ถูกรางวัลที่ 1 ส่อทุกขลาภ ลูกชาย แม่ผัว ลูกสะใภ้ ทะเลาะกันวุ่น

22 ธันวาคม 2565 จากกรณีที่นางอ่อน (สงวนนามสกุล) อายุ 67 ปี ชาวตำบลหนองตาด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ได้นำหลักฐานที่ลูกชายไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.เมืองบุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. ที่ผ่านมา พร้อมสมุดบัญชีธนาคาร และรายการเบิกถอนเงินจากบัญชีธนาคารของ นายไมล์ (สงวนนามสกุล) อายุ 48 ปี หรือ อดีตพระไมล์ ซึ่งเป็นลูกชายที่เคย ถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 งวดประจำวันที่ 1 ส.ค.65 ได้เงินรางวัล 6 ล้านบาท



แล้วได้สึกออกไปแต่งงาน ถูกนางกนกวรรณ หรือ นาง อายุ 50 ปี ภรรยาที่เพิ่งแต่งงานอยู่กินกันได้แค่ 3 เดือน หลอกลวงเอาเงินและทรัพย์สินของลูกชาย ที่ได้มาจากการถูกลอตเตอรี่จนหมดตัว ล่าสุดเมื่อวันที่ 18 ธ.ค.65 ลูกสะใภ้ได้แอบไปถอนเงินก้อนสุดท้าย 480,000 บาท ที่เหลือในบัญชีของลูกชาย ไปจนหมด เหลือเงินติดบัญชีแค่ 2 บาท

ล่าสุดวานนี้ (21 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้าน นางอ่อน พบว่า มีญาติพี่น้องและชาวบ้านมาให้กำลังใจหลายคน เพราะหลังจากที่ออกมาร้องขอความเป็นธรรม กลัวลูกสะใภ้หลอกเอาเงินทรัพย์สินลูกจนหมดตัว โดยช่วงบ่ายวานนี้ (21 ธ.ค.) นายไมล์ ลูกชายพร้อมญาติเมียอีก 2 คน ได้บุกมาทวงเอารถหกล้อเล็กบรรทุกเครื่องเสียงที่จอดไว้หน้าบ้านของแม่คืน แต่แม่บอกว่าไม่ให้เพราะกลัวลูกจะเอาไปขาย และที่ไม่ให้เอาไปเพราะอยากจะเก็บไว้ให้ลูก หากวันใดวันหนึ่งลูกหมดตัวไม่เหลืออะไร หรือถูกเมียทิ้ง ก็ต้องกลับมาอยู่กับแม่เหมือนเดิม

ขณะที่ลูกชายมาโวยวายทวงรถและต่อว่าแม่ ก็มีชาวบ้านบันทึกคลิปเหตุการณ์ไว้ด้วย ซึ่งเป็นภาพที่นายไมล์ บังคับจะเอากุญแจรถจากแม่ แต่พอแม่ไม่ให้ก็ตะโกนด่าด้วยความโมโหต่อหน้าญาติและชาวบ้าน

จากการสอบถามผู้เป็นแม่ บอกว่า ล่าสุดวานนี้( 21 ธ.ค.) ลูกชายได้บุกมาทวงรถหกล้อที่จอดไว้หน้าบ้านแม่ จะเอาไปที่บ้านเมีย แต่พอตนเองบอกว่าไม่ให้ เพราะอยากเก็บไว้ให้ลูกชาย หากอนาคตลูกไม่เหลืออะไรหรือถูกเมียทิ้ง เพราะไม่มีอะไรแน่นอน ที่ผ่านมาหลังจากลูกถูกลอตเตอรี่ ก็ไม่ได้เรียกร้องอะไรจากลูก บ้านที่ลูกสร้างให้ก็ยังสร้างไม่เสร็จและไม่รู้ว่าลูกจะสร้างให้ต่อจนเสร็จหรือไม่ ตนจึงอยากดูแลรถหกล้อและที่ดินที่ลูกซื้อไว้ตอนถูกลอตเตอรี่เอาไว้ให้ลูก แต่ลูกกลับมาโวยวายใส่ ทั้งขู่จะทำร้ายแล้วยังประกาศตัดแม่ลูก ถ้าแม่ตายก็จะไม่ยอมมาเผาศพด้วย ตนก็รู้สึกเสียใจมากที่ลูกมาทำแบบนี้

จากนั้นผู้สื่อข่าวก็ไปสอบถาม นายไมล์ ลูกชายซึ่งอยู่ที่บ้านภรรยา ก็ยอมรับว่าได้ไปทวงเอารถหกล้อบรรทุกเครื่องเสียงที่จอดไว้ที่บ้านแม่จริง เพื่อจะเอาไปแห่งานต่างๆ ในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่รับเอาไว้ล่วงหน้าหลายงาน ถ้าไม่มีรถเครื่องเสียงไปรับงานก็ต้องเสียค่าปรับที่รับงานเอาไว้ พอแม่ไม่ยอมเอากุญแจให้ก็เอารถเครื่องเสียงมาไม่ได้ จึงโมโหพลั้งปากต่อว่าแม่ ก็อยากจะขอโทษแม่ พร้อมทั้งยกมือไหว้ขอโทษแม่ผ่านสื่อด้วย ส่วนที่แม่กังวลว่า ภรรยาจะหลอกเอาเงินหรือทรัพย์สินของตนเองนั้น ยืนยันว่าตอนนี้ทรัพย์สินที่ตนเองซื้อเก็บไว้ ก็ยังเป็นชื่อของตนไม่ได้ยกให้ภรรยา ส่วนเงินที่ภรรยาถอนออกมาล่าสุดภรรยาก็เป็นคนเก็บไว้



ด้านนางกนกวรรณ ภรรยา ซึ่งวันนี้ใส่ทั้งสร้อยทอง กำไลทอง และแหวนเพชร ที่สามีให้เป็นสินสอดวันแต่งงาน กล่าวว่าสินสอดยังอยู่ครบ ส่วนเงิน 480,000 บาทที่ถอนออกมาล่าสุดก็ยังอยู่กับตัวเอง แต่เหลือเพียงหลักหมื่นเท่านั้นเพราะใช้ซื้อของมาตกแต่งรถแห่ไว้รับงาน แต่ยืนยันว่าไม่ได้หลอกจะเอาเงินสามีตามที่แม่หรือญาติฝ่ายชายกล่าวหา ยืนยันว่าที่แต่งงานและใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันเพราะความรัก ซึ่งหากจะเลิกหรือแยกทางกัน ก็ขึ้นอยู่กับเราสองคนไม่ได้เกี่ยวกับเงินหรือคนอื่น ส่วนปัญหาระหว่างแม่กับสามีที่ไม่เข้าใจกันตนไม่อยากยุ่ง

จากนั้นช่วงค่ำผู้สื่อข่าวได้พาแม่ไปหาลูกชายที่บ้านภรรยา เพื่อจะได้พูดคุยทำความเข้าใจกัน แต่ลูกชายกลับเมาหลับอยู่ในบ้าน พอลุกขึ้นมาก็พูดคุยกันไม่รู้เรื่อง ส่วนภรรยาไม่ขอยุ่งได้ปล่อยให้แม่ลูกเขาคุยกันเอง แต่สุดท้ายก็ยังตกลงกันไม่ได้เพราะลูกชายอยู่ในอาการเมาค้าง

สุรชัย พิรักษา รายงานจากจ.บุรีรัมย์