ผู้บริหาร "คลับวัน พัทยา" อ้างเมา! ปมเคลียร์แล้วยังถูกจับ

จากกรณีเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ป้องกันจังหวัดชลบุรี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบภาคสอง เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนจังหวัดชลบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองพัทยา บุกเข้าจับกุมผับ "คลับวัน พัทยา" ระหว่างนั้นมีชายรายหนึ่งโวยวายอ้างได้เคลียร์จ่ายเงินกับหน่วยงานรวมถึงผู้ใหญ่ไปแล้ว ก่อนที่กลุ่มนักท่องเที่ยวจะกรูเข้าผลักเจ้าหน้าที่เพื่อเลี่ยงการตรวจปัสสาวะ และออกจากตัวผับไป ตามที่ได้มีการนำเสนอข่าวไปแล้ว นั้น

23 ตุลาคม 2565 นายนิติพัฒน์ (สงวนนามสกุล) ผู้บริหารร้านคลับวัน พัทยา และนายแบ้งค์ (สงวนนามสกุล) ที่ปรึกษาร้านฯ ชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ว่าขณะที่กำลังปิดร้านเช็คบิลอยู่นั้น ได้มีเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจค้นนั้น จึงเข้าไปพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ โดยมีการพูดถึงผู้ใหญ่ จริงแล้วตนเองไม่เคยพูดคุยหรือรู้จักกับผู้ใหญ่มาก่อนเลย แต่ที่ได้มีการแอบอ้างชื่อผู้ใหญ่ขึ้นนั้น เนื่องจากมีอาการเมา รวมถึงกลัวว่าร้านจะถูกจับกุม ซึ่งตนก็อยากขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ที่ผ่านมาทางร้านก็ได้ทำตามระเบียบตามนโยบายทุกอย่างในเรื่อง ยาเสพติด อาวุธปืน เยาวชน แต่ที่พบยาเสพติดในร้านนั้น เนื่องจากมันเกินความควบคุมจริงๆ

"อยากจะขอโทษทางผู้ใหญ่ ทั้งผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรีและผู้การจังหวัดชลบุรี กับคำพูดเนื่องจากมีการดื่มจนเมา จึงมีการพูดจาไม่เหมาะสม ก็อยากขอโทษจากคำพูดที่แอบอ้างไปโดยผู้ใหญ่ไม่ได้รู้เรื่อง ซึ่งหลังจากนี้คงต้องไปขอโทษกับทางผู้ว่าราชการจังหวัดด้วยตนเอง ที่ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง พร้อมยืนยันว่าไม่เคยเจอกับผู้ใหญ่ที่กล่าวอ้างไปแต่อย่างใด" ผู้บริหารร้านคลับวัน พัทยา กล่าว 

ขณะเดียวกันได้มีหนังสือชี้แจ้งจากผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ข้อความอ้างถึงโทรสารจังหวัดชลบุรี ด่วนที่สุด ที่ ชบ 0018/ว 186 ลงวันที่ 23 ตุลาคม 2565 ได้รายงานชื่อ "ร้านคลับ-วัน" ตั้งอยู่บริเวณ ถ.เพชรตระกูล หมู่ 9 การดำเนินคดีตามกฎหมายกับสถานประกอบการ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

จากการจับกุมสถานประกอบการดังกล่าวได้มีกำลังเจ้าหน้าที่ จากหลายหน่วยร่วมปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าว โดยมี หน่วยปฏิบัติการพิเศษ บก.สส.ภ.2 จำนวน 10 นาย เจ้าหน้าที่จากกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี 10 นาย ฝ่ายปกครอง 27 นาย และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา จำนวน 15 นาย

ซึ่งในการปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวปรากฏมีข่าวสารตามสื่อโซเชียลปรากฎว่ามีบุคคลในคลิปภาพและเสียงระบุว่า "ผู้ใหญ่ผมดูแลแล้ว ผมจ่ายก่อนใครเลย ดูแลในช่องผู้ว่าด้วย โต๊ะกินข้าวด้วยกัน ผมนั่งกินข้าวอยู่ด้วยกัน ผู้ว่าด้วย" เรื่องดังกล่าวทางจังหวัดชลบุรี ได้ชี้แจงว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ไม่เคยรู้จักกับบุคคลดังกล่าวมาก่อน และปัจจุบันทางจังหวัดชลบุรี กำลังตรวจสอบคลิปข้อมูลดังกล่าว ว่าเข้าข่ายกระทำผิดตามกฎหมายหรือไม่หากพบว่ามีความผิดตามกฎหมาย จะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีให้เป็นไปตามกฎหมายต่อไป

ส่วนประเด็นที่มีการเข้าตรวจค้นผับ "คลับวัน พัทยา" ปรากฏว่ามีนักท่องเที่ยวล้นออกมา จนไม่สามารถควบคุมได้ เนื่องจากบริเวณสถานประกอบการดังกล่าวมีประตูทางเข้า-ออกหลายทาง ประกอบกับนักท่องเที่ยวผู้ใช้บริการมีจำนวนมาก ซึ่งระหว่างที่เข้าตรวจสอบ กลุ่มนักท่องเที่ยวผู้ใช้บริการส่วนใหญ่มีอาการมึนเมา ได้ไปรวมตัวและดันเจ้าหน้าที่ออกทางด้านหน้าเป็นจำนวนมาก จนไม่สามารถกันนักท่องเที่ยวได้เกรงว่าหากใช้ความรุนแรงในการปิดกั้นและควบคุมจะเกิดการกระทบกระทั่งกับนักท่องเที่ยว และบางส่วนอาจได้รับบาดเจ็บ หรือเกิดเหตุบานปลายขึ้น ทำให้เกิดภาพลักษณ์ไม่ดีต่อหน่วยงานราชการและพื้นที่เมืองท่องเที่ยวได้

สำหรับกรณีได้ปรากฏข้อมูลข่าวสารตามสื่อโซเชียลมีเดียว่าจังหวัดชลบุรีได้ผ่อนผันให้ผู้ประกอบการในพื้นที่พัทยา สามารถเปิดบริการหรือประกอบการได้เกินกว่าเวลาที่กฎหมายกำหนดนั้น ทางจังหวัด ยืนยันว่า ไม่ได้มีนโยบายดังกล่าว และได้กวดขันจับกุมดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด อย่างเคร่งครัดตลอดมา

ส่วนการดำเนินคดีหลังการจับกุมนั้น ได้ควบคุมตัวคนดูแล แจ้ง 4 ข้อหาหนัก 1. จำหน่ายสุราโดยไม่ได้รับอนุญาต 2. จำหน่ายสุราเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด 3. เปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต 4. ยินยอมหรือปล่อยประละเลยให้มีการพกพาอาวุธ วัตถุระเบิด หรือยาเสพติดเข้าไปสถานที่ของตน ส่งตัวให้ สภ.เมืองพัทยา ดำเนินคดีตามกฎหมาย

ข่าว : เอกชัย สุขวัฒนะ,ทิวากร กฤษมณี จ.ชลบุรี