ตร.ทางหลวง รวบแก๊งค้าลิงข้ามชาติ แอบจับส่งนายทุน อ้างทำนาแล้วรายได้มีดี

18 มิถุนายน 2566 ที่ จ.สุพรรณบุรี เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ตำรวจทางหลวงศรีประจันต์ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม การกระทำความผิดเกี่ยวกับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา "ค้าลิงข้ามชาติ" ยึดของกลางลิงแสม 33 ตัวและซากลิง 1 ตัว 

ด.ต.สุทัศน์ ทองไทย หัวหน้าหน่วยบริการประชาชน ตำรวจทางหลวงศรีประจันต์ เปิดเผยว่า พ.ต.ท.อิทธิศักดิ์ ค้ำคูณ สารวัตรทางหลวงกาญจนบุรี ได้รับการประสานจาก พ.ต.ท.คำนวณ จันทร์อนันต์ รอง ผกก.บก.ปทส. ว่า มีผู้ลักลอบล่าสัตว์ป่าคุ้มครองประเภทลิงแสม นำใส่รถยนต์ยี่ห้อ ฟอร์ด เรนเจอร์ หมายเลขทะเบียนพิจิตร สีขาว เพื่อจะนำไปส่งให้ลูกค้าที่ได้นัดหมายไว้ 

 

ใช้เส้นทางจาก จังหวัดราชบุรี ผ่าน จังหวัดสุพรรณบุรี ทางหลวงหมายเลข 340 ผ่าน จังหวัดสุพรรณบุรี มุ่งหน้าจังหวัดสระแก้ว จึงสั่งการให้ตำรวจทางหลวงกาญจนบุรี - สุพรรณบุรี ทำการตรวจสอบ หลังได้รับคำสั่ง รถวิทยุคันหมายเลข 2622 ได้ออกตรวจสอบเขตพื้นที่รับผิดชอบ

พบรถยนต์คันดังกล่าว มีหลังคาแครี่บอย ปิดฝาท้ายมิดชิด กำลังวิ่งอยู่บนถนนสาย 340 สุพรรณบุรี มุ่งหน้าไปจังหวัดชัยนาท จึงได้ขับติดตาม จนถึงหลักกิโลเมตร ที่ 95-96 ต.วังน้ำซับ อ.ศรีประจันต์ เจ้าหน้าที่ได้ส่งสัญญาณ เรียกรถยนต์คันดังกล่าวให้หยุด  และแสดงตัวขอตรวจสอบ
 

พบนายชุมแพร เที่ยงอยู่ อายุ 42 ปี และนางเกิน เชา อายุ 38 ปี สัญชาติกัมพูชา ภรรยา เป็นผู้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าว ภายหลังกระบะรถ พบกล่องพลาสติก มีฝาปิดขนาดใหญ่ ในกล่องมี สัตว์ป่าคุ้มครองประเภทลิง (ลิงแสม) ถูกกักขังอยู่ในถุงตาข่ายสีฟ้า บรรจุอยู่ภายในกล่องพลาสติกอย่างหนาแน่น จำนวน 5 ใบ รวมลิงแสมจำนวน 33 ตัว ซากลิงแสม 1 ซาก

ตำรวจจึงได้ยึดไว้เป็นของกลาง พร้อมประสาน สพ.ญ.ณฐนน ปานเพ็ชร นายสัตวแพทย์ชำนาญการ เขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงฉวาก และศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก และเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า ตำรวจ สภ.ศรีประจันต์ ร่วมตรวจค้นอย่างละเอียด นอกจากนี้ภายในรถ พบป้ายทะเบียนหมายปลอมอีก 2 อัน อุปกรณ์ท่อเป่ายาสลบ และหลอดยาสลบ เข็มฉีดยาจำนวนกว่า 100 เข็ม ที่บรรจุยาสลบเตรียมไว้เป่าจับลิงแสม อีกด้วย 


นายชุมแพร เที่ยงอยู่ ผู้ต้องหาให้การอ้างว่า จับลิงมาจากจังหวัดราชบุรี โดยใช้ลูกดอกยาสลบ เพื่อนำไปขายให้พ่อค้า ปลายทางอยู่ที่จังหวัดสระแก้ว นัดเจอลูกค้าที่มารับคนละครึ่งทาง ลิงตัวโตขายได้ตัวละ 2,000 บาท ตัวเล็กตัวละ 500 - 1,000 บาท แต่ไม่รู้ว่า คนซื้อเอาไปทำอะไรทำมาแล้ว 1 ครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ปกติตนมีอาชีพทำนา ว่างจากทำนาก็จะหาจับ และรับซื้องูเห่า ส่งขายให้นายทุน ก่อนพัฒนามาเป็นลิงแสม ครั้งนี้ตนโชคไม่ดีจึงถูกจับ 

นายชุมแพ อ้างว่า ตอนนี้ทำนามันแย่ และก็ไม่รู้ว่าจะไปทำอะไร เลยหันมาจับลิงไปขาย ตนเคยมีประวัติถูกจับ ข้อหาครองครองสัตว์คุ้มครอง ประเภทนกขุนทอง และนกเอี้ยง เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ก่อนหน้านี้มีคนเอาลิงมาทิ้ง ในเขตอำเภอเดิมบางนางบวช ใช่รายเดียวกันหรือไม่ ผู้ต้องหาปฏิเสธว่า ไม่ใช่ของตน คนละเจ้ากัน และไม่รู้ของใคร ที่ตนทำไปก็สงสารลิง แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง ส่วนอุปกรณ์ยิงยาสลบรวมทั้งยาสลบ ทั้งหมดเป็นของนายทุนจัดหามาให้ แต่ตนไม่รู้จักชื่อ และไม่รู้ว่าที่ไหน 
 

สพ.ญ.ณฐนน ปานเพ็ชร นายสัตวแพทย์ชำนาญการ กล่าวว่า เบื้องต้นต้องตรวจสภาพร่างกายของลิงก่อน  ดูว่าจะจับแยกกันได้หรือไม่ เพราะเขาถูกจับใส่มาในถุงตาข่าย ถ้าเอามาใส่กรงรวมกัน ไม่แน่ใจว่าจะกัดกันหรือไม่ ดูจากสภาพการขนย้าย เป็นอันตรายต่อลิงมาก เพราะกล่องที่ใส่เป็นกล่องขนาดเล็ก และมีการเจาะรูระบายอากาศไม่ดี ซึ่งถ้าขนย้ายระยะทางไกล อาจทำให้ลิงตายได้ 

ส่วนอุปกรณ์จับลิง พวกลูกดอกยาสลบ คนทำต้องเป็นคนมีความรู้ และเป็นมืออาชีพ ซึ่งลิงทั้งหมดที่ยังมีชีวิต ต้องรีบนำกลับไปที่บึงฉวาก เพื่อตรวจอาการ เพราะลิงที่พบน่าสงสารมาก บางตัวศีรษะแตกเป็นแผล หลายตัวอ่อนแรง น่าเป็นห่วง เบื้องต้นสันนิษฐานว่า แก๊งค้าลิงรายนี้น่าจะเป็นขบวนการค้าลิงข้ามชาติรายใหญ่ ซึ่งลักลอบเคลื่อนย้ายลิง โดยไม่เกรงกลัวเจ้าหน้าที่บ้านเมือง จึงแจ้งข้อหากระทำความผิดตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 หลายข้อหา ก่อนจะขยายผลถึงตัวการใหญ่ เพื่อติดตามจับกุมมาดำเนินคดีต่อไป