svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ภูมิภาค

จนท.ฟัน 4 ข้อหา ดาบตำรวจเมาแล้วขับ ซิ่งรถชนดะ 10 คัน ลากร่างเด็ก 12 เจ็บสาหัส

02 กุมภาพันธ์ 2567
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

เจ้าหน้าที่คุมตัวดาบตำรวจเมาแล้วขับ ซิ่งรถชนดะ 10 คัน ลากร่างเด็ก 12 ไปตามถนน จนบาดเจ็บสาหัส ฝากขังศาลจังหวัดร้อยเอ็ด อ่วมเจอฟัน 4 ข้อหา เจ้าตัวรับสารภาพทุกข้อหา เผยปมเครียด

2 กุมภาพันธ์ 2567 จากกรณี ดาบตำรวจสมทรง วัย 50 ปี สังกัด สภ.นาใน อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร เมาขับกระบะพุ่งชนรถจักรยานยนต์ ก่อนขับหนีลาก ด.ช.วัย 12 ปี ติดไปกับล้อรถไกลกว่า 300 เมตร ในพื้นที่ จ.ร้อยเอ็ด ตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์สูงถึง 321 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ส่วนเด็กยังอยู่ห้องไอซียู โรงพยาบาลร้อยเอ็ด เหตุเกิดเมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2567 ที่ผ่านมา 

เจ้าหน้าที่คุมตัวดาบตำรวจสมทรง ขออำนาจศาลจังหวัดร้อยเอ็ดฝากขัง
ล่าสุด ช่วงบ่ายวันนี้ (2 ก.พ.) พนักงานสอบสวน สภ.เมืองร้อยเอ็ด ได้นำตัวผู้ต้องหาฝากขังศาลจังหวัดร้อยเอ็ด และ ผู้ต้องหาได้กล่าวถึงต้นเหตุการเกิดอุบัติเหตุ เกิดจากดื่มสุรามึนเมาที่ดื่มเป็นประจำ และมีความเครียดจากปัญหาครอบครัว ที่ห่างเกินระหว่างปฏิบัติหน้าที่ บ้านอยู่ร้อยเอ็ด แต่ปฏิบัติหน้าที่ที่สกลนคร จึงเกิดความห่างเหิน ซึ่งเครียดที่สุด คือ ช่วงที่ย้ายจากอำเภอจังหาร ไป สภ.ธวัชบุรี และต่อมาย้ายจาก สภ.ธวัชบุรี ไป สภ.นาใน อ.พรรณนานิคม จ.สกลนคร ได้เพียง 8 เดือนก็ยิ่งเกิดความเครียด จนทำให้เกิดเหตุขึ้น ยอมรับว่าผิดโดยไม่โต้แย้งใดๆ 

พล.ต.ต.ทรงพล บริบาลประสิทธิ์ ผบก.ภ.จว.ร้อยเอ็ด
ด้าน พล.ต.ต.ทรงพล บริบาลประสิทธิ์ ผบก.ภ.จว.ร้อยเอ็ด เปิดเผยว่า เบื้องต้นพนักงานสอบสวนแจ้งข้อหา 1.ขับรถประมาทเฉี่ยวชนผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ และทรัพย์สินเสียหาย 2.ขับรถในขณะเมาสุรา 3.ขับรถในขณะเมาสุราก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคล แก่ผู้อื่น แล้วหลบหนี ไม่หยุดช่วยเหลือ หรือแจ้งเหตุหรือแสดงตัวต่อตำรวจอย่างทันท่วงที 4.กระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส และอีกข้อหาที่กำลังตรวจสอบคือรถที่ใช้ก่อเหตุชนคนอื่นยังไม่มีการประกันภัย และไม่มีพรบ.โดยเป็นรถของเขาเอง โดยพนักงานอสอบสวนได้สอบปากคำพยาน 4 ปาก มีประจักษ์พยาน 1 ปาก และผลการตรวจร่างกายไม่พบสารเสพติด 

"ผู้ก่อเหตุให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา ในการฝากขังคัดค้านการประกันตัว ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานให้รัดกุมมากขึ้น พร้อมกับรายงานต้นสังกัดที่ จ.สกลนคร เพื่อดำเนินการทางวินัย

ส่วนโทษทางอาญาหากศาลพิพากษาจำคุก ก็ต้องโดนไล่ออก เพราะเป็นระเบียบของตำรวจ แต่ก็ต้องรอศาลตัดสิน ส่วนจะมีการลงโทษทางวินัย ให้ออกหรือไล่ออก ก็เป็นหน้าที่ของผู้บังคับบัญชาโดยตรงจากสกลนคร เป็นผู้พิจารณาโดยไม่เกี่ยวข้องกับตำรวจร้อยเอ็ด" พล.ต.ต.ทรงพล กล่าว

พล.ต.ต.ทรงพล เปิดเผยอีกว่า เรื่องนี้ผู้บังคับบัญชาแสดงความเป็นห่วง ทางตำรวจร้อยเอ็ดก็มีการประสานความช่วยเหลือหรือสิทธิต่างๆที่ผู้เสียหายควรจะได้รับเพื่อเยียวยา โดยตำรวจจะประสานงานให้ พร้อมกับสอบถามอาการอย่างต่อเนื่อง วันนี้ได้เข้าไปพบปะเพื่อให้ความมั่นใจกับผู้เสียหายว่าตำรวจจะไม่ช่วยตำรวจด้วยกันเด็ดขาด ผิดว่าไปตามผิด

logoline