27 พฤษภาคม 2566 ล่า "มนุษย์ป้า" หากินกับงานศพครั้งนี้ ได้รับการเปิดเผยเมื่อผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านที่รับจ้างจัดงานศพ ว่า นางกลม (สงวนนามสกุล) เชิดเงินใส่ซองงานศพของสามีหนีไป ไม่ยอมจ่ายค่าอาหารที่ทำเลี้ยงแขกมาร่วมงาน ค่าแต่งโลง โดยใช้เครดิตชื่อพี่ชาย ซึ่งเป็นพระชื่อดังมาแอบอ้าง ทำผู้รับจ้างเดือดร้อน เสียหายกว่า 2 แสนบาท
สาเหตุที่ต้องเข้าร้องเรียนสื่อมวลชน เป็นสื่อกลางฝากถึง นางกลม ให้กลับมาจ่ายเงินทั้งหมด เนื่องจากตำรวจไม่รับแจ้งความ อ้างไม่เข้าข้อกฎหมายฉ้อโกงฯ
ทั้งนี้ ผู้เสียหายจำนวน 3 ราย ประกอบด้วย
ทั้ง 3 คน ได้นำเอกสารหลักฐานเข้าร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ภายหลังจากโดน นางกลม อายุ 60 ปี ชาวบ้านพรุโต๊ะปุก ต.ในควน อ.ย่านตาขาว ไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง ได้ว่าจ้างให้ผู้เสียหายทั้ง 3 ราย ตกแต่งภายในงานศพ ทำอาหารเลี้ยงแขกที่มาร่วมงาน และซื้อวัตถุดิบมาทำอาหารภายในงานบำเพ็ญกุศลศพของ นายไพรัตน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 69 ปี ซึ่งเป็นสามีของนางกลม ที่เสียชีวิตลงด้วยโรคประจำตัว จัดขึ้นที่วัดนิคมประทีป หรือวัดโคกหล่อ อ.เมือง จ.ตรัง ระหว่างวันที่ 9-10 พ.ค.66
หลังจากผู้เสียหายทั้งหมดได้ถูกนางกลม ซึ่งเป็นคนที่รู้จักมักคุ้นกันว่าจ้างแล้ว ก็ต่างเข้าดำเนินการ โดยที่นายสงบ ก็ได้นำลูกน้องมาประกอบอาหารเลี้ยงแขกในงาน โดยที่รับวัตถุดิบซึ่งเป็นเนื้อหมูมาจากนางจุรีย์ หรือแหม่ม ขณะเดียวกันนายประพันธ์ ก็ได้เข้าตกแต่งโลงศพ จัดดอกไม้สด ตกแต่งผ้า
นางกลมได้มีการสั่งงานว่าจะต้องจัดงานและทำอาหารให้เนี๊ยบ เพราะจะมีพระชั้นผู้ใหญ่มาร่วมงานด้วย โดยที่ผู้รับจ้างทั้งหมดไม่ได้มีการเรียกเก็บเงินมัดจำไว้ก่อนแต่อย่างใด ก่อนที่จะมีบรรดาแขกมาร่วมงานจำนวน 3 วัน ที่มีการตั้งบำเพ็ญกุศลศพ ประมาณ 600-700 คน ซึ่งคาดว่าแขกเหรื่อที่มาร่วมงานมีการใส่ซองทำบุญรวมแล้วประมาณ 3-4 แสนบาท และไม่ได้มีพระชั้นผู้ใหญ่มาร่วมงานตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด ก่อนที่จะมีการฌาปนกิจศพเสร็จสิ้นลงไป
หลังจากนั้นวันที่ 13 พ.ค.66 นางกลมได้ติดต่อมาหาผู้รับจ้างว่าขอหมายเลขบัญชี และให้วางบิลรายการต่างๆ พร้อมทั้งให้ไปรับเงินค่าจ้างกับน้องหลวง คือ พระชื่อดังรายหนึ่งของ จ.ตรัง และ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งมีศักดิ์เป็นน้องชายแท้ๆของนางกลม และมีศักดิ์เป็นพี่เขยของผู้ตาย ที่วัดแห่งหนึ่ง
แต่เมื่อผู้รับจ้างทั้ง 3 รายไปพบพระรูปดังกล่าว พระกลับถูกแอบอ้าง และก็ไม่ทราบในเรื่องที่เกิดขึ้น พร้อมแนะนำให้ผู้รับจ้างไปแจ้งความดำเนินคดี ทำให้วันที่ 15 พ.ค.66 ผู้ว่าจ้างได้ติดต่อกลับไปหานางกลม ปรากฏว่านางกลมได้บล็อกไลน์ และปิดเบอร์มือถือไปแล้ว ก่อนที่จะไปตามหาที่บ้านพักก็กลับไม่อยู่ จนทราบว่านางกลม ได้นำเงินที่ได้จากการใส่ซองทำบุญในงานศพสามี หลบหนีไปแล้ว ทำให้ผู้รับจ้างต่างเดือดร้อน เนื่องจากไม่ได้รับเงินค่าจ้าง
สำหรับความเสียหายทั้งหมด เป็นของ นายสงบ ซึ่งเป็นค่าอาหาร จำนวน 106,226 บาท นายประพันธ์ ค่าตกแต่งโลงศพที่พิธีสงฆ์ จำนวน 39,000 บาท และนางจุรีย์ เป็นค่าหมูสดที่นำมาใช่ประกอบอาหาร จำนวน 56,800 บาท รวมความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งสิ้นจำนวน 202,026 บาท
หลังจากนั้นทางผู้เสียหายได้เข้าไปที่ สภ.ย่านตาขาว เพื่อขอเข้าแจ้งความดำเนินคดี แต่ทางตำรวจระบุว่าไม่เข้าข่ายข้อกฎหมายฉ้อโกง ไม่สามารถแจ้งความดำเนินคดีได้ และไม่ลงบันทึกประจำวันแต่อย่างใด แต่ได้ติดต่อทนายรายหนึ่งเพื่อให้ผู้เสียหายเข้าไปฟ้องศาลในคดีแพ่ง ก่อนที่ผู้เสียหายทั้ง 3 รายจะกลับออกมาและไปที่ สภ.บ้านในควน แต่กลับให้คำตอบเช่นเดียวกันว่าไม่เข้าข่ายข้อหาฉ้อโกง ได้เพียงแต่บันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานให้เท่านั้น
นายประพันธ์ หรือลุงอ๊อด กล่าวว่า นางกลมได้จ้างตนให้ไปตกแต่งโลงศพ จัดดอกไม้สด ตกแต่งผ้า แต่หลังเสร็จงานกลับหายไปเลยอย่างไร้ร่องรอย และหวังจะไปแจ้งความดำเนินคดี แต่ทางตำรวจอ้างว่าไม่เข้าข้อกฎหมาย จึงได้มาร้องสื่อ เพราะไม่รู้จะไปทางไหน จากที่ทราบนางกลม ได้มีพฤติกรรมหลอกคนอื่นเช่นนี้หลายคนแล้ว และบรรดาพี่น้องก็ช่วยเหลือกันมาหลายครั้งแล้วในเรื่องที่นางกลม ไปก่อไว้ ซึ่งก็มักจะแอบอ้างใช้ชื่อน้องชายซึ่งเป็นพระชื่อดังมาโดยตลอด
"ในงานนี้ก็ได้มีการกำชับให้ตนใช้ผ้าที่สำหรับตกแต่งเป็นของใหม่ ของใช้แล้วไม่เอา เพราะจะมีพระชั้นผู้ใหญ่มาร่วมงาน แต่ปรากฏว่าไม่มี และงานศพก็ถือว่าระดับกลาง ไม่ได้ใหญ่โต ตอนนี้เดือดร้อนหนักเพราะค่าของที่นำมาจัด ค่าจ้างลูกน้องก็ไม่มีเงินไปจ่ายเลย ก็อยากใช้พื้นที่สื่อฝากไปถึงนางกลมให้กลับมาจ่ายเงินด้วย"
"ยึดอาชีพรับทำอาหารมาตั้งแต่อายุ 28 ปี ตอนนี้ 66 ปี รวมทำมากว่า 38 ปี ไม่เคยมีการมัดจำก่อน เพราะเชื่อและให้ใจว่างานศพส่วนใหญ่ไม่มีการโกงกัน ตั้งแต่ตนทำมาไม่เคยมีเรื่องการโกงเช่นนี้เกิดขึ้น"
นายสงบ กล่าวอีกว่า หลังจากงานศพสามีนางกลมแล้ว ตนก็ได้ไปทำอาหารให้อีก 3 งาน ซึ่งก็ลำบากเพราะไม่มีเงินมาหมุนเวียน เสียความรู้สึกมาก เครียด นอนไม่หลับ จึงอยากให้นางกลมหากเห็นข่าวแล้วให้ออกมารับผิดชอบ หลังจากนี้ก็คงต้องเอาเงินมัดจำไว้ก่อนแล้ว จะได้เป็นหลักประกัน
ครอบครัวตนทำอาชีพขายเนื้อหมูมา 40 ปี ไม่เคยเกิดเรื่องแบบนี้ เท่าที่ทราบนางกลมหลอกคนอื่นมาเยอะ ไม่เว้นกระทั้งผู้ป่วยนอนติดเตียง ที่ผ่านมาน้องชายนางกลม ซึ่งเป็นพระชื่อดัง เป็นคนดีมาก และช่วยเช็ดล้างหนี้มาให้นางกลมตลอด แต่ครั้งนี้พี่น้องก็สุดทนแล้ว