ย้าย ลูกช้างป่า เข้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว หลังพลัดหลงโขลง-แม่ยังไม่มารับ
จนท.ขสป.ภูวัว ย้ายลูกช้างป่าวัย 2 เดือนที่พลัดหลงโขลง แม่ยังไม่มารับ เข้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว เนื่องจากสภาพอากาศมีฝนตกเป็นระยะ หวั่นน้องป่วย และเพื่อง่ายต่อการดูแล-รักษา ในช่วงที่เจ้าหน้าที่ตามหาโขลงของแม่ช้าง ขณะที่ลูกช้างมีการร้องเรียกหาแม่เป็นช่วงๆ
13 กันยายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากชาวบ้านเทพมีชัย พบโขลงช้างป่าออกนอกพื้นที่ป่าอนุรักษ์ และพบลูกช้างป่าพลัดหลงโขลง บริเวณริมป่านาตู้ดำ ท้องที่บ้านเทพมีชัย ม.7 ต.หนองเดิ่น อ.บุ่งคล้า จ.บึงกาฬ และวานนี้สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 10 (อุดรธานี) ร่วมกับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว จ.บึงกาฬ ว่าได้เข้าตรวจสอบโดยทันที เมื่อถึงบริเวณที่รับแจ้ง พบลูกช้างป่า จำนวน 1 ตัว เพศเมีย อายุประมาณ 2 เดือน และตรวจสอบโดยรอบไม่พบโขลงช้างแต่อย่างใด
เบื้องต้นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว ได้ประสานการปฏิบัติกับเจ้าหน้าที่สัตวแพทย์ ประจำสำนักฯ 10 จัดทำคอกให้กับลูกช้างในบริเวณที่พบลูกช้างป่า และเฝ้าสังเกตการณ์ว่าจะมีโขลงของแม่ช้างกลับมารับลูกช้างหรือไม่ กระทั่ง จนถึงเช้าวันนี้ ก็ยังไม่มีโขลงช้างกลับมายังพื้นที่พลัดหลงแต่อย่างใด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ขณะที่ชุดเคลื่อนที่เร็วและชุดลาดตระเวนของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว ออกติดตามโขลงช้างในพื้นที่ใกล้เคียงปรากฏว่า ไม่พบโขลงช้าง สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 10 (อุดรธานี) ร่วมกับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว จ.บึงกาฬ จึงปรับแผนการดูแลลูกช้าง เนื่องจากสภาพอากาศ มีฝนตกลงมาเป็นระยะๆ และหวั่นลูกช้างป่วย จึงทำการขนย้ายลูกช้างด้วยรถยนต์ ออกจากพื้นที่ที่พบลูกช้าง เข้าไปไว้ที่บริเวณภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว ที่บ้านขามเบี้ย ต.บุ่งคล้า อ.บุ่งคล้า เพื่อง่ายต่อการดูแล ในช่วงที่เจ้าหน้าที่ติดตามหาโขลงของแม่ช้าง และสะดวกต่อการรักษาลูกช้างของเจ้าหน้าที่สัตวแพทย์ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 10 (อุดรธานี) ที่เดินทางมาดูแลลูกช้างป่า
ซึ่งในวันนี้พบว่าลูกช้างมีอาการอ่อนเพลีย ท้องเสียถ่ายเหลว และมีบาดแผลขุดขีดตามร่างกาย ซอกคอ ใบหู จากการขุดกับกิ่งไม้ภายในคอก โดยรวมสมบูรณ์ดี แต่มีการร้องเรียกหาแม่ เป็นช่วงๆ
