แก๊งอุ้มชาวจีน รีดค่าไถ่ 5 ล้านบาท ตร.มุ่งปมขัดแย้งธุรกิจผิดกฎหมาย
ผ่านมากว่า 30 ชม. ยังไร้ชะตากรรมเหยื่อชาวจีน ถูกอุ้มลักพาตัวรีดค่าไถ่ 5 ล้านบาท ขณะที่สามีเหยื่อยังปากแข็ง ไม่ยอมให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ด้าน ตร.มุ่งปมขัดแย้งขัดผลประโยชน์ธุรกิจผิดกฎหมาย "แก๊งคอลเซ็นเตอร์" ในฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน
จากกรณีนายหมิง อายุ 33 ปี นักธุรกิจชาวจีน เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.หนองปรือ จ.ชลบุรี ว่าภรรยาสัญชาติเดียวกัน ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ชาวจีนลักพาตัว ขณะกำลังขับรถยนต์กลับบ้านพัก หลังไปส่งลูกชาย อายุ 3 ขวบ ที่โรงเรียนนานาชาติแห่งหนึ่ง โดยถูกลักพาตัวไปจากซอยชัยพรประนิมิตร 21 ม.2 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยคนร้าย ได้ใช้ แอปพลิเคชัน “วี แชท” โทรกลับมา เรียกค่าไถ่เป็นเงิน 1 ล้านหยวน คิดเป็นเงินไทย 4.7 ล้านบาท เพื่อแลกกับการปล่อยตัว โดยเมื่อคืนที่ผ่านมา ตำรวจไปพบรถของตัวประกันถูกจอดทิ้งในป่า ใกล้กับมอเตอร์เวย์สาย 7 ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ระดมกำลังสืบสวนสอบสวนอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยเหลือตัวประกันและจับกุมคนร้าย นั้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
21 มีนาคม 2566 เมื่อเวลา 17.00 น. ที่ห้องชั้น 3 สภ.หนองปรือ พล.ต.ต.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผบก.สส.ภาค 2 พ.ต.อ.ศานติ กรเกษม ผกก.กก.สส.ภ.จว.ชลบุรี พ.ต.อ.ทวี กุดแถลง ผกก.สภ.หนองปรือ พร้อมทีมสืบสวนชุดคลี่คลายคดี ได้ร่วมประชุมเพื่อสรุปความคืบหน้า โดยเบื้องต้น ผ่านมาแล้วกว่า 30 ชม. กลุ่มคนร้ายยังไม่มีท่าทีปล่อยตัวประกัน ขณะที่ตำรวจสันนิษฐานว่า กลุ่มคนร้ายน่าจะมีประมาณ 4-5 คน แต่คดียังมีความสับสนหลายอย่าง อีกทั้ง สามีของเหยื่อที่ถูกลักพาตัว ไม่ยอมให้การเป็นประโยขน์ต่อรูปคดี พยายามปกปิดข้อมูลบ้างอย่างไว้ และไม่ยอมพูดความจริง
ขณะที่ทีมสืบสวน ลงพื้นที่ไล่กล้องวงจรปิด พบความผิดปกติในเรื่องของห้วงเวลา เนื่องจากข้อมูลจากกล้องวงจรปิด พบว่า รถของผู้เสียหาย กับ รถของกลุ่มผู้ก่อเหตุ ทิ้งห่างกันเกือบ 1 นาที แต่คนร้ายก็ยังสามารถติดตามรถของเหยื่อได้ทัน โดยเกรงว่า 1 ในตัวประกัน จะรู้เห็นกับกลุ่มผู้ก่อเหตุหรือไม่ แต่อย่างไรก็ตาม ตำรวจเริ่มตัดประเด็นความขัดแย้งเรื่องส่วนตัว โดยมุ่งไปในเรื่องของการ ขัดแย้งขัดผลประโยชน์ธุรกิจผิดกฎหมาย แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ในฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน อำเภอท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า
ด้าน เจ้าของอู่ซ่อมรถจยย.แห่งหนึ่ง บริเวณสี่แยกมิตรกมล ต.หนองปรือ ให้ข้อมูลว่า เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 17 มีนาคม ที่ผ่านมา ได้มีชายชาวจีน สวมเสื้อคอกลม สีขาว นุ่งกางเกงยีนส์ขาสั้น สีดำ ใส่แมสปิดบังใบหน้า เดินเข้ามาถามซื้อรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า MSX สีดำ จึงพูดเสนอขายไปในราคา 15,000 บาท แล้วเดินหนีหายไป ผ่านไปไม่กี่นาทีชายชาวจีนเสื้อขาว คนเดิม ได้เดินกลับมาพร้อมกับเพื่อนชายชาวจีนอีกคน ซึ่งสวมเสื้อคอกลมลายขวางสีดำ กางเกงขาสั้นสีดำ ใส่แมสก์ปิดบังใบหน้า เข้ามาถามซื้อรถจยย.คันดังกล่าวอีกครั้ง ก่อนจะจบราคาขายกันที่ 14,000 บาท และให้เงินอีก 1,000 บาท ใช้ลูกน้องในร้านไปซื้อหมวกกันน็อคเต็มใบจำนวน 2 ใบ
ระหว่างตรวจเช็คสภาพรถจยย. ก่อนส่งมอบให้ลูกค้า ก็เริ่มพบว่าชาวจีนทั้งสอง เริ่มมีพฤติกรรมแปลกๆ เนื่องจากทั้งคู่ได้พยายามเดินหลบมุมกล้องวงจรปิด ขณะการซื้อขายก็ได้ไปนั่งหลบอยู่บริเวณหลังร้าน พร้อมกับไม่ยอมให้เอกสารหลักฐานในการซื้อขาย โดยเจ้าตัวอ้างว่า ต้องการใช้รถจยย.ไม่กี่วัน และจะนำมาขายคืนครึ่งหนึ่งจากราคาของการขาย นอกจากนี้ ยังพบชายต่างด้าวต้องสงสัยอีก 1 คน เดินตามเข้ามาสมทบกับกลุ่มชาวจีน ตลอดการพูดคุยชาวจีนได้ใช้แอพพลิเคชั่นช่วยแปลในการสื่อสารครั้งนี้ ซึ่งหลังเกิดเหตุ รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก เพราะว่าชาวจีนที่ซื้อรถจยย.เอาไปก่อคดีอุ้มคนเรียกค่าไถ่