svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ทั่วไทย

รวบแล้ว คนร้ายขโมยทารกจาก รพ. เจ้าตัวอ้างคิดว่าเป็นลูก ตร.ยังไม่ปักใจเชื่อ

พบแล้ว หนูน้อยวัย 2 วัน ที่หายตัวจาก รพ.บางเลน ตำรวจตามรวบคนร้ายที่อุ้มออกไป พบอยู่ตรงข้ามบ้าน "น้องต่อ" ที่หายตัวจนเป็นข่าวดังก่อนหน้านี้ ส่อรื้อคดี ขณะที่เจ้าตัวยังให้การวกวน อ้างคิดว่าเป็นลูก จะรับกลับมาบ้านเพื่อเลี้ยงดู แต่ ตร.ยังไม่ปักใจเชื่อ

13 สิงหาคม 2566 ความคืบหน้ากรณี นายพงศธร อายุ 28 ปี เข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ.อุทิศ เหล่าหา พนักงานสอบสวน สภ.บางเลน จ.นครปฐม ว่า ลูกชาย อายุเพียง 2 วัน  หายตัวไปจากห้องคนไข้รวมของโรงพยาบาลบางเลน ขณะนอนอยู่ข้าง น.ส.ยุภารัตน์ อายุ 26 ปี ผู้เป็นแม่ เมื่อกลางดึกของคืนที่ผ่านมา จากนั้นตำรวจไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดจนพบชายต้องสงสัยในเวลาเกิดเหตุ จึงเร่งติดตามหาตัวผู้ก่อเหตุและหนูน้อยที่ถูกลักพาตัวไป 

ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังโรงพยาบาลบางเลน พบกับ น.ส.ยุพารัตน์ แม่ของเด็กที่หาย เล่าว่า ตอนตี 3 ครึ่ง ยังให้น้องกินนมอยู่ แล้วก็เผลอหลับไป ตื่นมาอีกทีตอนตี 4 น้องหายไปแล้ว จึงรีบแจ้งทางโรงพยาบาล ทางโรงพยาบาลจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้ามาตรวจสอบ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ต่อมา พล.ต.ต.จักรกฤษ เครือสุนทรวานิช ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม ได้ลงพื้นที่ด้วยตัวเอง และสั่งการให้ พ.ต.อ.อภิศักดิ์ กำเนิด ผู้กำกับการ สภ.บางเลน  , ชุดสืบสวน สภ.บางเลน พร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน 7 เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยได้เก็บบันทึกกล้องวงจรปิด , ลายนิ้วมือ , หลักฐานอื่นๆ รวมถึงเส้นทางเข้าออกภายในโรงพยาบาล ท่ามกลางครอบครับและญาติของผู้เสียหายที่ได้มารวมตัวกันที่โรงพยาบาลเพื่อมาติดตามความคืบหน้า 

ขณะเดียวกันหลังญาติๆ ของเด็กที่หายไปทราบเรื่อง ได้นำข้อมูลที่ได้จากกล้องวงจรปิดแจ้งไปยังผู้นำท้องถิ่น เพื่อให้ช่วยตามหา และมีการโพสต์ลงสื่อโซเชียลเพื่อขอเบาะแสจากผู้ที่อาจพบเห็น กระทั่งได้ข้อมูลว่าบุคคลต้องสงสัยที่ปรากฎในภาพนั้น บ้านอยู่ ม.6 ต.หินมูล อ.บางเลน โดยอยู่ตรงข้ามกับบ้านน้องต่อ เด็กชายอายุ 8 เดือนที่หายไปเมื่อหลายเดือนก่อน ตำรวจจึงบุกเข้าจับกุม พบคนร้ายคือ นายนันทจักษ์ อายุ 43 ปี อยู่พร้อมกับเด็ก  จึงควบคุมตัวส่ง สภ.บางเลน เพื่อสอบสวนขยายผลต่อไป เพราะอาจเชื่อมโยงกับคดีน้องต่อ 
รวบแล้ว คนร้ายขโมยทารกจาก รพ. เจ้าตัวอ้างคิดว่าเป็นลูก ตร.ยังไม่ปักใจเชื่อ
ส่วนเด็กเบื้องต้นปลอดภัยดี ตำรวจรีบนำตัวส่งกลับโรงพยาบาลบางเลน เพื่อตรวจเช็คร่างกายอย่างละเอียด ซึ่งวินาทีที่ตำรวจอุ้มหนูน้อยวัย 2 วัน ลงจากรถยนต์และมอบให้พยาบาล น.ส.ยุภารัตน์ ผู้เป็นแม่ ที่นั่งรออยู่หน้าโรงพยาบาล ถึงกับกลั้นน้ำตาไม่อยู่ และรีบเดินตามไปดูลูกชายในสภาพที่ยังไม่แข็งแรง เพราะเพิ่งผ่านการคลอดบุตรมา ทำให้หลายฝ่ายและประชาชนที่ทราบข่าวถึงกับโล่งอกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ขณะที่ ป้าของเด็ก เปิดเผยว่า แม่ของน้องโทรมาบอกว่าเด็กหาย ไม่รู้ใครเอาไป ตนเองจึงเดินทางมาที่โรงพยาบาล ซึ่งตอนนั้นตำรวจมาถึงแล้ว พบภาพจากกล้องว่ามีผู้ชายมาอุ้มไป ส่วนตัวก็ร้อนรนอยากเจอน้องเร็วๆ พ่อของตนเอง จึงโทรศัพท์ไปหาหัวหน้า และมีการโพสต์ลงเพจข่าวสารบางเลน จากนั้นมีคนแจ้งว่าคนร้ายอยู่หินมูล อยู่ตรงข้ามบ้านน้องต่อ ตำรวจจึงตามไปและพบชายคนดังกล่าว 

ด้าน นายอลงกรณ์ เพชรดี กำนันตำบลบางภาษี เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านเมื่อประมาณ 7 โมงเช้า ให้ช่วยตามหาเด็กที่หายไป ซึ่งครอบครัวของเด็กนั้นเป็นลูกบ้านตนเอง จึงประสานลงโซเชียล และมีผู้แจ้งเบาะแสเข้ามา กระทั่งตำรวจเข้าไปตรวจสอบสอบและสามารถพาเด็กกลับมาสู่อ้อมอกพ่อแม่ได้

ขณะที่ นายพงษธร พ่อของเด็ก เล่าว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นประมาณ 03.50 น.ของเมื่อคืนนี้  ภรรยาถามว่าอุ้มลูกไปหรือไม่ ตนเองซึ่งนอนอยู่ข้างๆ บอกว่าไม่ได้อุ้มไป จึงไปสอบถามพยาบาล ก็แจ้งว่าไม่ได้อุ้มไป จากนั้นไปดูที่ห้องฉุกเฉินก็ไม่ได้รับตัวมา จึงรีบโทรศัพท์แจ้งตำรวจ ต่อมาได้ดูกล้องวงจรปิดก็พบชายร่างสูงมาส่องดู เมื่อเห็นว่าไม่มีคนก็เปิดห้องเข้ามา แล้วนำเด็กใส่กระเป๋าสีดำเดินออกไป ตนเองดีใจมากที่ตำรวจพบลูก ทราบว่าอยู่ใกล้บ้านน้องต่อที่หายไป 
ผู้ก่อเหตุ
ส่วนที่ สภ.บางเลน พ.ต.อ.อภิศักดิ์ ผู้กำกับการ สภ.บางเลน ได้ควบคุมตัว นายนันทจักษ์ ผู้ก่อเหตุ มาสอบสวน ปรากฎว่าให้การวกไปวนมา เมื่อตรวจสอบประวัติเสพยาเสพติด เบื้องต้นนายนันทจักษ์ให้การว่า คิดว่าเด็กเป็นลูกของตัวเอง จะรับกลับมาบ้านเพื่อเลี้ยงดู แต่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ และได้ขยายผลย้อนกลับไปถึงมูลเหตุทั้งหมด ซึ่งต้องใช้เวลาสักระยะ และจะตรวจสอบย้อนหลังกลับไปที่คดีของการหายตัวของน้องต่อ เนื่องจากบ้านผู้ก่อเหตุอยู่ไม่ห่างกับบ้านของน้องต่อ 

ทั้งนี้ พล.ต.ต.จักรกฤษ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม ได้สั่งการให้เร่งสอบปากคำอย่างละเอียด ทั้งแม่เด็ก คนรอบข้างทั้งหมด รวมถึงเรียกดูบัญชีธนาคารเพื่อดูพฤติกรรมที่เกี่ยวข้อง ว่าใครมีบัญชีที่น่าสงสัยในช่วงนี้ ซึ่งจะเป็นการทำคดีอย่างละเอียดตั้งแต่วันแรกที่เกิดเหตุ เพื่อเป็นแนวทางการคลี่คลายปมข้อสงสัยทั้งหมด โดยมีแนวทางมาจากกรณีการหายตัวของน้องต่อ โดยหากใครมีการปกปิดหรือให้การเท็จ จะสั่งการดำเนินคดีอย่างหนักทันที และมีแนวโน้มว่าอาจเชื่อมโยงไปถึงคดีของน้องต่อด้วย เนื่องจากมีลักษณะการหายตัวที่คล้ายกันมาก 

ส่วนอาการของเด็กทารกวัย 2 วัน หลังมีการรับตัวมาแล้ว ทีมแพทย์พบว่ามีอาการติดเชื้ออย่างรุนแรง ต้องให้เร่งให้ยาฆ่าเชื้อและออกซิเจน จากนั้นได้นำตัวส่งต่อไปยังโรงพยาบาลนครปฐม เนื่องจากอาการเริ่มไม่ดี ซึ่งหากพบตัวช้าเกินไป เด็กอาจเสียชีวิตได้ แต่ขณะนี้อยู่ในการดูแลของทีมแพทย์อย่างใกล้ชิดแล้ว

ตร.คุมผู้ต้องหาขโมยเด็กทารก ทำแผนฯ - เร่งสอบปมพบบัญชีมีการเคลื่อนไหวน่าสงสัย 

ภาพจากวงจรปิด
ต่อมา พ.ต.อ.อภิศักดิ์ กำเนิด ผกก.สภ.บางเลน ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ชุดจราจร ทำการปิดกั้นพื้นที่ด้านหน้า รพ.บางเลน เพื่อนำตัวนายนันทจักษ์ มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ซึ่งจำนนด้วยหลักฐานจากกล้องวงจรปิด โดยมีญาติของพ่อแม่ของเด็กทารกที่ถูกนายนันทจักษ์ขโมย ที่ไม่พอใจมารอดูการทำแผน ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องทำการเร่งรัดในการดำเนินการ และควบคุมความปลอดภัยมากเป็นพิเศษ
ตำรวจคุมตัวผู้ต้องทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
ซึ่งนายนันทจักษ์ ได้เข้าทำแผน โดยขับขี่รถ จยย.มาจอดที่หน้าห้องฉุกเฉินเก่าก่อนจะเดินเข้าตามทางเดินและเลี้ยวขวาไปยังห้องพักฟื้น แต่ช่วงเลี้ยวซ้ายที่จะไปที่ห้องกลับเดินออกไปอีกทาง เนื่องจากมีช่องที่มองเห็นภายในห้องพักฟื้น จนกระทั่ง แน่ใจและได้เดินกลับเข้าไปที่ห้องและอุ้มเด็กทารกออกมาที่หน้าห้องและจับใส่เข้ากระเป๋าสีดำ ที่นำมาด้วยก่อนจะเดินหิ้วออกมาทางเดิม เพื่อมาขี่รถ จยย.ออกไปจากด้านหน้า ซึ่งเด็กไม่ได้ส่งเสียงร้องแต่อย่างใด 

ช่วงที่มีการทำแผน ทางญาติและชาวบ้านที่มาร่วมมุงดูต่างเริ่มมีอารมณ์มากขึ้น หลายคนพยายามตะโกนถามว่า ผู้ต้องหากระทำลงไปเพราะอะไร แต่นายนันทจักษ์ ยังอยู่ในอาการนิ่งสงบและทำแผนประกอบคำรับสารภาพได้ตรงกับที่สารภาพกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้รีบควบคุมตัวออกไปอย่างรวดเร็ว 

ขณะที่ในชั้นการสอบสวนเจ้าหน้าที่ได้ทำการสอบปากคำในประเด็นที่สงสัยอีกหลายเรื่อง โดยเจ้าตัวได้บอกว่า ที่ต้องการเด็กไปเลี้ยงก็เพราะเป็นกลุ่มสาวประเภทสอง อยากจะหาเด็กไปเป็นลูกเนื่องจากตนเองไม่สามารถมีลูกได้ แต่เมื่อช่วงเช้ายังให้การว่าตนเองเป็นแม่เด็กและมารับกลับบ้าน ซึ่งยังให้การวกวนในข้อสรุปถึงแรงจูงใจ แต่สิ่งที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสนใจคือ สมุดบัญชีของผู้ต้องหามีหลายเล่ม และแต่ละเล่มก็มีเงินหมุนเวียนอยู่ครบ โดยจะสืบสวนหาที่มาที่ไปของเงินมาจากทางใดและได้มาอย่างไร

อีกส่วน คือ การที่จะนำคดีดังกล่าวมาเปรียบเทียบกับคดี "น้องต่อ" ซึ่งลักษณะการหายตัวคล้ายกันมากซึ่ง นายนันทจักษ์ ก็เคยถูกสอบปากคำในช่วงที่น้องต่อหายตัวไปด้วย แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาที่ชัดเจนออกมา ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงการขยายผลอย่างละเอียด