เมีย "ป๋าสาร์จ" เชื่อ ฆาตกรวางแผนฆ่าล้างหนี้ ลั่นไม่ขอให้อภัย
ภรรยา "ป๋าสาร์จ" เจ้าพ่อเงินกู้ ชี้ ผู้ก่อเหตุโหดมากที่ลงมือกับคนไม่มีทางสู้ เชื่อเป็นการวางแผนฆ่าล้างหนี้ ทั้งที่ป๋าสาร์จให้ความช่วยเหลือ ไม่ขอให้อภัยและไม่ต้องมาขอขมา ขอให้โทษถึงประหารชีวิต
31 สิงหาคม 2566 เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ศาลาการเปรียญ วัดใหม่จัทาราม เขตเทศบาลเมืองอุทัยธานี ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งศพของ นายอนันตสิน หรือป๋าสาร์จ อายุ 62 ปี เจ้าพ่อเงินกู้ในพื้นที่จังหวัดลำปาง ที่ถูกเจ้าของร้านบะหมี่เกี๊ยวซึ่งเป็นลูกหนี้ ใช้ฆ้อนทุบหัวฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยม เพื่อล้างหนี้ โดยญาตินำศพมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่จังหวัดอุทัยธานี ซึ่งเป็นบ้านเกิดของป๋าสาร์จ คืนนี้เป็นคืนที่ 2 ซึ่งจะตั้งศพบำเพ็ญกุศลรวม 4 คืน และมีพิธีฌาปนกิจศพในวันที่ 3 สิงหาคม 2566 เวลา 16.00 น. ณ ฌาปนสถานวัดใหม่จันทาราม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บรรยากาศยังคงเป็นไปด้วยความโศกเศร้าเสียใจ โดยเฉพาะ นางลาวัน อายุ 51 ปี ภรรยา ยังทำใจไม่ได้และร้องไห้ตลอดเวลา ที่สามีด่วนจากไปด้วยการถูกฆ่าอย่างโหดร้ายทารุณ ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวพบว่า มีญาติพี่น้องของป๋าสาร์จในพื้นที่จังหวัดอุทัยธานี นครสวรรค์ สระบุรี และญาตินางลาวัน เดินทางจากจังหวัดลำปาง มาแสดงความอาลัยและและร่วมให้กำลังใจกับภรรยาของป๋าสาร์จ
นางลาวัน เล่าว่า จากที่มีคนให้ฉายาว่าป๋าสาร์จเป็นเจ้าพ่อเงินกู้ ยอมรับว่าเป็นเรื่องจริง แต่เป็นเรื่องนานมาแล้ว หลายสิบปี ตอนนี้เลิกทำและไม่มีลูกน้องแล้ว เป็นการปล่อยเงินกู้ด้วยตัวเองครั้งละไม่มาก และให้กู้เฉพาะที่คนมีความเดือนร้อน คนคุ้นเคย ส่วนคนที่ลงมือฆ่าก็เป็นรู้จักมักคุ้น ป๋าสาร์จไม่เคยทวงถามหรือทำให้ผู้กู้โกรธเคืองแต่อย่างไร
การฆาตรกรรมครั้งนี้เชื่อวางแผนมาก่อนแน่นอน และจากการดูภาพวงจรปิด เป็นภาพที่เห็นยังทำใจไม่ได้ เป็นการกระทำที่โหดร้ายป่าเถื่อน ฆ่าคนไม่มีทางสู้ จะไม่ขอให้อภัยและไม่ต้องมาขอขมาใดๆ ทั้งสิ้น ตนเองดีใจที่ตำรวจไปขออำนาจศาลออกหมายจับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งทางตำรวจส่งข่าวมาว่าจะสามารถจับฆาตรกรโหดรายนีได้โดยเร็ว ก็ขอให้เป็นหน้าที่ของตำรวจเจ้าของคดี และขอฝากให้ตำรวจจับตัวคนร้ายมาให้ได้โดยเร็ว
"ส่วนตัวก็อยากถามคนร้ายว่าทำไมถึงต้องฆ่า มาคุยกันดีๆก็ได้ในเรื่องเงินกู้ จะมาผ่อนผันก็คุยกันได้ ป๋าสาร์จไม่ได้เป็นคนโหดร้ายหรือมีการทวงถามแต่อย่างใด ทำไมมาทำกันอย่างนี้ สุดท้ายถ้านำตัวมาได้ขอให้ตำรวจดำเนินคดีถึงที่สุด ให้โทษถึงประหารชีวิต" นางลาวัน กล่าว
