'ก๊งเหล้า' สยอง! ฆ่าทุบกระโหลก ดับคาห้องพัก

วันที่ 12 ตุลาคม 2566 เวลา 14.00 น. พ.ต.ต.สิทธิพงษ์ ปานไทสง สารวัตรสอบสวน สภ.บางพลี ได้รับแจ้งว่า มีผู้เสียชีวิตภายในห้องพัก ไม่มีชื่อ หมู่ 8 ตำบลบางปลา อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงประสานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู ให้รีบเดินทางไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุ เป็นห้องเช่า 2 ชั้น ชั้นที่ 2 ห้องหมายเลข 6 พบร่าง นายคำใน หนองแคน อายุ 52 ปี ชาวอำเภอเลิงนกทา จังหวัดยโสธร นอนเสียชีวิตอยู่ภายในห้อง สภาพสวมกางเกงในตัวเดียว มีผ้าขนหนูเปื้อนเลือดกองอยู่ที่เอว นอกจากนั้นเจ้าหน้าที่ยังพบร่องรอยบาดแผลเขียวซ้ำที่เบ้าตาขวา และที่หน้าผาก มีบาดแผลจากการถูกของแข็งกระแทก เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงประสาน แพทย์เวรจากโรงพยาบาลบางพลี เข้าร่วมตรวจสอบ และชันสูตรพลิกศพ

พญ.รมิดา อภิภูวกุลธร แพทย์เวรโรงพยาบาลบางพลี ซึ่งเป็นผู้ที่ชันสูตรพลิกศพเบื้องต้น ระบุว่า จากการตรวจสอบสภาพศพ พบบาดแผลจากการถูกทำร้ายร่างกาย ที่เบ้าตาข้างซ้ายเขียวซ้ำ ที่หน้าผากมีบาดแผลฉีกแตก คล้ายกับถูกของแข็งตี ส่วนที่ขมับข้างซ้าย มีร่องรอยยุบ จากการถูกตีด้วยของแข็ง ส่วนที่ด้านหลังศีรษะพบบาดแผลแตกคล้ายกับถูกของแข็งทุบเช่นกัน คาดเสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 5 ชั่วโมง

จากการสอบถาม นายยุรนันท์ จันทรแสน อายุ 36 ปี เพื่อนข้างห้องที่เกิดเหตุ บอกว่า ช่วงประมาณ 4 ทุ่มของคืนที่ผ่านมา ตนเองได้ยินเสียงคล้ายผู้เสียชีวิตอาเจียร์ จากนั้นไม่นาน ก็ได้ยินเสียงคล้ายกับมีการทุบพื้นห้อง จนทำให้กเดเสียงดังสนั่นหลายครั้ง ซึ่งตนเองก็ไม่ได้ออกมาดู ในใจยังคิดว่า ทำไมต้องทุบพื้นห้องหลายครั้ง ตนเองก็ไม่ได้สนใจอะไร และได้พักผ่อนอยู่ภายในห้องตามปกติ กระทั่งมาทราบอีกครั้งว่า ผู้ตายได้เสียชีวิต อย่างไรก็ตาม ตามปกติแล้ว ผู้ตายจะพักกับเพื่อนร่วมงานอีกคนชื่อ นายชัยยุทธ แต่วันนี้ออกไปทำงาน และยังไม่เห็นตัว

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เชิญตัว นายชัยยุทธ เพื่อนร่วมห้องคนตาย มาสอบปากคำเบื้องต้น ซึ่งจากการตรวจสอบ ตำรวจพบว่า นายชัยยุทธ มีบาดแผลที่เบ้าตาข้างซ้าย และบาดแผลถลอกที่หน้าผาก รวมถึงบาดแผลแตกที่หลังใบหูข้างซ้าย ตำรวจจึงเค้นสอบ จนกระทั่งนายชัยยุทธ ให้การว่า บาดแผลของตนเอง เกิดจากการถูกนายบอย ทำร้ายร่างกาย เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา หลังจากที่ นายบอย มีปากเสียงและชกต่อยกับนายคำใน (คนตาย) ระหว่างที่กำลังนั่งดื่มเหล้าที่หน้าห้องพัก พอทั้งสองมีปากเสียงกัน ก็ชวนกันลงไปชกต่อยกันที่ด้านล่าง ตนเองจึงเข้าไปห้ามปราบทั้งสอง แต่กลับถูก นายบอย ชกต่อยและทำร้ายร่างกายตนเอง กระทั่ง นายบอย หนีไป

ต่อมาตนเอง พร้อมกับนายคำใน จึงพากันกลับมาที่ห้องพัก เข้านอนกันตามปกติ กระทั่งช่วงตีห้าของวันนี้ ซึ่งจะต้องพากันตื่นไปทำงานงาน พอตนเองตื่นมา จึงปลุก นายคำใน แต่ นายคำใน ไม่ลุกและตอบกลับเพียงแค่ อืออือ.. ตอนนั้นตนเองก็ไม่ได้สนใจอะไร จึงได้อาบน้ำ แต่งตัวไปทำงาน และไปขอยาทานที่ทำงาน เนื่องจากตนเองเป็นพนักงานขับรถของโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง จนกระทั่งแปดโมง ตนเองจึงย้อนกลับมาดู นายคำใน อีกครั้ง เพราะไม่เห็นไปทำงาน และเมื่อมาถึง จึงพบว่า นายบอย ย้อนกลับมาที่ห้องอยู่กับ นายคำใน สองคน พอตนเองมาถึง นายบอย ก็ออกจากห้องไป ส่วน นายคำใน ตนเองเห็นว่านอนหลับอยู่ จึงออกไปทำงานตามปกติ และแวะมาดูอีกครั้งช่วงพักเที่ยง และมาครั้งนี้ พบว่า นายคำใน นอนตัวแข็งเสียชีวิตแล้ว จึงแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ

ทั้งนี้ ตนเองยืนยันว่า ไม่ใช่คนที่ทำร้าย นายคำใน จนถึงแก่ความตาย ส่วนก้อนหินที่แตกอยู่ในห้องน้ำ นายชัยยุทธ ให้การอ้างว่า ถูก นายบอย เอาก้อนหินดังกล่าว มาทำร้ายตนเองเมื่อช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา ตำรวจยังไม่เชื่อคำให้การของ นายชัยยุทธ จึงเชิญตัวไปสอบปากคำ และเก็บตัวอย่าง DNA เอาไว้เป็นหลักฐานทางนิติวิทยาศาตร์ 

ส่วน นายบอย ที่มีการกล่าวอ้างนั้น ทราบว่า มีตัวตนจริง และมีพยานพบเห็น นายบอย มาดื่มเหล้าตั้งแต่ช่วงค่ำ ก่อนเกิดเรื่อง ซึ่ง นายบอย เคยเป็นเพื่อนร่วมงานกับ นายชัยยุทธ มาก่อน จึงมักมาหามาดื่มเหล้าด้วยกันบ่อย ฝ่ายสืบสวนจึงไปตรวจสอบที่พักของ นายบอย แต่ไม่พบตัว ขณะนี้ ทราบตัว นายบอยแล้ว อยู่ระหว่างติดตามตัวมาสอบปากคำ ส่วนร่างผู้เสียชีวิตเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มอบให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูนำส่งไปชันสูตรที่ โรงพยาบาลรามาธิบดีจักรีนฤบดินทร์สมุทรปราการ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป