2 กุมภาพันธ์ 2567 จากกรณี ดาบตำรวจสมทรง วัย 50 ปี สังกัด สภ.นาใน อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร เมาขับกระบะพุ่งชนรถจักรยานยนต์ ก่อนขับหนีลาก ด.ช.วัย 12 ปี ติดไปกับล้อรถไกลกว่า 300 เมตร ในพื้นที่ จ.ร้อยเอ็ด ตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์สูงถึง 321 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ส่วนเด็กยังอยู่ห้องไอซียู โรงพยาบาลร้อยเอ็ด เหตุเกิดเมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2567 ที่ผ่านมา
ล่าสุด ช่วงบ่ายวันนี้ (2 ก.พ.) พนักงานสอบสวน สภ.เมืองร้อยเอ็ด ได้นำตัวผู้ต้องหาฝากขังศาลจังหวัดร้อยเอ็ด และ ผู้ต้องหาได้กล่าวถึงต้นเหตุการเกิดอุบัติเหตุ เกิดจากดื่มสุรามึนเมาที่ดื่มเป็นประจำ และมีความเครียดจากปัญหาครอบครัว ที่ห่างเกินระหว่างปฏิบัติหน้าที่ บ้านอยู่ร้อยเอ็ด แต่ปฏิบัติหน้าที่ที่สกลนคร จึงเกิดความห่างเหิน ซึ่งเครียดที่สุด คือ ช่วงที่ย้ายจากอำเภอจังหาร ไป สภ.ธวัชบุรี และต่อมาย้ายจาก สภ.ธวัชบุรี ไป สภ.นาใน อ.พรรณนานิคม จ.สกลนคร ได้เพียง 8 เดือนก็ยิ่งเกิดความเครียด จนทำให้เกิดเหตุขึ้น ยอมรับว่าผิดโดยไม่โต้แย้งใดๆ
ด้าน พล.ต.ต.ทรงพล บริบาลประสิทธิ์ ผบก.ภ.จว.ร้อยเอ็ด เปิดเผยว่า เบื้องต้นพนักงานสอบสวนแจ้งข้อหา 1.ขับรถประมาทเฉี่ยวชนผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ และทรัพย์สินเสียหาย 2.ขับรถในขณะเมาสุรา 3.ขับรถในขณะเมาสุราก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคล แก่ผู้อื่น แล้วหลบหนี ไม่หยุดช่วยเหลือ หรือแจ้งเหตุหรือแสดงตัวต่อตำรวจอย่างทันท่วงที 4.กระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส และอีกข้อหาที่กำลังตรวจสอบคือรถที่ใช้ก่อเหตุชนคนอื่นยังไม่มีการประกันภัย และไม่มีพรบ.โดยเป็นรถของเขาเอง โดยพนักงานอสอบสวนได้สอบปากคำพยาน 4 ปาก มีประจักษ์พยาน 1 ปาก และผลการตรวจร่างกายไม่พบสารเสพติด
"ผู้ก่อเหตุให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา ในการฝากขังคัดค้านการประกันตัว ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานให้รัดกุมมากขึ้น พร้อมกับรายงานต้นสังกัดที่ จ.สกลนคร เพื่อดำเนินการทางวินัย
ส่วนโทษทางอาญาหากศาลพิพากษาจำคุก ก็ต้องโดนไล่ออก เพราะเป็นระเบียบของตำรวจ แต่ก็ต้องรอศาลตัดสิน ส่วนจะมีการลงโทษทางวินัย ให้ออกหรือไล่ออก ก็เป็นหน้าที่ของผู้บังคับบัญชาโดยตรงจากสกลนคร เป็นผู้พิจารณาโดยไม่เกี่ยวข้องกับตำรวจร้อยเอ็ด" พล.ต.ต.ทรงพล กล่าว
พล.ต.ต.ทรงพล เปิดเผยอีกว่า เรื่องนี้ผู้บังคับบัญชาแสดงความเป็นห่วง ทางตำรวจร้อยเอ็ดก็มีการประสานความช่วยเหลือหรือสิทธิต่างๆที่ผู้เสียหายควรจะได้รับเพื่อเยียวยา โดยตำรวจจะประสานงานให้ พร้อมกับสอบถามอาการอย่างต่อเนื่อง วันนี้ได้เข้าไปพบปะเพื่อให้ความมั่นใจกับผู้เสียหายว่าตำรวจจะไม่ช่วยตำรวจด้วยกันเด็ดขาด ผิดว่าไปตามผิด