วันที่ 27 กันยายน 2566 จากกรณีที่คณะจาก ปปช. ได้เดินทางมาดูความคืบหน้า โครงการสนามกีฬาภาคตะวันออก ขนาด 371 ไร่ ความจุขนาด 20,000 ที่นั่ง งบประมาณกว่า 774 ล้านบาท พื้นที่ หมู่ 4 ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังได้รับร้องเรียนว่า โครงการดังกล่าวใช้เวลาสร้างมานานถึง 15 ปี หรือตั้งแต่ปี 2551 แต่ก็ยังไม่แล้วเสร็จ เหมือนถูกปล่อยทิ้งร้าง ที่สำคัญคืออุปกรณ์เครื่องใช้ภายในอาคารชำรุดเสียหาย เนื่องจากขาดการดูแลเฝ้าระวัง ทั้งที่โครงการนี้มีเป้าหมายเป็นศูนย์รวมการแข่งขันกีฬาทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับประเทศที่มีมาตรฐานสากล โดยมีแผนก่อสร้างระหว่างปี 2551-2560
วันนี้ นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา พร้อมด้วย นายกิตติพงศ์ ขลิบแย้ม ผู้อำนวยการสำนักงาน ปปช. จ.ชลบุรี คณะผู้บริหาร และสมาชิกสภาเมืองพัทยา รวมทั้งผู้รับจ้างก่อสร้างโครงการสนามกีฬาฯ ร่วมกันแถลงข่าวความคืบหน้าของการก่อสร้าง ระบุว่า ปัจจัยที่ทำให้โครงการนี้ล่าช้ามาตั้งแต่ปี 2551 มาจากหลายสาเหตุ แม้ว่าเมืองพัทยาจะได้รับงบประมาณอุดหนุนผูกพันจากรัฐบาลหลายปี ทั้งเรื่องของพื้นสนามที่มีลักษณะเป็นหินขนาดใหญ่ ยากต่อการขุดเจาะ หรือปัญหาแรงงานจากสถานการณ์โรคโควิด-19 ส่งผลผู้รับจ้างทิ้งงานไป แม้จะใช้งบประมาณไปแล้วกว่า 700 ล้านบาท แต่โครงการก็ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันเมืองพัทยาได้เสนอของบประมาณจากสภาเมืองพัทยา เพื่อสรรหาผู้รับจ้างรายใหม่เข้ามาดำเนินการ เพื่อให้โครงการแล้วเสร็จให้ได้ในสมัยนี้
จากการประกวดราคาได้ บริษัท กรีนทั้มบ์ จำกัด ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในการก่อสร้างสนามกีฬาระดับชาติหลายแห่ง อย่างสนามกีฬารังสิต การปรับปรุงสนามศุภชลาสัย เข้ามารับผิดชอบโครงการ ภายใต้งบประมาณ 329,800,000 บาท ในแผนงานระยะที่ 3 (ส่วนที่เหลือ) โดยจะเข้ามาก่อสร้าง ซ่อมแซม และปรับปรุงอัฒจรรย์เพิ่มเติมอีก 2,500 ที่นั่ง การซ่อมแซมตัวอาคาร ครุภัณฑ์ พัสดุ สนามกีฬา ทั้งประเภทลู่และลานที่ใช้ในการแข่งขัน ซึ่งมีกำหนดตามข้อสัญญาการก่อสร้างไว้เป็นเวลา 820 วัน ตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2566 - 27 พฤศจิกายน 2568
ทั้งนี้จากการหารือร่วมกันหลายฝ่าย ทำให้เกิดความมั่นใจว่าจะสามารถก่อสร้างโครงการให้เสร็จได้ตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ ด้วยโครงการมหากาพย์นี้เป็นโครงการที่ประชาชนให้ความสนใจ เนื่องจากก่อสร้างเรื้อรังมานานกว่า 15 ปี ดังนั้นคงถึงเวลาแล้วที่โครงการจะต้องแล้วเสร็จตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด แต่หากพ้นสัญญาที่ระบุไว้ ทางบริษัทฯผู้รับจ้างต้องเสียค่าปรับสูงถึงวันละ 3 ล้านบาท ซึ่งเรื่องนี้ทางผู้รับเหมาเองก็มีความมั่นใจในการวางแผนงาน รวมถึงความชำนาญในการจัดสร้างสนามกีฬาระดับชาติอีกด้วย
นายกเมืองพัทยา กล่าวต่อไปว่า ต่อจากนี้คงมีการเร่งรัดและติดตามการก่อสร้างรวมกับสำนักงาน ปปช.จังหวัดชลบุรี ที่จะเข้ามาช่วยดูแลการจัดสรรงบประมาณและการก่อสร้าง เพื่อให้มีความคืบหน้าตามแผนงาน รวมทั้งมีการใช้งบประมาณอย่างโปร่งใส โดยโครงการนี้ในช่วงแรกคงจะเปิดใช้สนามกีฬาขนาด 20,000 ที่นั่งได้ตามเป้าหมาย ส่วนการแข่งขันได้ในระดับชาติ ระดับอาเซียน หรือเอเซียนั้น ได้มีการตั้งโครงการเพื่อขอจัดสรรงบประมาณอุดนุนจากรัฐบาลในการก่อสร้างสนามฝึกซ้อมและสนามอื่นๆ ที่วางไว้ตามแบบเดิม ทั้งสนามจักรยาน สระว่ายน้ำ หรืออาคารกรีฑาในร่ม ซึ่งจะเป็นโครงการในระยะยาวต่อไป
ขณะที่ นายกิตติพงศ์ ขลิบแย้ม ผู้อำนวยการสำนักงาน ปปช. จ.ชลบุรี กล่าวว่า โครงการนี้ได้รับการร้องเรียนมาอย่างต่อเนื่องว่ามีความล่าช้า การก่อสร้างไม่เป็นไปตามแบบแปลนที่กำหนด จึงเข้ามาร่วมตรวจสอบในเรื่องการใช้จ่ายงบประมาณ เพราะมีการเบิกจ่ายงบประมาณเกินกว่า 100 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้โครงการสามารถเดินไปได้ด้วยความสะดวก โดยมีการใช้จ่ายงบประมาณที่คุ้มค่าและปลอดจากปัญหาทุจริต ทางสำนัก ปปช.จังหวัดชลบุรี จึงร่วมกับเมืองพัทยา ในการเข้ามาติดตามโครงการนี้อย่างจริงจัง เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อไป