พระราชทานเพลิงศพ 3 กำลังพล"เรือหลวงสุโขทัย"อับปาง
กองทัพเรือทำพิธีพระราชทานเพลิงศพอีก 3 นายทหาร ประสบเหตุเรือหลวงสุโขทัยอับปาง พร้อมเคลื่อนร่างนายทหารอีก 4 นายทหาร ที่พิสูจน์อัตลักษณ์ยืนยันตัวบุลคลเสร็จสิ้น มาทำพิธีที่ฐานทัพเรือสัตหีบ
26 ธันวาคม 2565 จากกรณี "เรือหลวงสุโขทัย" ประสบภัยคลื่นลมแรง กระทั่งอับปางกลางทะเลอ่าวไทย ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา กองพิธีการศพที่ได้รับการพระราชทาน มาจัดเตรียมสถานที่ เพื่อรองรับพิธีพระราชทานเพลิงศพนายทหารที่เสียชีวิต จากเหตุ"เรือหลวงสุโขทัย" อับปางกลางทะเลอ่าวไทย
ทั้งนี้ช่วงเวลา 13.00 น. พลเรือเอก เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธีพระราชทานเพลิงศพ กำลังพล"เรือหลวงสุโขทัย" ณ ฌาปนสถานกองทัพเรือสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ดังนี้
- ว่าที่เรือเอก สามารถ แก้วผลึก สรั่งช่างกล แผนกช่างกล เรือหลวงสุโขทัย กองเรือยุทธการ
- พันจ่าเอก อัชชา แก้วสุพรรณ์ ช่างโซนาร์ แผนกอาวุธและการเรือ
- พันจ่าเอก อำนาจ พิมที
สำหรับทหารทั้ง 3 นาย เป็นทหารชุดเเรกที่เจอร่างพร้อมกัน 6 ราย ซึ่งลอยเกาะกลุ่มกันห่างจากเรืออับปาง กว่า 50 กม. โดยในช่วงเช้าเป็นพิธีทางสงฆ์ มีบรรดาเหล่าทหารร่วมร่วมพิธี เเละร่วมเตรียมสถานที่ โดยจะมีการเชิญไฟพระราชทาน โดยมีบรรดาเหล่านายทหารของสังกัดกองทัพเรือ มาร่วมไว้อาลัย
สำหรับทหารที่เสียชีวิตได้รับการเลื่อน 5 ขั้นยศ และการเยียวยากำลังพลที่เสียชีวิต ดังนี้
- ว่าที่เรือเอก สามารถ แก้วผลึก เป็น พลเรือตรี สามารถ แก้วผลึก ได้รับเงินจากทางราชการ รวม 2,000,000 บาท
- พันจ่าเอก อำนาจ พิมที เป็น นาวาตรี อำนาจ พิมที ได้รับเงินจากทางราชการ รวม 1,000,000 บาท
- พันจ่าเอก อัชชา แก้วสุพรรณ์ เป็น นาวาตรี อัชชา แก้วสุพรรณ์ ได้รับเงินจากทางราชการ 1,000,000 บาท
นอกจากนี้ ยังจะมีร่างที่ผ่านขั้นตอนและกระบวนการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล จากทางนิติเวช โรงพยาบาลตพรวจ ประกอบด้วย พลทหารวรพงษ์ บุญละคร สังกัด หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานทางรักษาฝั่ง, จ่าตรี ศราวุธ นาดี, จ่าเอก ชูชัย เชิดชิด และพลทหาร สุทธิพงษ์ หงส์ทอง ซึ่งพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลโดยการตรวจดีเอ็นเอ ยืนยันตัวบุคคลเสร็จสิ้น จะเคลื่อนร่างจากโรงพยาบาลตำรวจ ขึ้นเครื่องบินแบบฟอกเกอร์ กองทัพเรือ จากกองบิน 6 มายังสนามบินอู่ตะเภา เวลา 15.00 น.
สรุปการช่วยเหลือผู้ประสบภัย เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 25 ธ.ค.ที่ผ่านมา ยอดกำลังพล"เรือหลวงสุโขทัย" 105
นาย รอดชีวิตจำนวน 76 นาย เสียชีวิตรวม 18 นาย ในจำนวนนี้สามารถระบุชื่อได้แล้ว 7 นาย มีหลักฐานบ่ง
ชี้ว่าเป็นกำลังพลกองทัพเรือ และอยู่ในกระบวนการของการพิสูจน์อัตลักษณ์เพื่อยืนยันตัวบุคคล 11 นาย