ชาวนาบ่นดัง ๆ เมื่อไหร่จะตั้งรัฐบาลได้ น้ำท่วมนาเป็นหนี้นับแสน ไร้ที่พึ่ง

8 สิงหาคม 2566 ที่ จ.นครพนม สถานการณ์ฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ นอกจากจะทำให้ แม่น้ำโขง มีระดับสูงขึ้น จากปัจจัยเขื่อนในประเทศจีนปล่อยน้ำ และประเทศเพื่อนบ้าน สปป.ลาว ฝนตกกระหน่ำ จนเกิดดินภูเขาสไลด์ทับถนนสายหลัก ได้รับความเสียหาย

มวลน้ำจึงไหลสมทบกับแม่น้ำโขง รวมถึงลำน้ำสาขาสายหลัก ไม่สามารถระบายได้สะดวก จึงเอ่อล้นท่วมพื้นที่นาข้าวของเกษตรกร ได้รับความเสียหายเกือบ 5,000 ไร่ สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวนา ที่เพิ่งผ่านการปักดำได้เพียงไม่กี่สัปดาห์ ที่เจอฝนเทกระหน่ำท่วม จนไม่เห็นยอดต้นกล้า 

 

โดยชาวนาในพื้นที่ ต.น้ำก่ำ อ.ธาตุพนม ถือว่าได้รับผลกระทบหนักสุด หลังลำห้วยกุดโดน ที่ไหลระบายลงน้ำโขง เอ่อล้นท่วมพื้นที่นาข้าวเกือบ 4,000 ไร่ แม้ทางจังหวัดนครพนม จะมีการสำรวจเยียวยาชดเชย ไร่ละ 1,340 บาท รายละไม่เกิน 30 ไร่ สำหรับชาวนาที่ได้รับผลกระทบ รวมถึงการแจงถุงยังชีพบรรเทาความเดือดร้อน ก็ยังไม่คุ้มกับต้นทุนที่ทำลงไป 
 

ทั้งนี้ เกษตรกรชาวนา ได้สะท้อนปัญหาไปยังรัฐบาล ระบุว่า การชดเชยเยียวยา ถือเป็นการแก้ไขปัญหาปลายเหตุ รวมถึงเป็นการดูแลให้กำลังใจเท่านั้น เพราะปัญหาสำคัญคือ ภาระต้นทุนการเกษตร การลดราคาน้ำมันแพง ราคาปุ๋ยที่แพงทุกปี ดังนั้นการลดต้นทุนการเกษตร ที่มีราคาสูง รวมทั้งแก้ปัญหา ราคาผลผลิตการเกษตรตกต่ำ ถือเป็นความหวังของชาวนา ที่รอการแก้ไขจากรัฐบาลใหม่ หลังหมดความหวังกับรัฐบาลที่ผ่านมา

หลังมีการเลือกตั้ง ก็อยากเห็นการบริหารของผู้นำคนใหม่ แต่สุดท้ายต้องผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำอีก เนื่องจากยังวุ่นวาย กับการจัดตั้งรัฐบาลไม่จบ มองว่าเป็นการช่วงชิงอำนาจ สุดท้ายประชาชน ไม่ได้ประโยชน์อะไร แถมไร้ที่พึ่ง เหมือนเรือที่ลอยอยู่กลางทะเล มองหาฝั่งไม่เจอ ถึงเวลาเดือดร้อน ไม่มีรัฐบาลมาแก้ไขปัญหา

พร้อมเรียกร้องไปยังนักการเมือง และผู้มีอำนาจ ให้มีการจัดตั้งรัฐบาลจบโดยเร็ว ลดปัญหาความขัดแย้ง และมองประชาชนเป็นที่ตั้ง เพราะความหวังคือการมีรัฐบาลใหม่ ที่มีศักยภาพในการแก้ปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกร ไม่ต้องมาแบกภาระหนี้สิน อย่าให้ผิดหวังซ้ำซาก 

 

นางสมภาร คะเนนิล อายุ 58 ปี ตัวแทนเกษตรกร พื้นที่ ต.น้ำก่ำ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม เปิดเผยว่า ปีนี้ถือว่าเคราะห์ซ้ำกรรมซัด ทำนาประมาณ 15 ไร่ ถูกน้ำท่วมเสียหายหมด ลงทุนนับแสนบาท ต้องเป็นภาระหนี้สินเพิ่ม ส่วนการดูแลชดเชยเยียวยาต่อไร่ เป็นเรื่องดีแต่ไม่คุ้มทุน เพราะได้คืนเพียงบางส่วน และเป็นขวัญกำลังใจเท่านั้น

สิ่งสำคัญความหวังของชาวบ้านคือ การแก้ปัญหาราคาสินค้าการเกษตรตกต่ำ ราคาข้าวตกต่ำ ควรลดต้นทุนปุ๋ยราคาแพง น้ำมันแพง โดยการเลือกตั้งที่ผ่านมา เป็นความหวังที่จะมีรัฐบาลใหม่มาแก้ไขปัญหา สุดท้ายทุกข์ซ้ำ ตั้งรัฐบาลไม่สำเร็จ เกิดความสับสนวุ่นวาย พอถึงเวลาชาวบ้านเดือดร้อนไร้ที่พึ่ง ไม่มีรัฐบาลมาดูแลแก้ไข วิงวอนให้รัฐบาล มองปัญหาความเดือดร้อนประชาชนเป็นหลัก เร่งจัดตั้งรัฐบาลให้จบ เพื่อมาดูแลช่วยเหลือ พี่น้องเกษตรกรอย่างจริงจัง