ผวา! คนงานลอกท่อกลางดึก พบโครงกระดูกมนุษย์ในท่อระบายน้ำ ใต้ทางด่วน

17 มีนาคม 2566 พบโครงกระดูกนิรนามในท่อระบายน้ำ เมื่อเวลา 23.00 น. คืนที่ผ่านมา (16 มี.ค.) พ.ต.อ.จาตุรนต์ อนุรักษ์บัณฑิต ผู้กำกับการ สภ.เมืองนนทบุรี ได้รับแจ้งพบหัวกะโหลกและโครงกระดูกมนุษย์ในท่อระบายน้ำ ริมถนนทางลงทางด่วนงามวงศ์วาน 1 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี จึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายตรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลริธิป่อเต็กตึ้ง รุดตรวจสอบในที่เกิดเหตุ

ในที่เกิดเหตุเป็นท่อระบายน้ำข้างทางด้านซ้าย บริเวณทางโค้งลงทางด่วนศรีรัช มุ่งหน้าถนนงามวงศ์วาน ไปแยกแคราย พบคนงานลอกท่อระบาย โดยมีนายวิเชียร สวนมะลิ อายุ 50 ปี หัวหน้าคนงาน นำคนงานจำนวน 28 คน มาลอกท่อนำเศษขยะและเศษดินออกจากท่อระบายน้ำ กำหนดงานเวลา 22.00-04.00 น. ตามที่บริษัททางด่วนว่าจ้าง

ปรากฏว่าระหว่างที่คนงานกำลังลงไปใช้ถังพลาสติกตักเลนและเศษขยะตกค้างออกจากท่อ นายวิทยา รักธัญกิจ อายุ 34 ปี คนงานลอกท่อ พบหัวกะโหลกของมนุษย์ติดมากับถัง สร้างความตกใจให้กับนายวิทยา จึงวิ่งหนีออกจากท่อระบายน้ำขึ้นมาตั้งหลักบนถนน

จากนั้นเพื่อนคนงานที่เห็นเหตุการณ์จึงได้บอกนายวิเชียร หัวหน้างาน ให้ทราบ ก่อนจะแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ทางด่วนให้มาตรวจสอบ ช่วยกันค้นหาโครงกระดูกและชิ้นส่วนกระดูกต่างๆ จนพบเพิ่มเติมอีก 28 ชิ้น ประกอบด้วย หัวระโลก กระดูกเชิงกราน กระดูกท่อนขา กระดูกท่อนแขน กระดูกซี่โครง กระดูกชิ้นส่วนอื่นๆ และกางเกงในผู้ชาย

จากการสอบถาม นายวิทยา รักธัญกิจ อายุ 34 ปี คนงานลอกท่อที่พบหัวกะโหลก ให้การว่า ตนเองมาลอกในจุดพบกะโหลกมนุษย์ตอนประมาณ 4 ทุ่ม ซึ่งตอนที่ตักขึ้นมาแล้วพบว่าเป็นหัวกะโหลกของคนก็รู้สึกตกใจ เพราะไม่คิดว่าจะมาเจอหัวกะโหลกคนในท่อระบายน้ำแบบนี้

ด้านเจ้าหน้าที่ทางด่วน กล่าวว่า ท่อระบายน้ำจุดนี้ลอกครั้งสุดท้ายเมื่อ 2 ปีก่อน และจุดนี้มีฝาท่อเป็นเหล็ก น้ำหนักประมาณ 80 กิโลกรัม การจะเปิดฝาท่อได้นั้นต้องใช้คนงานที่แข็งแรง 2 คน ช่วยกันยก ถึงจะเปิดฝาท่อออกมาได้ และจุดนี้จะมีเจ้าหน้าที่ทางด่วนตรวจตราความเรียบร้อยเป็นประจำ ฝาท่อปิดสนิทตลอดเวลา จึงไม่น่าที่จะมีคนมาเดินตกลงไปได้ จึงยังไม่ทราบว่าผู้ตายเข้าไปเสียชีวิตอยู่ในท่อระบายน้ำตรงนี้ได้อย่างไร

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เก็บรวบรวมหัวกะโหลกและเศษโครงกระดูกที่พบ ส่งให้ทางสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ตรวจสอบหาอัติลักษณ์และสาเหตุการเสียชีวิตต่อไป