เปิดคลิประทึก! เก๋งอัดกระบะอย่างจัง ชาวบ้านเผยเกิดซ้ำซาก วอนขอสัญญาณจราจร

4 มกราคม 2566 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สี่แยกตลาดชม อยู่ระหว่างรอยต่อ ต.ควนเมา กับ ต.คลองปาง อ.รัษฎา จ.ตรัง หลังจากมีการแชร์คลิปวิดีโอ ภาพเหตุการณ์รถยนต์กระบะชนประสานงากับรถยนต์เก๋งอย่างจัง มีผู้บาดเจ็บสาหัสและบาดเจ็บเล็กน้อย รวม 12 ราย และรถที่ประสบเหตุยังกระเด็นมาชนกับรถยนต์ของประชาชนที่จอดอยู่หน้าบ้าน ได้รับความเสียหาย 1 คัน ซึ่งผู้บาดเจ็บถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลรัษฎาเป็นการเร่งด่วน

โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 2 มกราคม 2566 เวลาประมาณ 13.30 น. รถยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า ทะเบียนภูเก็ต ซึ่งมีนายอนุพงษ์ (สงวนนามสกุล) เป็นผู้ขับ และมีผู้โดยสารรวม 3 คน ขับมาจากสี่แยกไฟแดงควนเมา มุ่งหน้าบ้านเขาไพร ซึ่งเป็นถนนสายรอง ด้วยความเร็วสูง เมื่อถึงบริเวณสี่แยกตลาดชม ได้พุ่งชนรถกระบะ ยี่ห้อ โตโยต้า สีน้ำเงิน ทะเบียนสุราษฎร์ธานี ซึ่งมีนางสาววิลาสินี ทรรพคช เป็นผู้ขับขี่ มาพร้อมญาติรวม 9 คน ซึ่งมาจากเส้นทาง อ.รัษฎา-อ.ห้วยยอด ซึ่งเป็นถนนสายหลัก

ส่งผลให้ทั้งรถทั้ง 2 คัน กระเด็นไปคนละทาง โดยรถกระบะ กระเด็นไปอัดก๊อปปี้กับรถกระบะ ทะเบียนตรัง ของชาวบ้านที่จอดอยู่บริเวณหน้าบ้าน ได้รับความเสียหาย

หลังเกิดเหตุการณ์ชาวบ้าน ได้ออกมาดูเหตุที่เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก พร้อมแจ้งเจ้าหน้าที่นำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลรัษฎาอย่างเร่งด่วน โดยล่าสุดผู้บาดเจ็บมีอาการปลอดภัย แต่ยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลอีกจำนวน 3 ราย

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามชาวบ้าน บริเวณสี่แยกตลาดชม ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุ ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกัน ว่า จุดนี้มีอุบัติเหตุบ่อยครั้ง เพราะไม่มีสัญญาณไฟแดง เส้นจราจรไม่ชัด ทำให้คนต่างพื้นที่ ที่ไม่คุ้นชินเส้นทาง มองไม่เห็นเป็นสี่แยกทำให้ต่างใช้ความเร็วในการขับขี่ เพราะคิดว่าเป็นทางตรงและเส้นทางดังกล่าว ยังเป็นเส้นทางที่มีผู้คนใช้สัญจรไปยังจังหวัดตรัง, จังหวัดนครศรีธรรมราช, และจังหวัดพัทลุง ทั้งยังเป็นแหล่งชุมชน มีตลาดนัด สถานที่ราชการ และโรงเรียนหลายแห่ง

นายประภาส นวลจันทร์ เจ้าของร้านเครื่องเขียน กล่าวว่า บริเวณนี้ไม่มีสัญลักษณ์ทางเอก ทางโท และเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง แต่ละวันมีคนใช้เส้นทางเป็นจำนวนมาก และมีโรงเรียนอยู่ในละแวกนี้ถึง 4 โรงเรียน ช่วงเช้า และ เย็น ปริมาณรถจะมาก ในขณะที่บางวันก็มีตลาดนัด จึงเกิดเหตุรถชนกันบ่อย อยากให้ผู้เกี่ยวข้อง มาช่วยแก้ปัญหาด้วยการติดตั้งสัญญาณไฟจราจร เพื่อแก้ปัญหาให้กับชุมชน เพราะอุบัติเหตุแต่ละครั้งมีทั้งคนเจ็บ และเสียชีวิต อีกทั้งทรัพย์สินของชาวบ้านก็เสียหาย

นายณรงค์ ลุ้งใหญ่ กล่าวว่า เมื่อช่วงค่ำของวันเดียวกันก็เกือบมีอุบัติเหตุซ้ำรอยเดิม สาเหตุมาจากคนขับรถไม่คุ้นทาง และบริเวณนี้เกิดอุบัติเหตุเป็นประจำ เพราะไม่ป้ายเตือนสัญญาณจราจรที่ชัดเจน ไฟส่องสว่างไม่เพียงพอ คนต่างถิ่นจึงไม่รู้ว่าเป็นสี่แยก บวกกับทั้งสองฝั่งเป็นทางตรง จึงขับขี่กันค่อนข้างเร็ว จึงอยากให้มีไฟแดง หรือ มีสัญญานเตือน เพื่อชะลอความเร็วของผู้ใช้รถ

นายอนุเชษฐ์ มุกแก้ว กล่าวว่า จุดนี้นอกจากไม่มีสัญญาณไฟแดงแล้ว ไหล่ทางยังขรุขระ ไฟส่องสว่างไม่เพียงพอ ซึ่งผู้ใช้รถต้องเพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่ และหากไม่ชำนาญเส้นทางก็เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย ซึ่งเส้นทางนี้เป็นทางลัดไป อ.บางขัน จ.นครศรีฯ และ อ.ป่าพยอม จ.พัทลุง ได้ ตนในฐานะชาวบ้านในพื้นที่ อยากให้ตรงนี้มีสัญญาณไฟแดง หรือ มีเส้นถนนแสดงสัญลักษณ์จุดเสี่ยงอันตรายให้สะดุดตากับผู้ใช้รถใช้ถนน เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุ ลดการสูญเสีย

ด้านนายสุภชัย ดรมุทิกุล อาสามูลนิธิประชาร่วมใจรัษฎา กล่าวว่า จุดนี้เกิดอุบัติเหตุเฉลี่ยเดือนละ 1 ครั้ง ซึ่งบางครั้งก็แค่เฉี่ยวชนกันไม่มีคนเจ็บ หรือบาดเจ็บเล็กน้อย และร้ายแรงสุดก็มีคนเสียชีวิต ซึ่งในช่วงกลางคืนหากขับรถไม่ชินเส้นทางหรือมาจากต่างถิ่นจะไม่รู้เลยว่าตรงนี้เป็นสี่แยก เพราะมืด ไฟส่องสว่างไม่เพียงพอ และถึงแม้ตนเองจะใช้เส้นทางนี้ทุกวันบางครั้งก็ลืมไปเหมือนกันว่าตรงนี้เป็นสี่แยก เพราะไม่มีสัญญาณไฟเตือน หรือเส้นถนนเตือนเลย และแม้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามคลิปจะไม่มีผู้เสียชีวิต แต่ก็ถือเป็นอุบัติเหตุใหญ่ มีคนเจ็บ 12 ราย และทั้งหมดเป็นรถยนต์ที่มาจากต่างจังหวัด

คนิตา สีตอง รายงานจากจ.ตรัง

สี่แยกอันตราย