หนุ่มอุดรแจ้งความ ถูกพระทำรุมร้าย หัวแตกเย็บหลายเข็ม พระโต้หนังคนละม้วน

13 มิถุนายน 2566 ที่ จ.อุดรธานี ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ สภ.เมืองอุดรธานี พบกับชายคนหนึ่ง นั่งหน้าเศร้าอยู่โต๊ะม้าหินอ่อนของโรงพัก จึงได้ไปสอบถาม ทราบชื่อคือ นายกิตติ มีมา อายุ 30 ปี บริเวณศีรษะพบร่องรอยหัวแตก มีรอยเย็บ 2 เข็ม แขนและด้านหลังมีรอยฟกช้ำ คล้ายถูกทำร้ายร่างกาย และตามเสื้อก็เปื้อนด้วยเลือด 

สอบถามเบื้องต้น นายกิตติ บอกว่า ถูกพระตีมาจาก อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี หลังจากนั้นได้เข้าแจ้งความ เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา จากนั้นได้ให้หน่วยกู้ภัย มาส่งบ้านแม่ที่ ต.หมูม่น อ.เมือง จ.อุดรธานี แต่ไม่เจอแม่ จึงได้เดินทางมานอนพักที่หน้า สภ.เมืองอุดรธานี เพราะไม่มีที่ไป 

นายกิตติ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันพระ เวลาประมาณสองทุ่ม ตนอยู่ที่วัดป่าฯ แห่งหนึ่งใน อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี ได้จุดเทียนภายข้างที่นอนในวัด เพื่อจะนั่งสมาธิ ปรากฏว่า มีพระลูกวัด 3 รูป เดินมาหาบอกว่า ไม่ให้จุดเทียนและให้กลับไปนอน แต่ตนไม่ยอมจนเกิดการทะเลาะกัน พระ 3 รูป ได้ใช้ไม้รุมตีที่ศีรษะตนจนแตก

ต่อมาจึงได้ไปแจ้งความ เพื่อดำเนินคดีกับพระ 3 รูปนี้ ยืนยันจะเอาเรื่องพระ 3 รูปนี้ให้ถึงที่สุด เพราะเป็นพระไม่น่าจะทำกันแบบนี้เลย ส่วนสาเหตุที่ตนไปอยู่ที่วัดดังกล่าว เพื่อเดินทางไปหาแม่ ที่บวชชีที่วัดป่าแห่งนั้น ยอมรับแต่ก่อนตนเกเร เคยจะร่วมกับน้องชาย เผาบ้านแม่ใน ต.กุดสระ จนน้องชายติดคุกจนถึงขณะนี้ ส่วนตนเองไม่ได้ติดคุก พอไม่มีบ้านอยู่ก็ไปเรื่อย ๆ จนไปอยู่กับแม่ที่บวชชีที่วัด และตั้งใจจะจุดเทียนเพื่อนั่งสมาธิ ก็เจอพระรุมตีจนต้องหนีออกมา 

 

ต่อมา ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่วัดป่าแห่งหนึ่งใน อ.เพ็ญ พบกับพระ 3 รูป ที่นายกิตติอ้างว่า ถูกรุมทำร้าย พระโชค อายุ 22 ปี และอีก 2 รูป เปิดเผยว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้น อาตมายอมรับว่า ได้ร่วมกับพระเพื่อนอีก 2 รูป ทำร้ายนายกิตติจริง  วันเกิดเหตุประมาณเที่ยงคืน นายกิตติจุดเทียนอ้างว่า จะทำสมาธิ พวกอาตมาก็เข้าไปห้าม นายกิตติก็ขึงตาใส่ จะเดินเข้าใส่พระ ก็เกิดเรื่องใช้ไม้ฟาดครั้งเดียว นายกิตติก็สู้กัดรัดฟัดเหวี่ยงกับพระอยู่นาน

จากนั้นนายกิตติก็วิ่งไปในโรงครัว จะเอาไปเอามีดมาทำร้ายพระ นายกิตติ ร้องบอกว่า พระตีกู โอกาสนี้มาถึงแล้ว กูจะได้เงินหล่ะตอนนี้ สาเหตุเพราะนายกิตติ เหมือนคนเพี้ยน เข้ามาอยู่ในวัดได้ไม่นาน มักทำเรื่องรำคาญกวนใจ กลางคืนเดินเปิดและงัดชักโครกในห้องน้ำไปทุกห้อง บอกว่า มีสิ่งลี้ลับอยู่ในชักโครก แถมทุกคืนจุดเทียนห่มผ้าทำผีหลอกใส่พระและแม่ชี และจุดเทียนไปทั่ววัด

และจะของขึ้นเฉพาะวันโกนและวันพระ บางวันก็เดินไปกุฏิแม่ชีลากโต๊ะเก้าอี้ กลางคืนชงกาแฟและเดินให้หมาเห่าหอนแทบทุกคืน ทั้งพระและแม่ชีภาพกันผวา อาตมาก็พากันไปเตือน แต่โยมกิตติก็ไม่ฟัง จนเกิดเรื่องดังกล่าว ทั้งพระและแม่ชีอดทนมานานแล้ว 


ด้าน พระอาจารย์บุญมา เจ้าอาวาสสำนักสงฆ์ฯ เปิดเผยว่า อาตมาก็เพิ่งรู้ข่าวเรื่องนี้ หลังจากนักข่าวมาหา สอบถามพระทั้ง 3 รูปแล้วยอมรับว่า ได้ทำร้ายนายกิตติจริง เรื่องราวที่เกิดขึ้น ตนไม่รู้สาเหตุ แต่เชื่อว่า การกระทำต้องมีเหตุผล อยู่ดี ๆ พระไปทำร้ายคงไม่ใช้ ซึ่งเท่าที่รู้ นายกิตติ จะเป็นคนเพี้ยน ๆ หน่อย ไม่รู้บ้าหรือเปล่า เข้ามาอยู่ในวัดเพราะตามแม่ที่บวชชี ตนเป็นพระก็ให้อยู่ ไม่คิดว่าจะมีเรื่องราว

พระท่านก็เตือนดี ๆ แต่โยมกิตติ ก็อาละวาด พอมาก็มีเรื่องมีราว ทำให้พระและแม่ชีผวามาตลอด กลางคืนก็ไปก่อกวนตามกุฏิแม่ชี แม่ชีก็กลัว เขาก็บอกว่ามีคนสั่งให้ทำ ส่วนใหญ่จะของขึ้นวันพระวันโกน ตอนนี้โยมแม่ก็หนีลูกชายไปแล้ว ไม่รู้จะทำอย่างไรกับโยมกิตติ เท่าที่ทราบเคยเกิดอุบัติเหตุ ทำให้มีอาการเพี้ยน จนแม่ก็หมดหนทาง อยากให้โยม ๆ เข้าใจพระไม่ได้ทำร้าย หากโยมกิตติคลั่งขึ้นมา ทำร้ายพระและแม่ชี ไม่รู้จะหนักแค่ไหน 


ชาวบ้านรายหนึ่ง บอกว่า เรื่องพระทำร้ายโยม ชาวบ้านไม่รู้จริง ๆ ตอนเช้ามีรถพยาบาลมารับคนเจ็บ ชาวบ้านพูดคุยกันก็ทราบว่า คนที่ถูกทำร้ายคือ นายกิตติ ชาวบ้านรู้แค่ว่า เขาเป็นบ้า เหมือนคนไม่เต็มมาอยู่วัดกับแม่ ตอนนี้แม่ก็หนีแล้ว เพราะเบื่อลูกเป็นแบบนี้

ส่วนรายละเอียดลึก ๆ ว่าใครตีใครก่อนชาวบ้านไม่รู้จริง ๆ แต่คิดว่า ต้องมีสาเหตุว่าพระไปทำร้ายโยมได้อย่างไร เท่าที่รู้นายกิตติจะเข้าไปทำลายของสงฆ์ ก่อกวนพระและแม่ชี ทำให้พระและแม่ชีสายวัดป่าท่านอยู่ปกติตามตลอด ต้องเจอแบบนี้ ก็ปวดหัวเหมือนกัน