2 สาวขี่จยย.เฉี่ยวกัน ไถลอัดท้ายแท็กซี่ ไฟลุกท่วมสาหัส 1 บาดเจ็บ 1

12 มกราคม 2566 ร.ต.อ.อิสระ แสงสว่าง รอง สว.(สอบสวน) สภ.พระสมุทรเจดีย์ ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุ รถจักรยานยนต์เฉี่ยวชนกัน ก่อนล้มไถลไปชนท้ายรถแท็กซี่จนเกิดเพลิงลุกไหม้ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ บริเวณถนนสุขสวัสดิ์ ด้านขาออก มุ่งหน้าสามแยกพระสมุทรเจดีย์ จึงไปตรวจสอบ พร้อมประสานรถน้ำดับเพลิง จากเทศบาลตำบลพระสมุทรเจดีย์ จำนวน 2 คัน และรถดับเพลิงของอาสาสมัครบรรเทาสาธารณภัยกรุงเทพมหานคร จำนวน 3 คัน รีบไปให้การช่วยเหลือ

 

ที่เกิดเหตุเป็นถนน 4 เลน บริเวณเลนซ้ายสุดพบเพลิงกำลังโหมลุกไหม้รถแท็กซี่ สีเหลือง-เขียว เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจึงรีบลากสายฉีดน้ำดับเพลิง เพื่อฉีดสกัดไฟไม่ได้ไปติดร้านค้าข้างทาง โดยบริเวณท้ายรถยังพบซากรถจักรยานยนต์ ไม่ทราบ ยี่ห้อรุ่น สี ถูกเพลิงไหม้เสียหายทั้งคัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงใช้เวลากว่า 20 นาที จึงสามารถดับเพลิงได้

ห่างกันเล็กน้อยยังพบ รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น สกู๊ปปี้ ไอ สีดำ ล้มตะแคงอยู่กลางถนน ส่วนผู้บาดเจ็บทราบว่าเป็นผู้หญิงจำนวน 2 ราย เจ้าหน้าที่กู้ภัยต่างเร่งนำส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง โดย 1 ใน 2 ถูกไฟคลอกทั้งตัวอาการสาหัส 

จากการสอบถาม นายสมศักดิ์ (สงวนนามสกุล) โชเฟอร์ขับรถแท็กซี่ ทราบว่า ได้ขับรถตระเวนรับผู้โดยสารอยู่ในพื้นที่อำเภอพระสมุทรเจดีย์ ก่อนเกิดเหตุได้ขับรถแท็กซี่คันดังกล่าวมาจอดบริเวณจุดเกิดเหตุ เพื่อแวะกินข้าวก่อนเข้าบ้านพัก ในระหว่างที่จอดรถและดับเครื่องเรียบร้อยแล้ว ได้ยินเสียงดังด้านหลังรถ ก่อนที่จะมีไฟลูกใหญ่ลุกพรึ่บอย่างรวดเร็ว จึงรีบเก็บเอกสารภายใน แล้ววิ่งหนีออกจากรถก่อนที่ไฟจะลุกลามไปทั่วเกือบทั้งคัน

และเห็นผู้หญิงบาดเจ็บ 1 ราย ถูกไฟคลอกทั่วตัวกำลังคลานตะเกียกตะกายกลิ้งตัวอยู่บนพื้นถนน โดยมีพ่อค้าขายน้ำตกส้มตำช่วยนำผ้าและน้ำมาช่วยดับไฟ ก่อนที่จะโทรศัพท์แจ้งตำรวจ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและหน่วยกู้ภัยให้รีบมาช่วยเหลือ  

ด้าน นายสัมฤทธิ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า รถจักรยานยนต์ 2 คันได้เกิดเฉี่ยวชนกัน ก่อนที่รถจักรยานยนต์อีกคันเสียหลัก ล้มไถลไปชนท้ายรถแท็กซี่จนเกิดเพลิงลุกไหม้และคลอกคนขี่รถจักรยายนต์ ในที่เกิดเหตุยังทราบอีกว่า รถจักรยานยนต์คันที่เกิดอุบัติเหตุไฟไหม้นั้น ผู้ขับขี่เพิ่งแวะซื้อน้ำมันเบนซินใส่แกลอนวางหน้ารถมาด้วย 

เบื้องต้น ทางตำรวจได้บันทึกภาพและลงบันทึกประจำวันไว้ ก่อนจะเชิญตัวคนขับรถแท็กซี่ไปสอบสวนเพิ่มเติม และหาสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง พร้อมเดินทางไปสอบปากคำผู้บาดเจ็บ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป