23 ตุลาคม 2566 จากกรณี นักโทษคดีอุกฉกรรจ์ "เสี่ยแป้ง นาโหนด" นายเชาวลิต ทองด้วง อายุ 37 ปี ก่อคดีดังหลายคดี โดยเฉพาะการปล้นตำรวจสืบสวนภาค 8 ยิงต่อสู้และชิงตัวผู้ต้องหา ศาลจังหวัดพัทลุงได้ตัดสินเป็นคดีแดงที่ อ.1861/2565 จำคุก 20 ปี 6 เดือน
นายเชาวลิต ถูกจองจำตั้งแต่วันที่ 11 ม.ค.65 ที่เรือนจำจังหวัดพัทลุง ก่อนย้ายมาอยู่ที่เรือนจำความมั่นคงสูง เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช เนื่องจากเป็นผู้มีอิทธิพล
ก่อนหน้านี้ได้แกล้งป่วย ก่อนจะหลบหนีออกจากชั้น 9 โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช เจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดกล้องวงจรปิดโรงพยาบาล พบว่า ลูกน้องคนสนิทของเสี่ยแป้ง พาหลบหนี ล่าสุดทาง กรมราชทัณฑ์ ได้ตั้งเงินรางวัลนำจับ 1 แสนบาท ตามข่าวที่เสนอไปก่อนหน้านี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ย้อนไทม์ไลน์ "เสี่ยแป้ง นาโหนด" หลบหนี
พลตำรวจตรีสมชาย ซื่อต่อตระกูล ผู้บังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ได้รับรายงานด่วนว่า มีนักโทษชื่อดังต้องคดีร้ายแรงหลายคดีหลบหนี จากการควบคุมของเจ้าหน้าที่ ในระหว่างรักษาตัวอยู่ที่ รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช ตั้งแต่เวลาประมาณ 01.00 น. วันที่ 22 ต.ค.ที่ผ่านมา และยังไม่สามารถติดตามตัวกลับมาได้
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ได้เร่งเข้าตรวจสอบตั้งแต่รับแจ้ง โดยพบข้อมูลว่านักโทษรายนี้ คือ นายเชาวลิต ทองด้วง อายุ 37 ปี หรือ เสี่ยแป้ง นาโหนด เป็นนักโทษคดีดังหลายคดี โดยเฉพาะการปล้นตำรวจ สืบสวนภาค 8 ยิงต่อสู้และชิงตัวผู้ต้องหา
คดีนี้ศาลพัทลุงได้ตัดสินเป็นคดีแดงที่ อ.1861/2565 จำคุก 20 ปี 6 เดือน เริ่มจองจำตั้งแต่วันที่ 11 มกราคม 2565 อยู่ที่เรือนจำความมั่นคงสูง เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช และได้ถูกเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ คุมตัวมาทำการรักษาทันตกรรมตามการนัดของแพทย์ เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2566
แกล้งทำป่วย วางแผนหลบหนี
หลังจากที่ส่งตัว "เสี่ยแป้ง นาโหนด" มาถึงนั้น พบว่า แพทย์ได้ทำการเลื่อนนัด เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงคุมตัวกลับ แต่ปรากฏว่า นายเชาวลิต เกิดอาการวูบหมดสติ แพทย์จึงให้เข้ารักษาตัวอยู่ที่ตึกอายุรกรรม ชั้น 6 ที่ขาทั้งสองข้างมีตรวนเหล็กพันธนาการ และเมื่อรักษาตัวบนหอผู้ป่วย เจ้าหน้าที่ยังมีโซ่ล่ามพันธนาการกับเตียงอีกชั้น
ทั้งนี้ แพทย์จะให้ออกจาก รพ.ในวันที่ 22 ต.ค. เวลา 08.30 น. แต่ปรากฏว่าหลังเที่ยงคืน นายเชาลิต หรือแป้ง ได้หลบหนีจากเครื่องพันธนาการ เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ
เบื้องต้นพบว่า นายเชาวลิต อยู่ในระหว่างการคุมตัวของเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จำนวน 2 คน คือ นายวรินทร์ (สงวนนามสกุล) และนายเอกลักษณ์ (สงวนนามสกุล)
โดยเมื่อทั้งสองคนมายังเตียงที่คุมตัวนักโทษรายนี้ ปรากฎว่า เหลือแค่โซ่สำหรับพันธนาการยึดตรวนข้อเท้า ส่วนนายเชาวลิตนักโทษ ได้หลบหนีไปพร้อมตรวน
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้เข้าตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่า นายเชาวลิต หรือ เสี่ยแป้ง ไขกุญแจ เดินออกมาจากหอผู้ป่วยลงลิฟท์จากชั้น 6 ลงไปชั้นล่างแบบลอยนวล
นอกจากนี้ยังพบอีกว่า หลังจากทราบเหตุแล้ว เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ยังไม่ได้แจ้งตำรวจทันที แต่ล่วงเลยถึง 3 ชั่วโมง หลังจากเกิดเหตุจึงเข้าแจ้ง โดยมี พันตำรวจโทมนตรี วรรณคง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งความดำเนินคดีแล้ว
ส่วนประวัติทางคดีนอกจากคดีที่มีการตัดสินของศาลจังหวัดพัทลุงที่ถูกจำคุก 20 ปี 6 เดือน คดีนี้นายเชาวลิต หรือ เสี่ยแป้ง ร่วมกับพวกได้เข้าปล้นผู้ต้องหาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน กองบังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 8 ขณะจับกุมคดียาเสพติด และยังมีคดีเกี่ยวกับความผิดต่อชีวิตชีวิตร่างกาย ความผิดต่อเจ้าพนักงานในการยุติธรรม เป็นยิงเจ้าหน้าที่บาดเจ็บ ตามคดีอาญาดำที่ อ.175/2565 อยู่ระหว่างพิจารณาคดี
นอกจากนั้นยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาอีกหลายคดี อาทิ
นอกจากนั้นยังพบข้อมูลอีกว่าเจ้าหน้าที่ ป.ป.ง. ได้เข้าอายัดทรัพย์สินของนายเชาวลิต ที่ จ.สงขลา ที่นำเอาไปฝากไว้กับพี่สาวมูลค่าสูงถึง 150 ล้านบาท หลังจากมีการเตรียมเงินไว้เป็นทุนที่นายเชาวลิต กำลังเคลื่อนไหวลงสมัคร ส.อบจ.พัทลุง โดยระหว่างเคลื่อนไหวหาเสียงนายเชาวลิต หรือแป้ง ใช้รถเบนซ์กันกระสุนเป็นพาหนะ แต่ต้องคดีร้ายแรงก่อนหลายคดี จึงต้องมาวิ่งเต้นคดีแทน
ขณะเดียวกัน แหล่งข่าวได้ให้ข้อมูลว่าการหลบหนี ของเสี่ยแป้ง ได้เตรียมการล่วงหน้าหลายวันแล้ว โดยคาดว่าน่าจะออกมาล้างแค้นผู้เกี่ยวข้องในคดีอย่างน้อย 2 คน ที่เชื่อว่าเป็นเหตุให้นายเชาวลิต หรือ เสี่ยแป้ง แพ้คดี จนต้องโทษจำคุก
ทั้งนี้ “เสี่ยแป้ง นาโหนด” ก่อคดีอุกฉกรรจ์มาอย่างโชกโชน ดังนี้