เร่งไขปริศนา สามีผูกคอ ภรรยาหายตัวไร้ร่องรอย ล่าสุดพบกองกระดูก เร่งตรวจสอบ
แม่รับศพลูกมาทำพิธีทางศาสนา ก่อนเผาวันนี้ หลังผูกคอดับทิ้งจดหมายปริศนา ขณะ“น้องน้ำ”ภรรยาหายไปไร้ร่องรอย พบชิ้นส่วนกระดูกต้องสงสัย เร่งตรวจพิสูจน์
20 มีนาคม 2566 เร่งคลี่ปมปริศนา กรณีการผูกคอดับของนายสิทธิโชค ไตรยนำ หรือ “นายอูล” อายุ 30 ปี ชาวบ้านหนองสองห้อง ต.มาบตะโกเอน อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ขณะที่ นางสาวสุธิตา พันแสน หรือ “น้องน้ำ” ภรรยา อายุ 25 ปี หายออกไปจากบ้านพ่อตาแม่ยาย ที่บ้านซับเจริญ ต.ลำเพียก อ.ครบุรี ตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคมที่ผ่านมา ก่อนที่ทางบ้านของ “น้องน้ำ” จะพยายามติดต่อทุกวิถีทาง แต่ไม่สามารถติดต่อได้
จนกระทั่งช่วงเที่ยงวันที่ 13 มีนาคม 2566 “นายอูล” ได้แชทเฟสบุก ส่งข้อความปริศนาไปบอกแม่ยาย ว่า “ผมแค้น ทำกับผมโพด ขอโทดแม่” ทำให้พ่อตาและแม่ยายร้อนใจ เดินทางไปหา“นายอูล” ที่บ้านพัก และพบว่า “นายอูล” ได้ผูกคอตายแล้ว โดยเชื่อว่า “นายอูล” อาจจะก่อเหตุทำร้าย “น้องน้ำ” จนเสียชีวิต แล้วนำศพไปทิ้งอำพราง ก่อนจะตัดสินใจผู้คอตายหนีความผิด ซึ่งขณะนี้ เจ้าหน้าที่ฯ ได้สนธิกำลังกระจายกันติดตามค้นหาตัว “น้องน้ำ” มาร่วม 6 วันแล้ว
ล่าสุด วันนี้ (20 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ฯ ได้มีการปูพรมค้นหาหลักฐานเพิ่มเติมที่บ้านของ“นายอูล” ผู้เสียชีวิต พบความผิดปกติมีกองไฟเกือบ 10 กอง กระจัดกระจายเผาอยู่ใต้ต้นขนุนและต้นมะม่วง ซึ่งทุกกองจะมีกระดูกปริศนาอยู่หลายกอง โดยไม่แน่ใจว่าจะเป็นกระดูกคนหรือกระดูกสัตว์ ก่อนจะมาพบชิ้นส่วนกระดูกติดเนื้อขนาดใหญ่ถูกไฟเผาเพิ่มเติมอีกจำนวนหนึ่ง ถูกโยนทิ้งสระน้ำที่ในสวนหลังบ้าน“นายอูล” เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. วานนี้ (19 มีนาคม 2566) ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เก็บกู้และส่งไปตรวจพิสูจน์ที่โรงพยาบาลตำรวจในวันนี้
ขณะเดียวกัน เมื่อเวลาประมาณ 14.40 น. วันที่ 19 มี.ค.ที่ผ่านมา นางประภา ไตรยนำ แม่ของ “นายอูน” ก็ได้นำศพลูกชายกลับมาบำเพ็ญกุศลที่วัดหนองสองห้องศรัทธาธรรม วัดที่บ้านเกิด หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้อายัดศพไปทำการชันสูตรแล้ว หลังจากตั้งสวดอภิธรรมศพได้เพียงคืนเดียว ในวันที่ 15 มีนาคมที่ผ่านมา และจะทำการสวดพระอภิธรรมศพในคืนนี้อีก 1 คืน ก่อนที่จะประกอบพิธีฌาปนกิจศพในช่วงบ่ายวันนี้
จากการสอบถาม นางประภา ถึงเหตุการณ์ที่มีการพบชิ้นส่วนกระดูกที่ถูกเผาในบริเวณบ้านและสระน้ำ เล่าว่า เมื่อช่วงเที่ยงคืนก่อนที่ลูกชายจะผูกคอเสียชีวิต ตนได้กลิ่นไหม้จึงมองผ่านช่องข้างบ้าน ก็พบลูกชายกำลังเผาไฟกองใหญ่อยู่ และได้เรียกถามไปว่า เผาอะไร ซึ่งลูกชายก็บอกเพียงว่าเผาเสื้อผ้า ตนกำลังจะลงไปดู แต่ลูกชายบอกว่าไม่ต้องลงไป และด้วยความที่ตนกำลังเหนื่อยจากฤทธิ์ยาที่เพิ่งกินไปก่อนหน้านี้ประมาณ 20.00 น.จึงกลับเข้าไปนอนต่อ โดยไม่ได้เอะใจว่าลูกชายจะเผาอะไร ส่วนชิ้นส่วนที่ถูกพบก็ยังไม่รู้อะไรจริงๆ เพราะยังไม่เห็นและตอนนี้ก็กำลังยุ่งกับการเตรียมงานศพลูกชาย
อย่างไรก็ตาม นางประภา เล่าว่า ในช่วงเช้าก่อนที่ลูกชายจะผูกคอเสียชีวิต ได้เข้ามาบอกกับตนว่า อยากที่จะบวชอีกสักครั้ง หลังจากที่ก่อนหน้านี้ บวชแล้วแต่ไม่ครบพรรษา ตนก็ไม่ได้เอะใจอะไร เพราะลูกชายมักจะพูดอย่างนี้เป็นประจำแต่ก็ไม่ทำสักที ตนจึงบอกไปว่าตามใจ แล้วก็ออกไปรดน้ำต้นไม้ที่ปลูกไว้ในสวน ก่อนที่จะมาทราบข่าวว่า ลูกชายผูกคอเสียชีวิตในช่วงบ่ายวันเดียวกัน
