"พระ-ชาวบ้าน-ไวยาวัจกร" จี้ รฟท. รีบจ่ายเงินผาติกรรม 6 ล. ให้ "วัดน้ำพุ"

23 กุมภาพันธ์ 2566 จากกรณี วัดน้ำพุ ตำบลพญาเย็น อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ได้รับผลกระทบจากโครงการรถไฟทางคู่ และโครงการรถไฟความเร็วสูง หลังภาครัฐได้เวนคืนที่ดิน เพื่อก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง ตามเมกะโปรเจกต์ของรัฐบาล และการรถไฟแห่งประเทศไทย โดยคณะกรรมการกำหนดราคาเบื้องต้น ได้ประกาศ กำหนดราคาเบื้องต้น และจำนวนเงินทดแทนอสังหาริมทรัพย์ ที่ถูกเวนคืน เมื่อวันที่ 28 พ.ย. 61 

โดย วัดน้ำพุ อยู่ในลำดับที่ 1 ได้เงินชดเชยรวม 6,331,370 บาท 98 สตางค์ (หกล้านสามแสนสามหมื่น หนึ่งพันสามร้อยเจ็ดสิบบาท เก้าสิบแปดสตางค์) คาดว่า จะสามารถใช้งบประมาณ ของการรถไฟแห่งประเทศไทย เพื่อจ่าย ค่าผาติกรรม ให้แก่วัดได้ ภายในต้นปีงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 เป็นอย่างช้า


 

ล่าสุด นายสมนึก สิงห์อ่อน อายุ 72 ปี ชาวบ้าน เผยว่า อยากให้ทางรัฐบาล จี้ไปทางการรถไฟแห่งประเทศไทย จ่ายเงินเยียวยาให้เร็วที่สุด เพราะเงินจำนวนดังกล่าว จะนำมาบูรณวัด และยังจะมีการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงอีกเส้นหนึ่ง ก็จะมีการรื้อเมรุ รวมไปถึงที่พักสงฆ์อีกหลายแห่ง รวมไปถึงวิหาร พี่ชาวบ้านเคารพนับถือ อยากให้โครงการดังกล่าวจบกันด้วยดี เพราะหากมีการ รื้อเมรุ ก็จะต้องมีการสร้างเมรุให้เสร็จสิ้นเสียก่อน เพราะที่ผ่านมาก็เดือดร้อนพอสมควร อยากให้ทางรัฐบาลช่วยแก้ไข เรื่องเงินผาติกรรมของทางวัด ที่ถูกกว่าจะได้เพื่อจะได้ซื้อที่ดิน รวมไปถึงสิ่งปลูกสร้างอย่างอื่นของวัด เพื่อพัฒนาวัดต่อไป

 

ขณะที่ พระหรั่ง จารุธรรมโม พระลูกวัดน้ำพุ เผยว่า สำหรับเงินจำนวน 6 ล้านกว่าบาท อยากเสนอให้เงินจำนวนดังกล่าว อยู่ในการดูแลของวัดน้ำพุ ให้วัดบริหารจัดการเอง โดยที่ไม่ต้องนำเงินเข้าสำนักพุทธ จะได้นำเงินจำนวนดังกล่าว มาพัฒนาปฏิสังขรณ์วัด ก่อนหน้านี้มีชาวบ้านไม่เข้าใจ มาประท้วงกล่าวหาว่าเจ้าอาวาส มีการอมเงินจำนวน 50 ล้านบาท ที่ได้จากการรถไฟแห่งประเทศไทย ซึ่งไม่เป็นความจริง และไม่มีเงินเข้ามาที่วัดแม้แต่บาทเดียว ซึ่งทางการรถไฟได้มีการหาภาคเอกชน มาทำการก่อสร้างพระอุโบสถ และศาลา กันเอง โดยที่ทางวัดไม่สามารถที่จะเสนอแบบแปลนอะไรได้เลย โดยทางวัดก็มองว่า ความเป็นมาตรฐานหรือความคงทนถาวร จะสู้พระอุโบสถหลังเก่าได้หรือไม่
 

ส่วน นายเอกชาญ เกตุผล ไวยาวัจกรวัดน้ำพุ เผยว่า เงินผาติกรรม จำนวน 6 ล้านกว่าบาท จะอยู่ที่สำนักพุทธฯ ทางวัดจะไม่สามารถนำเงินนี้ มาใช้ประโยชน์กับทางวัดได้เลย จะต้องรอผ่านทางเถรสมาคม จึงจะสามารถเบิกเงินจำนวนดังกล่าวไปใช้ได้ โดยเฉพาะดอกเบี้ย

หากเราได้เงินมาบริหารเอง เราจะเสนอขอพื้นที่ที่ดินชดเชย เดิมทีวัดมีเนื้อที่ 19 ไร่ หลังจากโดนเวนคืน จำนวน 6 ไร่ครึ่ง และยังจะมี โครงการรถไฟความเร็วสูง จะโดนอีกจำนวน 4 ไร่ครึ่ง รวมแล้วจะโดนเกือบ 11 ไร่ เนื้อที่วัดก็จะหายไปเกือบทั้งหมด

แนวทางการต่อสู้ทางวัด ก็ตามไปยังกรรมาธิการ ในพื้นที่ สส.สจ.ในพื้นที่ โดยเข้ากรรมาธิการประมาณ 6 รอบ ซึ่งคำตอบจากการรถไฟ ก็ไม่เป็นที่พึงพอใจ เพราะจะส่งตัวแทนมาเลยไม่ได้คำตอบ เพราะไม่มีอำนาจในการตัดสินใจ เพราะมีการทวงถามตั้งแต่ปี 2561 มาจนถึงปัจจุบัน