๊สถูกเพลิงไหม้ 2 คัน 

โดยบริเวณดังกล่าว เป็นโรงบรรจุก๊าซหุงต้ม ชื่อ “เดิมบางประกอบพาณิชย์” เป็นที่ตั้งของปั๊มก๊าซ LPG อยู่ติดกับปั๊มบางจาก และจุดที่เกิดระเบิดพบว่า เป็นช่วงของจุดที่บรรจุถังก๊าซ และรถบรรทุกก๊าซหุงต้ม ทำให้รถได้รับความเสียหายจากเพลิงไหม้ทั้ง รถบรรจุถังก๊าซ 2 คัน ยังมีรถบรรทุกเล็ก 1 คัน รถเก๋ง 1 คัน และรถกระบะ 1 คัน และรถจักรยานยนต์อีก 1 คัน ที่ได้รับความเสียหายจากแรงระเบิด และเพลิงไหม้ในครั้งนี้ด้วย

สอบถามเจ้าหน้าที่ ภายหลังสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ เจ้าหน้าที่ชุดดับเพลิงชุดแรกที่มาถึง เล่าให้ฟังว่า  กลุ่มตนมาถึงเป็นชุดแรก ขณะนั้นยังไม่มีเปลวไฟ มีแต่กลุ่มก๊าซขาวเป็นกลุ่มใหญ่ จึงได้เดินสายฉีดน้ำเพื่อเตรียมฉีดน้ำ แต่ระหว่างนั้นไม่ถึง 5 นาที ก็เกิดประกายไฟระเบิดดังตูมขึ้น 1 ลูก พวกตนจึงถอยไปตั้งหลัก หลังจากนั้นไฟลุกโหม ไม่นานก็เกิดเสียงระเบิดขึ้นอีก 1 ลูก เท่ากับ 2 ลูก จนเจ้าหน้าที่ดับเพลิงของเทศบาลกว่า 10คัน มาถึงก็ระดมกันฉีดน้ำนานกว่า 2ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ 

เจ้าหน้าที่ดับเพลิงยอมรับว่า มีความยากในการดับเพลิง เพราะขณะนั้นยังไม่สามารถปิดวาล์วได้ เจ้าหน้าที่จึงต้องฉีดน้ำหล่อเลี้ยงไว้จนคุมเพลิง จึงสามารถเข้าไปปิดวาล์ว จากนั้นก็ฉีดน้ำควบคุมอุณหภูมิไว้ เพื่อไม่ให้มีอุณหภูมิที่สูงขึ้นอีก

นายพิทักษ์ สุขสำราญ เจ้าของร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ ที่บ้านอยู่ฝั่งตรงข้ามกับที่เกิดเหตุ และเป็นคนเข้าไปให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ เล่าให้ฟังว่า ตอนนั้นตนกำลังนั่งทำงาน ได้ยินเสียงเหมือนอะไรหลุดเสียงดัง จึงหันไปดูเห็นแก๊สพุ่งขึ้นมา และมีกลิ่นเหม็นแก๊สตามมา ทำให้อยู่ไม่ได้จึงบอกลูก ๆ วิ่งออกไปนอกเขตประมาณสัก 200 เมตร เพราะตอนนั้นตกใจมาก

ระหว่างวิ่งไปก็ยังหันหลังมาดูอยู่ จึงเห็นคนเจ็บ กำลังเดินออกมาจากด้านใน มาหน้าประตู และเดินมาตรงถนน ตนได้วิ่งกลับมาเพื่อช่วยเหลือ และให้คนเจ็บนอนลง เพราะตอนนั้นคนเจ็บถอดเสื้อออกมา มีบาดแผลไฟลวกทั้งตัว และมีกระเป๋าคาดเอวติดไฟอยู่ ตนจึงวิ่งไปตักน้ำเพื่อมาดับไฟที่กระเป๋า กระทั่งรถกู้ชีพมา ก็ช่วยเหลือนำคนเจ็บส่งโรงพยาบาล 

ที่ผ่านมาตั้งแต่ตนเองอยู่ที่นี่ ไม่เคยเกิดเหตุการณ์นี้ และไม่เคยได้กลิ่นก๊าซ เพราะที่นี่มักจะมีการซ้อมแผนเป็นประจำ ส่วนหลังจากนี้ก็ยอมรับว่า มีกังวลใจ แต่ก็ยังต้องทำงานอยู่ตรงนี้ และก็จะคอยเฝ้าระวังเอา

ขณะเดียวกัน นายปารามี พานิช เจ้าของโรงงานบรรจุก๊าซ ได้ลงพื้นที่มายังจุดเกิดเหตุ ก่อนจะพาเจ้าหน้าที่ ทั้งตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าไปตรวจภายในพื้นที่ของโรงงาน พร้อมให้ข้อมูลว่า หลังเกิดเหตุสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ภายใน 30 นาที เพราะระบบเซฟตี้ทำงาน และโรงงานมีการซักซ้อมแผนเผชิญเหตุทุก ๆ ปี และช่วงเกิดเหตุตนไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ เพราะอยู่ที่สำนักงาน แต่ได้รับรายงานว่า พนักงานได้รับบาดเจ็บ และไม่มีคนติดค้าง 

ส่วนความเสียหาย มีรถยนต์ได้รับความเสียหายรวม 6 คัน ส่วนถังแก๊สหุงต้มไม่ได้เกิดการระเบิด และไม่ได้รับความเสียหาย ประเมินความเสียหายเบื้องต้นกว่า 10 ล้านบาท

ด้าน นายสมเกียรติ ศิริไพบูลย์ทรัพย์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดก๊าซหุงต้ม ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก บอกอีกว่า สาเหตุที่เกิดขึ้นและจุดต้นเพลิง จะต้องรอพิสูจน์หลักฐาน สรุปหลังเข้าไปตรวจสอบเก็บวัตถุพยานหลักฐานต่าง ๆ ในจุดเกิดเหตุ และเท่าที่ดูสถานที่เกิดเพลิงไหม้ พบว่า มียางรถยนต์ที่ไหม้ และสายที่ขนถ่ายก๊าซไหม้ ส่วนถังไม่ได้รับความเสียหาย ไม่มีการรั่วไหลของก๊าซ เซฟตี้วาล์วปิดอยู่ปกติ

คาดว่า ขณะเกิดเหตุอยู่ในกระบวนการขนถ่ายก๊าซ จากถังที่อยู่บนรถ ไปยังถังที่อยู่ภายในโรงงาน และหลังเกิดเหตุพนักงานเข้าไปปิดวาล์วได้ทันที ตามแผนเผชิญเหตุที่มีการซักซ้อม ทำให้สามารถระงับเหตุได้ และควบคุมเพลิงได้ใช้เวลากว่า 20 นาทีเท่านั้น

พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภ.7 ให้ข้อมูลว่า หลังจากได้รับรายงานจาก สภ.เดิมบางนางบวช จากการสอบสวนสาเหตุเบื้องต้นทราบว่า พนักงานจะถ่ายก๊าซจากรถบรรทุกถังก๊าซ มาใส่ถังภายในโรงบรรจุ แต่เกิดสายหลุด ทำให้มีก๊าซรั่วแพร่กระจาย จากนั้นพนักงานเป็นคนงานพยายามวิ่งมาเปิดถังน้ำเพื่อไล่ก๊าซ แต่เกิดการระเบิดทำให้ไฟไหม้ตัวได้รับบาดเจ็บ และถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล

ขอบคุณภาพจาก : เฟซบุ๊ก Kittipong Srichaicha 
เฟซบุ๊ก Kang Kang 
เฟซบุ๊ก Fire & Rescue Thailand