svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ภูมิภาค

อส.ตร.ที่ก่อเหตุยิงกันดับ ไม่ขอทำแผนฯ อ้างกลัวความไม่ปลอดภัย

30 ธันวาคม 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

อส.ตร.ที่ก่อเหตุยิงกันดับ ไม่ขอทำแผนฯ อ้างกลัวความไม่ปลอดภัย ตร.ส่งตัวฟ้องศาลหลายข้อหาหนัก พร้อมคัดค้าประกันตัว

30 ธันวาคม 2565 ความคืบหน้าเหตุ อส.ตร. ยิงเพื่อนร่วมงานเสียชีวิต 1 คน บาดเจ็บถูกยิงเข้าหลังอีก 1 คน ที่ อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ มีเรื่องบาดหมางกันมาก่อน เจอกันในงานบุญเกิดเขม่น เดินตามไปยิงคู่อริบาดเจ็บ พร้อมเพื่อนที่อยู่ด้วยเสียชีวิต ไม่ขอทำแผนเนื่องจากกลัวไม่ปลอดภัย ขณะที่ผู้เห็นเหตุการณ์ เข้าช่วยแย่งปืนได้ทัน ฝากเป็นอุทาหรณ์ อส.ตร. ทำไมถึงมีปืนพกมาก่อเหตุขนาดนี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 

อส.ตร.ที่ก่อเหตุยิงกันดับ ไม่ขอทำแผนฯ อ้างกลัวความไม่ปลอดภัย

 

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บ้านโนนสำราญ หมู่ 8 ต.กุดขอนแก่น อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น จุดที่เกิดเหตุพบว่า ยังมีคราบเลือดของผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บอยู่ตรงริมถนน มุม 3 แยกหน้าบ้านที่เกิดเหตุ โดยชาวบ้านได้นำเหล้ามาราดคราบเลือด เพื่อดับกลิ่นคาว พร้อมกันนี้ผู้สื่อข่าวได้พบกับนาย นฤชล วงษ์คง อายุ 48 ปี ชาวบ้านที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ และชาวบ้านอีกหลายคน ซึ่งต่างตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

บางส่วนก็คิดว่า เป็นเรื่องที่จะต้องเกิดขึ้นสักวัน เพราะผู้ก่อเหตุและผู้บาดเจ็บนั้น มีเรื่องบาดหมางกันมาก่อน ส่วนผู้เสียชีวิตไม่ได้มีเรื่องบาดหมาง ด้วยแต่เป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกันกับผู้บาดเจ็บ และชาวบ้านยังบอกอีกว่า ทั้ง 3 คนนั้น เป็น อส.ตร. ทำงานร่วมกันในหมู่บ้านมานานแล้ว
อส.ตร.ที่ก่อเหตุยิงกันดับ ไม่ขอทำแผนฯ อ้างกลัวความไม่ปลอดภัย
 

นายนฤชล วงษ์คง อายุ 48 ปี ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ และเป็นคนเข้าไปแย่งปืนจากผู้ก่อเหตุได้ เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นบนถนนท้ายหมู่บ้าน ใกล้กับเวทีหมอลำ งานบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับญาติครอบครัวเจ้าภาพ ซึ่งจ้างหมอลำมาทำการแสดงอยู่ที่หน้าบ้าน ขณะที่ทุกคนอยู่ในงานก็สนุกสนานกันตามปกติ

ก่อนที่เวลาประมาณ 22.30 น. นายชูจิตร และนาย สมพร ซึ่งทั้งคู่เป็นเพื่อนในกลุ่มเดียวกัน เดินออกมาปัสสาวะในจุดเกิดเหตุ ริมถนนท้ายหมู่บ้าน โดยทั้งคู่เดินออกมาและแยกกันปัสสาวะ ซึ่งนายสมพรผู้บาดเจ็บ และมีเรื่องบาดหมางกับผู้ก่อเหตุ เดินไปปัสสาวะทางมุมด้านซ้าย ส่วนนายชูจิตร เพื่อนกลุ่มเดียวกันกับนายสมพรเดินแยกไปปัสสาวะที่มุมด้านขวา

จังหวะนั้น นายอุทัย ผู้ก่อเหตุก็เดินตามไป แล้วใช้ปืนยิงเข้าที่กลางหลังนายสมพร จนได้รับบาดเจ็บ ส่วนนายชูจิตรวิ่งเข้าไปช่วยเพื่อน ถูกนายอุทัยยิงเข้าที่ชายโครงซ้าย ก่อนที่ตนเองและชาวบ้านคนอื่น ๆจะช่วยกันจับ โดยตนได้เข้าไปกำปืนลูกโม่ ของผู้ก่อเหตุเอาไว้ไม่ให้ลั่นไก และพยายามทุบที่ข้อมือ จนปืนหลุดออกจากมือนายอุทัย ก่อนที่ชาวบ้านจะช่วยกันมัดตัวนายอุทัยเอาไว้ แล้วแจ้งตำรวจมาควบคุมตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมาย
อส.ตร.ที่ก่อเหตุยิงกันดับ ไม่ขอทำแผนฯ อ้างกลัวความไม่ปลอดภัย

นายนฤชล บอกอีกว่า สาเหตุลึก ๆ นั้นไม่ทราบว่า ทั้งคู่มีเรื่องบาดหมางอะไรกันมาก่อน แต่เท่าที่ตนเองเคยเห็นหลังจากมาอยู่อาศัยที่หมู่บ้านนี้ ก็เห็นทั้งคู่เคยทะเลาะ จนกระทั่งเหตุการณ์ล่าสุด ซึ่งไม่มีใครคาดคิดว่า จะเกิดขึ้น จนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บดังกล่าว ตนอยากจะฝากเรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ ในเรื่องของอาวุธปืน อส.ตร. สามารถพกพาอาวุธปืนไปในที่ต่าง ๆ จนนำไปสู่การก่อเหตุ ก็อยากจะฝากในเรื่องนี้ด้วย

ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปที่ บ้านของผู้เสียชีวิต พบกับ นาง ปราณี สีภูมิไตร อายุ 50 ปี พร้อมญาติ ๆ และผู้นำชุมชนช่วยกันจัดเตรียมงานศพรอรับแขก และจะเคลื่อนย้ายศพไปประกอบพิธีฌาปนกิจในช่วงบ่ายวันนี้ทันที เนื่องจากไม่อยากให้ตั้งศพข้ามปี

ส่วนตัวไม่ทราบสาเหตุเป็นเรื่องอะไร เพราะสามีตนเองก็ไม่ได้มีเรื่องบาดหมาง แต่คนที่มีเรื่องบาดหมางเป็นผู้บาดเจ็บ ซึ่งเป็นเพื่อนสามีกับผู้ก่อเหตุ และขออโหสิกรรมให้ไม่ต้องมีอะไรติดค้างยุ่งเกี่ยวกัน และในส่วนของทางคดี ก็ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย
อส.ตร.ที่ก่อเหตุยิงกันดับ ไม่ขอทำแผนฯ อ้างกลัวความไม่ปลอดภัย

ด้าน พ.ต.อ.ไพโรจน์ ไตรธรรม ผกก.สภ.ภูเวียง กล่าวว่า ทั้ง 3 คนนั้น ปัจจุบันเป็น อดีต อส.ตร.สภ.ภูเวียง ซึ่งไม่ได้มีการต่ออายุบัตรมาตั้งแต่ปี 2561 เนื่องจากผู้ก่อเหตุ คือนายอุทัย ประพฤติตนไม่เหมาะสมในพื้นที่ ทาง สภ.ภูเวียง จึงไม่ได้มีการต่ออายุบัตร อส.ตร.สภ.ภูเวียง ให้กับใครอีก

เหตุการณ์ดังกล่าวนั้น เป็นงานบุญอุทิศส่วนกุศลของชาวบ้าน ที่จัดขึ้นให้กับผู้เสียชีวิตซึ่งเป็นญาติ และได้จ้างหมอลำ มาทำการแสดงที่หน้าบ้าน โดยขณะเกิดเหตุนั้น เป็นช่วงก่อนหมอลำเลิก ซึ่งทางตำรวจได้รับแจ้งก็ลงพื้นที่ และสามารถควบคุมตัวผู้ก่อเหตุได้แล้ว และพบว่า มีผู้บาดเจ็บ 2 ราย ก่อนเสียชีวิตที่โรงพยาบาล 1 ราย ส่วนอีกรายอาการปลอดภัย อยู่ในความดูแลของแพทย์

ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เป็นคนลงมือยิงทั้งคู่จริง ส่วนรายละเอียดอยู่ในสำนวนการสอบสวน ไม่สามารถเปิดเผยได้ หลังสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ และไม่ขอไปทำแผน เนื่องจากกลัวจะไม่ปลอดภัย ตำรวจจึงควบคุมตัวนายอุทัย ส่งฟ้องศาล จ.ชุมแพ ดำเนินคดีในข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พยายามฆ่าผู้อื่น และความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.อาวุธปืน พร้อมคัดค้านการประกันตัว ในชั้นพนักงานสอบสวน เนื่องจากมีอัตราโทษสูงตามขั้นตอนต่อไป
อส.ตร.ที่ก่อเหตุยิงกันดับ ไม่ขอทำแผนฯ อ้างกลัวความไม่ปลอดภัย

ข่าว : พรพรรณ เพ็ชรแสน จ.ขอนแก่น
 

logoline